‘บิ๊กเมาน์เท่น’ ดึง 20 ผู้จัดเทศกาลดนตรีโลก ร่วมปั้น ‘Thai Music Wave’

อุตสาหกรรมเพลงไทยเติบโตต่อเนื่อง ก้าวสู่ Top 5 เอเชีย “จีเอ็มเอ็มโชว์” เดินหน้าผลักดัน “บิ๊กเมาน์เท่น มิวสิค เฟสติวัล ครั้งที่ 14” เป็นเวทีโชว์ศักยภาพศิลปินไทย ดึง 20 ผู้จัดงานเทศกาลดนตรีจากทั่วโลก ร่วมเฟ้นหาศิลปินคุณภาพ สานต่อโครงการ Music Exchange ของ CEA หวังยกระดับอุตสาหกรรมดนตรีไทยสู่ซอฟต์พาวเวอร์

นายยุทธนา บุญอ้อม Senior Executive Vice President-Showbiz GMM SHOW บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมเพลงไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เห็นได้จากการขยายตัวของฐานแฟนคลับต่างชาติ และการเปิดตลาดใหม่ ๆ ในต่างประเทศ ส่งผลให้ประเทศไทยก้าวขึ้นสู่ Top 5 ของประเทศที่มีรายได้จากอุตสาหกรรมเพลงมากที่สุดในเอเชีย และครองอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมี “เทศกาลดนตรี” เป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญ

โดย “บิ๊กเมาน์เท่น มิวสิค เฟสติวัล” เทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่จัดโดย “จีเอ็มเอ็มโชว์” ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลดนตรีที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของศิลปินไทยอย่างชัดเจน โดยตลอด 14 ปีที่ผ่านมา “บิ๊กเมาน์เท่น” ได้เปิดพื้นที่ให้ศิลปินชั้นนำ ศิลปินอิสระ และศิลปินจากค่ายเพลงทุกขนาด ได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่

ล่าสุด “บิ๊กเมาน์เท่น มิวสิค เฟสติวัล ครั้งที่ 14” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 7-8 ธันวาคม 2567 ณ ดิ โอเชี่ยน เขาใหญ่ ได้ร่วมมือกับโครงการ Music Exchange โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) เพื่อสร้างปรากฏการณ์ “Thai Music Wave” ผลักดันอุตสาหกรรมเพลงไทยให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ ตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาล โดยได้รับความไว้วางใจให้เป็นพาร์ตเนอร์ในการต้อนรับ 20 ผู้จัดเทศกาลดนตรี ผู้คัดเลือกศิลปิน และเอเยนซี่ระดับโลก อาทิ

• Martin Elbourne Advisor ผู้คัดเลือกศิลปินงาน Glastonbury Festival เทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดใน UK และใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีผู้เข้าชมงานกว่า 2 แสนคนต่อปี
• Johnnie Moylett ผู้จัดงาน Fuji Rock Festival เทศกาลดนตรีขนาดใหญ่จากญี่ปุ่น
• Shun Ebihara ผู้จัดการโครงการมากฝีมือของ Creativeman Productions บริษัทผู้จัดงาน Summer Sonic เทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น
• Howon Lee ผู้บริหารเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ในเกาหลีใต้อย่าง Busan Rock Festival
• Kong Yoon Young (Dalse) ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารเทศกาลดนตรีที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในเกาหลีใต้
• Kaushik Dutta ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร Asia Music Summit (AMS) มหกรรมดนตรีสุดยิ่งใหญ่ในอินเดีย
• Kukuh Rizal Arfianto ผู้อำนวยการ Jakarta Music Con & Here Come The Sun Eater Festival สองเทศกาลดนตรีในอินโดนีเซีย
• Hanna Kate Nicdao อีเวนต์โปรดิวเซอร์ของ Wish Us Luck Entertainment บริษัทผู้จัดคอนเสิร์ต เทศกาลดนตรี และแฟนมีตติ้งชั้นนำในฟิลิปปินส์
• Mao Yue Feng (Joe) ผู้อำนวยการฝ่ายคัดเลือกศิลปินจาก Modern Sky (A) บริษัทที่อยู่เบื้องหลังการจัดเทศกาลดนตรีขนาดใหญ่กว่าสิบงานทั่วประเทศจีน
• Daryl Hurs ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการ Indie Week aka. Canadian Music Week (CMW) งานที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดสำหรับศิลปินอินดี้ของแคนาดา และจากทั่วโลก
• Peiti Huang ผู้บริหาร World Music Festival @Taiwan (WMFT) เทศกาลดนตรีระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน
• Enkhzaya Jamsran (Julia) ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาฯ Playtime Festival เทศกาลดนตรีประจำปีของประเทศมองโกเลีย
• Dijana Lakus (Didi) ผู้จัดการฝ่ายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ งาน Prague Music Week เทศกาลดนตรีชั้นนำของสาธารณรัฐเช็ก
• Budha Terao ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Big Romantic Records ค่ายเพลงชั้นนำของญี่ปุ่น
• Jonghyun Lee โปรดิวเซอร์งาน HAVE A NICE TRIP เทศกาลดนตรีฤดูร้อน ที่ฮอตที่สุดในเกาหลีใต้
• Hsiao, Ta-Chien ตัวแทนผู้จัดเทศกาลดนตรีน้องใหม่มาแรงที่สุดในไต้หวัน
• Chen, Hsiao Hsuan ผู้จัดการ Young Team Productions ผู้จัดคอนเสิร์ตและเทศกาลดนตรีมากประสบการณ์จากไต้หวัน
• Aldila Karina Putri Astari ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสาร Synchronize Fest เทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ในอินโดนีเซีย
• Priya Dewan ผู้ก่อตั้ง Gig Life Pro ประเทศสิงคโปร์ แพลตฟอร์มขนาดใหญ่ที่ช่วยคัดเลือก และเชื่อมโยง (Matching) ศิลปิน ผู้จัดเทศกาลดนตรี และผู้คนในอุตสาหกรรมเพลงจากทั่วโลก
• Galina Metelskaya ผู้คัดเลือกศิลปินระดับมืออาชีพจากรัสเซีย บุคคลสำคัญที่ช่วยเชื่อมโยงศิลปินทั่วเอเชีย และเทศกาลดนตรีของรัสเซียเข้าด้วยกัน

นายยุทธนากล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การที่โครงการ Music Exchange และ 20 ผู้จัดเทศกาลดนตรีจากทั่วโลก ให้ความสนใจมาร่วมชมงาน ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ศิลปินไทยจะได้แสดงศักยภาพ และเพิ่มโอกาสในการโกอินเตอร์ โดย “จีเอ็มเอ็มโชว์” มุ่งมั่นที่จะรักษามาตรฐานการจัดงาน ทั้งในด้านโปรดักชั่นและการบริหารจัดการ เพื่อสนับสนุนศิลปินไทยอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ “จีเอ็มเอ็มโชว์” ยังได้ร่วมมือกับโครงการ Music Exchange ในงาน Monster Music Festival 2024 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้จัดเทศกาลดนตรีทั่วโลกเช่นเดียวกัน โดยเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการผลักดันอุตสาหกรรมดนตรีไทยให้เติบโต และสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ