
“ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” มูลค่า 46,000 ล้านบาท คืบหน้าตามแผน พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2568 ด้าน “โรงแรมดุสิตธานี แบงคอก” เปิดให้บริการแล้ว ผลตอบรับดีเกินคาด ขณะที่ “เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” มียอดขายแล้วกว่า 85% ส่วน “เซ็นทรัล พาร์ค ออฟฟิศ” และ “เซ็นทรัล พาร์ค รีเทล” เตรียมเปิดให้บริการไตรมาส 3 ปี 2568 นี้
นางสาวละเอียด โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิมานสุริยา จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการเมกะโปรเจ็กต์ใจกลางกรุงเทพฯ มูลค่า 46,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 23 ไร่ มุมถนนสีลม-พระราม 4 ว่า ขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้ากว่า 70% โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2568 เพื่อเดินหน้าสู่การเป็นแลนด์มาร์กระดับโลก
โดยโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” จะประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ได้แก่ โรงแรมดุสิตธานีโฉมใหม่ อาคารสำนักงาน “เซ็นทรัล พาร์ค ออฟฟิศ” ศูนย์การค้า “เซ็นทรัล พาร์ค รีเทล” และโครงการที่พักอาศัยระดับอัลตราลักเซอรี่ “เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” โดยมีไฮไลต์สำคัญคือสวนสาธารณะ “รูฟ พาร์ค” ขนาด 11,000 ตร.ม. ซึ่งเป็นสวนลอยฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ซึ่งในปีนี้ได้เริ่มเปิดให้บริการส่วนแรกของโครงการแล้ว คือ “ดุสิตธานี แบงคอก” (Dusit Thani Bangkok) โรงแรมระดับ 5 ดาว ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเกินคาด ทั้งจากลูกค้าชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยมียอดเข้าพักและใช้บริการห้องจัดเลี้ยงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
และล่าสุด โรงแรมได้เปิดให้บริการเพิ่มเติมอีก 4 ส่วน ได้แก่ ห้องอาหารอิตาเลียน “Cannubi by Umberto Bombana” โดยเชฟ Umberto Bombana เชฟระดับมิชลิน 3 ดาว, Sky Lobby ชั้น 39, Spire Rooftop Bar และ 1970 Bar

สำหรับโครงการที่พักอาศัย “เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ซึ่งมีความสูง 299 เมตร 69 ชั้น จำนวน 406 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 85% แบ่งเป็นลูกค้าชาวไทย 80% และต่างชาติ 20% โดยกลุ่มลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่มาจากยุโรป จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และอเมริกา ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายปิดการขายที่พักอาศัยให้ได้ 100% ภายในปี 2568 เช่นกัน
“ตลาดเรสซิเดนซ์ลักเซอรี่ยังคงมีแนวโน้มที่ดี แม้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์จะชะลอตัว แต่เราก็ยังให้ความสำคัญกับการสร้างความแตกต่างและต่อยอดจุดแข็งของแบรนด์ดุสิตฯ โดยเฉพาะการรักษาเอกลักษณ์ความเป็นไทย ผสานกับบริการระดับโลก”
ส่วนอาคารสำนักงาน “เซ็นทรัล พาร์ค ออฟฟิศ” สูง 44 ชั้น และศูนย์การค้า “เซ็นทรัล พาร์ค รีเทล” ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มีกำหนดเปิดให้บริการในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2568 เช่นเดียวกับสวนสาธารณะลอยฟ้า “รูฟ พาร์ค”
อย่างไรก็ตาม มองว่าแนวโน้มการท่องเที่ยวในปีหน้าจะยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะยังไม่ฟื้นตัวเท่าปี 2562 โดยปัจจุบันนักท่องเที่ยวอินเดียมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนยังไม่กลับมา บริษัทจึงมุ่งเน้นกลยุทธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพ ที่ใช้จ่ายสูงและพำนักระยะยาว มากกว่าการเน้นจำนวนนักท่องเที่ยว