ทีวีดิจิทัลแข่งเดือด งบฯโฆษณายังไม่ฟื้น ช่อง 3 ดิ้น ผนึกเจเคเอ็นฯนำคอนเทนต์ละครไทยลอตแรก 70 เรื่องตีตลาดโลก คาดปีแรกมีรายได้ไม่ต่ำ 100 ล้านบาท พร้อมต่อยอดด้วยกลยุทธ์ “superstar marketing” โดยจะนำนักแสดงของช่องออกไปจัดอีเวนต์ต่าง ๆ ในต่างประเทศ สร้างรายได้เพิ่ม
นายประชุม มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารช่อง 33 เอชดี ช่อง 28 เอสดี และช่อง 13 แฟมิลี่ กล่าวว่า สถานการณ์การแข่งขันธุรกิจทีวีดิจิทัลครึ่งปีหลังนี้ยังดุเดือดขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่เม็ดเงินโฆษณาก็ยังไม่ได้ฟื้นตัวขึ้น ทำให้แต่ละช่องก็ต้องปรับตัวอยู่สม่ำเสมอ สำหรับบริษัทก็มีการปรับผังรายการเกือบทุกเดือน เพื่อให้สอดรับกับการแข่งขันที่เกิดขึ้น แต่หลัก ๆ ก็ยังคงจุดแข็งของช่อง คือ ละครและรายการข่าว ส่วนรายการอื่น ๆ ก็ปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ชม
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ล่าสุดได้แต่งตั้งให้บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนจำหน่ายคอนเทนต์ละครของช่อง 3 ในตลาดต่างประเทศ ยกเว้นตลาดจีน ฮ่องกง มาเก๊า กัมพูชา เวียดนาม เมียนมา โดยเจเคเอ็นฯจะทำตลาดอาเซียน เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย บรูไน เป็นต้น รวมถึงกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ไต้หวันด้วย ซึ่งเฟสแรกเตรียมนำละครที่ออกอากาศระหว่างปี 2556-2560 จำนวน 70 เรื่องออกไปทำตลาด
“การแข่งขันช่องทีวีในประเทศค่อนข้างดุเดือด นอกจากจะต้องปรับตัวแล้วยังต้องสร้างรายได้ใหม่ ๆ ด้วย หนึ่งในนั้น คือ สร้างรายได้จากทรัพยากรที่มี ด้วยการขายลิขสิทธิ์ละครออกไปยังตลาดต่างประเทศ คาดว่าปีแรกจะมีรายได้เป็นตัวเลข 9 หลัก แต่ยังตอบเป็นตัวเลขที่ชัดเจนไม่ได้ ขณะเดียวกันในแง่ของการผลิตละครจากนี้ไปก็อาจจะต้องปรับเนื้อหาให้เข้ากับรสนิยมของผู้ชมในต่างประเทศด้วย ซึ่งจะเพิ่มละครแอ็กชั่น หรือแฟนตาซีมากขึ้น เพราะเป็นคอนเทนต์ที่ตลาดต่างประเทศต้องการ”
สำหรับแนวทางการตลาดที่วางไว้นั้น ปีนี้จะเน้นสร้างการรับรู้ให้แก่ตลาดซื้อขายคอนเทนต์ในประเทศ ด้วยการโรดโชว์ตามงานซื้อขายคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก นำร่องงานแรกที่เวียดนามในเดือนมิถุนายนนี้ ต่อด้วยประเทศฝรั่งเศส สิงคโปร์ ส่วนปีที่ 2 และปีที่ 3 จะเพิ่มจำนวนละครของช่อง 3 ออกไปตลาดมากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสทางการขาย ขณะที่สเต็ปต่อไปเมื่อคอนเทนต์ละครติดตลาดแล้วก็จะต่อยอดด้วยกลยุทธ์ “superstar marketing” โดยจะนำนักแสดงของช่องออกไปจัดอีเวนต์ต่าง ๆ ในต่างประเทศด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ช่อง 3 ได้ร่วมกับ “เท็นเซ็นต์ วิดีโอ” ในเครือบริษัท เท็นเซ็นต์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) จากจีน เพื่อนำคอนเทนต์ละครของช่อง 3 ไปออกอากาศที่จีน
