กูร์เมต์ ปรับฟอร์แมตสาขารับปี’68 เติมร้านอาหาร-นวัตกรรมแม็กเนตชิงลูกค้า

gourme

กูร์เมต์คาดค้าปลีกท้าทายต่อเนื่องทั้งปี’68 หลังหนี้ครัวเรือน-สงครามรุมเร้า กางแผนดันอาหารเป็นแม็กเนตสำคัญ พร้อมส่งนวัตกรรมรถเข็นช็อปปิ้งอัจฉริยะเสริมทัพ ปรับฟอร์แมตสาขา หวังชิงฐานลูกค้าพรีเมี่ยม ยืนยันไม่มีแผนลดคนแน่นอน

นายศุภวุฒิ ไชยประสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต และฟู้ด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารซูเปอร์มาร์เก็ต “กูร์เมต์ มาร์เก็ต” เปิดเผยว่า ตลาดค้าปลีกช่วงโค้งท้ายปี 2567 นี้ รวมไปถึงปี 2568 ที่จะถึงยังมีแนวโน้มท้าทายมากจากหลายปัจจัยทั้งในไทยและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสภาพเศรษฐกิจไทยและยุโรป สถานการณ์ความขัดแย้งในยุโรปตะวันออกและตะวันออกกลาง รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต่างส่งผลต่อความต้องการสินค้า และมูลค่า-ความถี่ของการจับจ่าย

ชนชั้นกลางกระทบในรอบ 10 ปี

โดยหนึ่งในปัจจัยที่ต้องจับตาและรับมือคือ การจับจ่ายของชนชั้นกลางเริ่มชะลอลง นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี สะท้อนจากข้อมูลของบริษัทวิจัยเอซีนีลเส็น ซึ่งช่วงไตรมาส 3 ชนชั้นกลางใช้จ่ายกับสินค้าอุปโภคบริโภคน้อยลง 8-9% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

ขณะเดียวกันยังเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงในกลุ่มผู้บริโภคกำลังซื้อสูงที่เริ่มระมัดระวังการจับจ่ายมากขึ้น เชื่อว่าเป็นผลจากสภาพเศรษฐกิจและปัญหาหนี้ครัวเรือนพุ่งสูง จนผลกระทบแผ่ขยายขึ้นมายังกลุ่มระดับกลาง

อีกปัจจัยคือ พฤติกรรมผู้บริโภคซึ่งหลากหลายและเปลี่ยนแปลงรวดเร็วขึ้นกว่าในอดีตมาก เช่น ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าทั้งจากการใช้เงินและเวลา ต้องการความสะดวกแบบวันสต็อปช็อปปิ้ง ทำอาหาร-ซื้อของเข้าบ้านน้อยลง หันมาทานนอกบ้านแทน รวมถึงต้องการสินค้าที่อำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตอย่าง วัตถุดิบอาหารแบบพร้อมปรุง เป็นต้น

ขณะเดียวกันยังมีความรู้ความเข้าใจในสินค้าที่ตนเองต้องการมากขึ้นด้วย ส่งผลให้นอกจากความเร็วของการปรับแผนธุรกิจ-การตลาดแล้ว ความเข้าใจเชิงลึกในตัวสินค้าจะทวีความสำคัญต่อการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้นด้วย

ADVERTISMENT

ส่วนช่วงโค้งท้ายของไตรมาส 4 นี้จะเป็นโอกาสสำคัญที่ค้าปลีกจะสามารถสร้างยอดขายได้ก่อนปิดปี ด้วยแรงหนุนจากงานเทศกาลและกิจกรรม เช่น การสังสรรค์ในที่ทำงาน การให้ของขวัญช่วงปีใหม่ ฯลฯ มาสร้างดีมานด์กระเช้า ขนม ผลไม้ เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก ฯลฯ

นอกจากนี้ กลุ่มอาหารทั้งวัตถุดิบ อาหารพร้อมปรุง-ทาน และร้านอาหาร จะเป็นแม็กเนตสำคัญของธุรกิจค้าปลีก เนื่องจากเป็นสินค้าจำเป็น และตอบโจทย์เทรนด์ทานอาหารนอกบ้าน

ADVERTISMENT

ถนนทุกสายมุ่งสู่ซูเปอร์มาร์เก็ต

สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปนี้ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่ผู้ค้าปลีกต่างพยายามมุ่งสู่การเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตกันมากขึ้นทั้งด้านขนาดพื้นที่ และไลน์อัพสินค้า

เห็นได้จากกลุ่มไฮเปอร์มาร์เก็ตที่พยายามลดพื้นที่ขายและแทนที่ด้วยพื้นที่เช่า ส่วนกลุ่มร้านสะดวกซื้อหันมาเพิ่มสินค้าวัตถุดิบอาหารสด อาหารพร้อมปรุง อาหารพร้อมทาน รวมถึงเพิ่มพื้นที่จอดรถ

ปรากฏการณ์นี้แม้จะช่วยยืนยันศักยภาพของซูเปอร์มาร์เก็ต แต่ทำให้การแข่งขันในเซ็กเมนต์นี้ดุเดือดขึ้นด้วยเช่นกัน

ปรับฟอร์แมตใหม่จัดเต็มอาหาร

นายศุภวุฒิกล่าวต่อไปว่า บริษัทจะรับมือความท้าทายและชิงความได้เปรียบ
ในการแข่งขัน ด้วยการเน้นตอบโจทย์ผู้บริโภค พร้อมกับยกระดับโพซิชั่น
วันสต็อปช็อปปิ้ง

โดยการขยายสาขาในปี 2568 นั้น ยังคงวางเป้าปักธงสาขาใหม่ 1-2 สาขาในขนาด 2,000 ตร.ม.ขึ้นไป และเน้นอาหารเป็นแม็กเนตหลักเช่นเดิม แต่จะยกระดับความครบวงจรด้านอาหารมากยิ่งขึ้นให้รองรับทั้งการซื้อกลับและนั่งทานเพื่อตอบรับเทรนด์วันสต็อปช็อปปิ้ง และความนิยมทานอาหารนอกบ้าน

ด้วยการปรับฟอร์แมตสาขาใหม่ อัพเกรดเคาน์เตอร์ปรุงอาหารในพื้นที่ซูเปอร์มาร์เก็ตให้มีความเป็นร้านอาหารมากขึ้น โดยมีเมนูให้สั่งนั่งทาน หรือซื้อกลับบ้าน เช่นเดียวกับโซนร้านอาหารนอกพื้นที่ซูเปอร์นั้น จะร่วมมือกับเจ้าของพื้นที่ เช่น บุญถาวร คัดเลือกร้านให้ไม่ซ้ำซ้อน แต่เสริมแกร่งการดึงดูดลูกค้าของทั้ง 2 ฝ่าย รวมถึงจะเพิ่มพื้นที่นั่งส่วนกลางเข้าไป

ทั้งนี้ จำนวนร้านอาหารในแต่ละสาขาจะแตกต่างกันโดยอาจมีได้มากถึง 100 ร้านค้า ขึ้นกับทำเล นอกจากนี้ยังยกระดับการบริการของพนักงานให้สามารถแนะนำสินค้าได้ลึกขึ้น เช่น เทคนิคการปรุง หรืออาหารที่ควรทานคู่กัน เป็นต้น

ปูพรมรถเข็นอัจฉริยะ

นอกจากการปรับฟอร์แมตสาขาแล้ว บริษัทยังเริ่มเสริมจุดเด่นด้านความสะดวกมาเป็นอีกแม็กเนต เนื่องจากเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง ด้านความถี่การมาจับจ่ายลดลง จึงต้องชิงปรับตัวล่วงหน้า

ด้วยการเปิดตัว Gourmet Market Smart Cart รถเข็นช็อปปิ้งอัจฉริยะพร้อมจอทัชสกรีน ซึ่งมีฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกนักช็อปทั้งนำทางไปหาสินค้าที่ต้องการ แจ้งโปรโมชั่น คำนวณราคาสินค้า รวมถึงทำงานร่วมกับเครื่อง Self-Check Out ช่วยให้ไม่ต้องต่อคิวคิดเงิน โดยปูพรม 200 คันในสาขาพารากอน เอ็มโพเรียม และเอ็มควอเทียร์ ตั้งแต่ 12 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป และมีแผนเพิ่มการใช้งานที่กูร์เมต์ มาร์เก็ต สาขาเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ในปี 2568 อีกด้วย

ยืนยันไม่ลดคน

นายศุภวุฒิยังย้ำอีกว่า แม้สภาพเศรษฐกิจจะยังท้าทาย แต่บริษัทไม่มีแผนปรับลดพนังงาน เนื่องจากดำเนินการอัพสกิลพนักงานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถอย่างต่อเนื่อง เช่น ด้านการบริการ นอกจากนี้ในวงการค้าปลีกน่าจะไม่มีการลดคนเช่นเดียวกัน เนื่องจากยังขาดแคลนบุคลากรที่มีสกิลเฉพาะทางด้านต่าง ๆ อยู่อีก

เชื่อว่าร้านฟอร์แมตใหม่ นวัตกรรม รวมถึงการบริการของพนักงาน จะเป็นแม็กเนตที่ดึงดูดผู้บริโภคเข้ามาใช้บริการ และกระตุ้นการจับจ่าย รวมถึงสร้างการเติบโตและความได้เปรียบในการแข่งขันได้