“ยูนิลีเวอร์” ระดม AI เสริมทัพสู้ศึกตลาด FMCG ปี’68

unilever
อัลซุล อะซาวา

ยูนิลีเวอร์ ยกทัพ 3 AI เสริมแกร่งการตลาดปี 2568 ทั้งคาดการณ์ความสนใจลูกค้า ถึงผลิตชิ้นงานโฆษณา หลังสภาพเศรษฐกิจ-เทคโนโลยีทำพฤติกรรมผู้บริโภคซับซ้อนยิ่งขึ้น พร้อมใช้ AI หนุนแบรนด์ระดับรองในพอร์ต แย้มเตรียมดึง AI ตัวที่ 4 หนุนระบบซัพพลายเชนในร้านค้าปลีก

นายอัลซุล อะซาวา ประธานบริหารกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ครัวเรือนภาคพื้นอาเซียน และประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า ในปี 2568 ที่จะถึงนี้ธุรกิจสินค้าของใช้ในครัวเรือนจะต้องจับตาเทรนด์สำคัญ คือ สภาพตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่จะซับซ้อนยิ่งขึ้น เนื่องจากความคุ้นเคยกับการใช้ AI ช่วยหาข้อมูลและวางแผนการซื้อสินค้า เสริมจากเดิมที่มีเพียงการหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต

ขณะเดียวกันใน 2 เซ็กเมนต์ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง อย่างเซ็กเมนต์พรีเมี่ยมและเซ็กเมนต์แวลูนั้นผู้บริโภคมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันชัดเจน โดยเซ็กเมนต์พรีเมี่ยม ผู้บริโภคสนใจทดลองสินค้าใหม่ ๆ และพร้อมใช้จ่ายมากขึ้นเพื่ออัพเกรดหากสินค้านั้นตอบโจทย์ ส่วนเซ็กเมนต์แวลูนั้น ราคาสินค้าที่ถูกกว่าจะไม่เพียงพอสำหรับสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เพราะสิ่งที่ผู้บริโภคให้น้ำหนักจะเป็นความคุ้มค่าด้านประสิทธิภาพ และภาพลักษณ์จากการใช้งานสินค้าหรือแบรนด์นั้น ๆ

“เมื่อสภาพเศรษฐกิจ-กำลังซื้อมีปัญหา ผู้บริโภคที่มีกำลังทรัพย์น้อยลงจะยิ่งใส่ใจกับรายละเอียดในการเลือกสินค้าและให้ความสำคัญกับคุณภาพต่อเม็ดเงินที่จ่าย เนื่องจากไม่อยากเสียเงินที่มีโดยไม่จำเป็น ดังนั้นสินค้าที่เพียงแค่ราคาถูกจะไม่อยู่ในตัวเลือกของลูกค้า”

ดังนั้นการตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้ง 2 กลุ่มไปพร้อมกันจะเป็นความท้าทายสำคัญของปี 2568 ที่จะถึงนี้

นายอัลซุลกล่าวต่อไปว่า เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ บริษัทจะต่อยอด LeverU ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซลูชั่นที่ใช้ AI 3 ประเภท คือ Predictive AI สำหรับคาดการณ์ความสนใจของผู้บริโภคตั้งแต่ตัวสินค้า เนื้อหา ไปจนถึงการเลือก KOL สำหรับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย, Generative AI สำหรับสร้างเนื้อหาของงานโฆษณา และ Reinforcement Learning AI ที่นำผลลัพธ์ของแคมเปญในอดีตมาปรับปรุงแคมเปญปัจจุบัน เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมและการตัดสินใจซื้อ

ADVERTISMENT

ด้วยการขยายการใช้งานไปยังแบรนด์ระดับรองในพอร์ตโฟลิโอ หลังปี 2567 นี้เริ่มใช้งานกับแบรนด์หลัก อาทิ บรีส, โอโม, ซันไลต์ แล้วได้ผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ สามารถสร้างการจดจำและเพิ่มการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ของกลุ่มเป้าหมาย อาทิ ผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยง กลุ่มเจนซี ฯลฯ

รวมถึงยังเตรียมนำ AI ตัวที่ 4 ซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพการบริหารสต๊อกสินค้าด้วยการคาดการณ์ความต้องการยอดขายอย่างแม่นยำ ซึ่งปัจจุบันใช้งานในเชนร้านวอลมาร์ตในหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา, เม็กซิโก, สหราชอาณาจักร เป็นต้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาและวางแผนการนำเข้ามาใช้งานในประเทศไทย

ADVERTISMENT

นอกจากนี้จะมีการใช้กลยุทธ์ไซซิ่งหรือการปรับขนาดสินค้า เช่น การลอนช์สินค้าในบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กลง เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าตัวเดิมได้ง่ายขึ้นอีกด้วย