
แอลจีไม่หวั่นตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าโลกท้าทาย กางแผนปี’68 ส่งธุรกิจซับสคริปชั่นรุกอินเดีย สิงคโปร์ ฮ่องกง พร้อมต่อยอด webOS ปั้นธุรกิจแพลตฟอร์มคอนเทนต์-สื่อโฆษณา ด้าน B2B ส่งแอร์พาณิชย์หัวหอกชิงดีมานด์ดาต้าเซ็นเตอร์ ก่อนตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้นตรงซีอีโอรีดนวัตกรรม มั่นใจดันรายได้ปี’73 แตะ 100 ล้านล้านวอนแน่นอน
นายวิลเลียม โช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (แอลจี) ฉายภาพ ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าโลก และทิศทางของแอลจี ในงานแถลงข่าวสำหรับสื่อมวลชนเกาหลี ณ เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า ปี 2568 หากเทียบกับเมื่อ 2 ปีก่อนแล้ว การฟื้นตัวของตลาดโลกเป็นไปอย่างล่าช้า ในขณะที่ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าในประเทศใหญ่ ๆ ทวีความรุนแรงขึ้น ส่วนรูปแบบการแข่งขันกับบริษัทจีนกำลังเปลี่ยนจากการแข่งขันด้านราคาไปสู่การเน้นพัฒนาเทคโนโลยีที่ซับซ้อนมากขึ้น
“อาจเรียกได้ว่าขณะนี้ ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ท่ามกลางปัจจัยความไม่แน่นอนที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และภูมิทัศน์การแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย อย่างไรก็ตามแม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย แต่ยังมีโอกาสที่เปิดกว้างอีกมากด้วยเช่นกัน”
ส่งธุรกิจใหม่รุกตลาดโลก
นายวิลเลียมกล่าวต่อไปว่า เพื่อรับมือกับความท้าทาย และเดินหน้าธุรกิจตามวิสัยทัศน์แห่งอนาคต 2030 (Future Vision 2030) ในปี 2568 นี้ บริษัทจะส่งโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ เข้ามาสู่ตลาดเพิ่มขึ้น เช่น ธุรกิจบอกรับสมาชิก หรือซับสคริปชั่น และร้านค้าออนไลน์แบบออฟฟิเชียล หรือ LG.com
สำหรับธุรกิจบอกรับสมาชิกนั้น ในปี 2568 จะขยายเข้าไปในอินเดีย สิงคโปร์ และฮ่องกง หลังจากการเปิดตัวในมาเลเซีย ไทย และไต้หวัน ได้รับผลตอบรับที่ดี สะท้อนจากตัวเลขของปี 2567 ซึ่งรายได้จากธุรกิจบอกรับสมาชิกของบริษัทเพิ่มขึ้นกว่า 75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 โดยมียอดรวมใกล้ 2 ล้านล้านวอน ซึ่งตัวเลขนี้สูงกว่าเป้าหมาย 1.8 ล้านล้านวอนที่บริษัทวางไว้
ทำให้เชื่อว่า ธุรกิจบอกรับสมาชิกจะเป็นส่วนสำคัญที่จะขับเคลื่อนการเติบโตไปสู่เป้าการเพิ่มรายได้เป็น 100 ล้านล้านวอนภายในปี 2573
ทั้งนี้ธุรกิจซับสคริปชั่นเป็นหนึ่งในช่องทางสร้างการเติบโตและขยายฐานลูกค้า โดยไม่พึ่งพาการแข่งขันราคา ด้วยการมุ่งตอบโจทย์ด้านความสะดวกสบายและความยืดหยุ่น ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ในเวลาที่ต้องการ และได้รับการบริการที่เหมาะสม อีกทั้งยังช่วยให้บริษัทสร้างความสัมพันธ์ลูกค้าใกล้ชิดยิ่งขึ้น รวมถึงสร้างรายได้แบบต่อเนื่อง พร้อมกับเสริมแกร่งสร้างความได้เปรียบด้วย บริการหลังการขายแบบถึงบ้าน หรือ On-site Service
ด้านร้านค้าออนไลน์แบบออฟฟิเชียล มีการเติบโตรวดเร็ว เห็นได้จากช่วงแบล็กฟรายเดย์เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 80% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566
ธุรกิจแพลตฟอร์มคอนเทนต์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอลจี เผยว่า ตั้งแต่ปี 2568 นี้เป็นต้นไป webOS จะกลายเป็นแพลตฟอร์มคอนเทนต์แบบครบวงจรสำหรับอุปกรณ์และโซลูชั่นต่าง ๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์ไอทีและระบบความบันเทิงในยานยนต์ และนำ AI เข้ามาร่วมเพื่อยกระดับโซลูชั่นสื่อดิจิทัลนอกบ้าน (DOOH) ให้เป็นแพลตฟอร์มสื่อโฆษณาแบบบูรณาการ ที่นำเสนอคอนเทนต์และประสบการณ์ที่แตกต่าง สำหรับภายในและภายนอกอาคาร
นอกจากนี้ยังมองหาโอกาสต่าง ๆ เพื่อขยายขีดความสามารถผ่านการควบรวมกิจการ (M&A) และการสร้างพันธมิตรเพิ่มมากขึ้น หลังเมื่อปลายปี 2567 บริษัทปรับโครงสร้างองค์กรรวมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับจอแสดงผล รวมถึงโทรทัศน์ ป้ายโฆษณาดิจิทัล จอมอนิเตอร์ และแล็ปทอป มารวมไว้ด้วยกัน
ส่ง HVAC หัวหอกสปีด B2B
ด้านธุรกิจลูกค้าองค์กร หรือ B2B นั้น ยังคงมีธุรกิจเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ หรือ HVAC เป็นหัวหอก เนื่องจากคาดว่าธุรกิจนี้จะเติบโตอย่างรวดเร็วในยุค AI ซึ่งศูนย์ข้อมูล หรือ Data Center จะต้องการระบบปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดี
โดยตั้งบริษัท LG Eco Solution (ES) เพื่อยกระดับธุรกิจ HVAC ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และส่งกลุ่มธุรกิจ HVAC ทำงานร่วมกับธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์และโรงงานอัจฉริยะ รวมถึงเร่งสร้างโครงสร้างธุรกิจแบบครบวงจรที่ครอบคลุมการวิจัยและพัฒนา การผลิต การขาย และการบำรุงรักษาในตลาดสำคัญ ๆ ทั่วโลก พร้อมพัฒนาโซลูชั่นเฉพาะสำหรับแต่ละภูมิภาคด้วย
ทั้งนี้คาดว่าภายในปี 2573 รายได้จากธุรกิจ B2B จะมีสัดส่วนประมาณ 45% ของรายได้ทั้งหมด หลังจากเมื่อปี 2564 รายได้จาก B2B คิดเป็น 27% ของรายได้รวม และเพิ่มขึ้นเป็น 35% ในปี 2567
เสริมแกร่ง 8 ด้าน
ขณะเดียวกันบริษัทจะมุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเทคโนโลยีหลักทั้ง 8 ด้าน ได้แก่ ซอฟต์แวร์, ชิปประมวลผล, AI, หุ่นยนต์, วัสดุและชิ้นส่วน, การกำหนดมาตรฐาน, นวัตกรรมการประมวลผล และเทคโนโลยีคลาวด์/ดาต้า
โดยจะเน้นการนำกลยุทธ์ 3B มาใช้ นั่นคือ สร้าง (Build), ยืม (Borrow) และซื้อ (Buy) เพื่อพัฒนาขีดความสามารถภายในและผนึกกำลังกับความเชี่ยวชาญจากภายนอก ตลอดจนแสวงหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ผ่านความร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยี, สตาร์ตอัพ และสถาบันการศึกษา พร้อมเดินหน้าลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาในด้านที่มีศักยภาพสูงในอนาคต เช่น การประมวลผลควอนตัมและเทคโนโลยีอวกาศ
ตั้งทีมเฉพาะกิจ เร่งศักยภาพ
ในส่วนของบุคลากร ปี 2568 นี้ บริษัทกำลังตั้งทีมเฉพาะกิจ ที่มีเป้าหมายในการสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต พัฒนาศักยภาพด้านการวิจัยและการพัฒนา โดยแต่ละหน่วยธุรกิจและสำนักงานใหญ่จะจัดตั้งทีมเฉพาะกิจ ซึ่งจะรายงานตรงกับซีอีโอที่ดูแลความคืบหน้าด้วยตนเอง
พร้อมกับผนึกผู้เชี่ยวชาญทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อสร้างแบบจำลองสถานการณ์สำหรับประเด็นที่มีความอ่อนไหวและพัฒนาคู่มือปฏิบัติการเพื่อกำหนดแนวทางรับมือที่เหมาะสมที่สุด
“วิธีการเชิงรุกนี้ คาดว่าจะช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยภายนอก และเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดี”
คงแผนลงทุน 50 ล้านล้านวอน
นายวิลเลียม โช ย้ำว่า จะยังคงแผนการลงทุนเชิงกลยุทธ์มูลค่า 50 ล้านล้านวอน ตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้า แม้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจจะยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ทั้งนี้เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจขั้นพื้นฐาน และการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
โดยนอกจากการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาแล้ว แอลจียังคงมองหาโอกาสสำหรับการลงทุนในหุ้นและการควบรวมกิจการอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายการเติบโตของบริษัทให้มากยิ่งขึ้น