
“มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย.” กางแผนปี 2568 ทุ่ม 2 พันล้าน รุกปูพรม 200 สาขาทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด คาดไตรมาสแรกขยายครบ 77 จังหวัดทั่วไทย จากปัจจุบันยังขาด “แม่ฮ่องสอน-ยะลา-พังงา” พร้อมเดินหน้ามุ่งขยายช่องทางจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เต็มสูบ เพื่อหวังเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้า
นายแอนดี้ ชิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง โดยบริษัทมองเห็นโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากความสำเร็จที่ มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. ถือเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 35% เติบโตขึ้น 3 เท่าจากปี 2564 โดยในปีที่ผ่านมาสามารถให้บริการลูกค้ากว่า 77 ล้านราย และมีพนักงานกว่า 10,000 คน ขณะที่ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้ 7,500 ล้านบาท
โดยสัดส่วนรายได้หลัก ๆ มาจากกรุงเทพฯ และภาคกลาง คิดเป็น 40% รองลงมาคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยยอดขายเฉลี่ยต่อบิลอยู่ที่ 160 บาท (ไม่รวม Vat) ลูกค้าซื้อสินค้าประมาณ 3.9 ชิ้นต่อบิล เฉลี่ยชิ้นละ 40 บาท

สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2568 บริษัทได้วางงบการลงทุนไว้ราว 2,000 กว่าล้านบาท ในการเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยเบื้องต้นตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มอีกกว่า 200 สาขาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยจะเน้นการขยายสาขาในรูปแบบสแตนด์อะโลน และในห้างสรรพสินค้า
“เนื่องจากเราเล็งเห็นว่าตลาดในประเทศไทยยังมีศักยภาพอย่างมาก โดยเฉพาะการเติบโตของจำนวนประชากร และแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ซึ่งในปีหน้าคาดว่า มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. จะมีสาขาครบ 77 จังหวัด จากปัจจุบันมีสาขาครอบคลุมอยู่ 74 จังหวัด โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 บริษัทมีแผนที่จะขยายไปยังจังหวัดแม่ฮ่องสอน พังงา และยะลา”
ขณะที่ในช่วงที่เหลือของปี 2567 มีแผนจะขยายเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าสิ้นปีจะมีสาขาครบ 920-930 สาขา จากปัจจุบัน มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. มีสาขา 900 แห่ง และล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวแฟลกชิปสโตร์แห่งใหม่ ณ ศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ภายใต้แนวคิด “Feel the Difference” บนพื้นที่กว่า 1,280 ตารางเมตร
โดยมีจุดเด่นด้านการออกแบบที่ทันสมัย และมีสินค้ากว่า 15,000 รายการ ครอบคลุม 6 หมวดหมู่ ได้แก่ Household & Furnishing, Hardware, Electrical, Stationery and Sports, Toys และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงมีเคาน์เตอร์ชำระเงินอัตโนมัติ และโซนกิจกรรมพิเศษในช่วงสุดสัปดาห์อีกด้วย
“การเปิดแฟลกชิปสโตร์แห่งนี้ เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. ในการยกระดับประสบการณ์การช็อปปิ้ง และสร้างความแตกต่างให้กับลูกค้า โดยซีคอนสแควร์ ถือเป็นพันธมิตรที่สำคัญ เนื่องจากเป็นศูนย์การค้าแห่งแรกที่ มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. เลือกเปิดสาขานอกประเทศมาเลเซีย ซึ่งคาดว่าโมเดลนี้จะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น”
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนการนำแบรนด์ร้านค้าปลีกในเครือ เช่น MR.TOY เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทย เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม รวมถึงการขยายช่องทางจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Shopee, Lazada และ TikTok เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้า โดยปัจจุบันยอดขายจากช่องทางออนไลน์ยังมีสัดส่วนน้อยกว่า 1% แต่บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนยอดขายจากช่องทางดังกล่าวให้มากขึ้นในอนาคตด้วยเช่นกัน
“อย่างไรก็ตาม จากแผนการเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้ มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. จะสามารถขยายสาขาในประเทศไทยได้ถึง 1,000 สาขาได้อย่างแน่นอน”