
เผยสาเหตุที่ 3 ยักษ์เครื่องใช้ไฟฟ้าจีนตัดสินใจทุ่มลงทุนไทยทั้งไฮเออร์ ที่เตรียมลงทุนวงเงินหมื่นล้านบาทเพิ่มกำลังผลิตในไทย ด้านไมเดีย ควัก 2,260 ล้านบาท ตั้งโรงงานที่ระยอง ผลิตเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ ส่วนไฮเซ่นส์เล็งลงทุนต่อเนื่องผลิตตู้เย็น, เครื่องซักผ้า
ปี 2568 นี้ 3 ยักษ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติจีนทั้งไฮเออร์ ไมเดีย และไฮเซ่นส์ ต่างประกาศแผนลงทุนครั้งใหม่ในประเทศไทย โดยไฮเออร์เตรียมลงทุนกว่าหมื่นล้านบาท ด้านไมเดียลงทุน 2,260 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นการลงทุนต่อเนื่องหลังทั้ง 2 แบรนด์ต่างมีฐานการผลิตในไทยอยู่แล้ว
ส่วนไฮเซ่นส์ เล็งลงทุนเพิ่มไลน์การผลิตตู้เย็นและเครื่องซักผ้าในประเทศไทยเช่นกัน หลังโรงงานเครื่องปรับอากาศในไทยมีกำหนดเดินสายการผลิตในไตรมาส 3 ปีนี้
ทั้งนี้เหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจลงทุนในไทยของแต่ละแบรนด์นั้นแตกต่างกันออกไป อาทิ มองเห็นโอกาสเติบโตในตลาด หนุนแผนรุกตลาด B2B รวมไปถึงการรักษาศักยภาพการแข่งขัน
ไฮเออร์เชื่อยังมีช่องว่างให้โตทั้งในไทย-ส่งออก
ต่ง เจี้ยนผิง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายว่า ตามนโนบายของบริษัทแม่ที่จีนนั้น ไทยเป็นประเทศสำคัญทางยุทธศาสตร์ทั้งด้านฐานการผลิต และการสร้างรายได้
สะท้อนจากภาพรวมของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าปี 2567 มีมูลค่าอยู่ที่ 70,000 ล้านบาท โต 5.4% และคาดว่าปี 2568 นี้จะเติบโตต่อเนื่องอีก 5% โดยหลายสินค้ายังมีช่องว่างให้แบรนด์เติบโต ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศที่ยังมีการครอบครองไม่มากนัก เมื่อเทียบเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ
ขณะเดียวกันส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ บริษัทยังมีส่วนแบ่งตลาดน้อย อาทิ ตู้เย็นมีส่วนแบ่งตลาด 10% ส่วนเครื่องซักผ้ามีส่วนแบ่งตลาดเพียง 6.1% เท่านั้น จึงยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในอนาคต
ผู้บริหารไฮเออร์กล่าวต่อไปว่า นอกจากตลาดในไทยแล้ว การส่งออกในปี 2568 ยังมีแนวโน้มฟื้นตัว โดยศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ SCB EIC คาดการณ์ว่าภาพรวมการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าจะขยายตัวอยู่ที่ 1.2%YoY ด้วยปัจจัยหนุนสำคัญจากการขยายตัวของการส่งออกสินค้าในกลุ่มเครื่องปรับอากาศและเครื่องซักผ้าไปยังสหรัฐฯ ที่ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง จึงเป็นจังหวะเหมาะสมที่จะลงทุนเพิ่มกำลังผลิตในไทยให้สูงขึ้น
ไมเดียขยายพอร์ตรุกเครื่องปรับอากาศพาณิชย์
ด้านไมเดีย นอกจากเล็งเห็นโอกาสเติบโต จากดีมานด์ในตลาดเครื่องปรับอากาศทั้งครัวเรือนแล้ว ยังมุ่งรุกเข้าชิงกลุ่มลูกค้าองต์กร เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดไปพร้อมกัน
ธนวัฒน์ วงศ์ชาญวุฒิ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็มดี คอนซูเมอร์ แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ ไมเดีย กล่าวว่า ตลาดเครื่องปรับอากาศในไทยเติบโตต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยหนุนจากสภาพอากาศร้อนชื้น และความต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฟังก์ชันอัจฉริยะและประหยัดพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นในบ้านที่เพิ่มขึ้น ตามการขยายตัวของชนชั้นกลาง และความต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้า
โดยตลาดเครื่องปรับอากาศในประเทศไทยมีมูลค่าอยู่ที่ 1.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 และคาดว่าจะเติบโต ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 5.93% จนถึงปี 2029
ดังนั้นในปี 2568 ไมเดีย จึงตั้งเป้าเติบโต 200% ในกลุ่มเครื่องปรับอากาศ และระบบปรับอากาศ แบบอุตสาหกรรม MBT โดยมีแพลนขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมทุกความต้องการ และลงทุนในโรงงานผลิตแห่งใหม่ รวมไปถึงการยกระดับบริการหลังการขาย
ไฮเซ่นส์ร่วมขบวนการลงทุน
สำหรับไฮเซ่นส์นั้น คลาร่า ชาง ประธานกลุ่มบริษัทไฮเซ่นส์ประจำภูมิภาคอาเซียน และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฮเซ่นส์ ประเทศไทย กล่าวถึงเหตุผลของการลงทุนในไทยว่า ที่ผ่านมาคู่แข่งแต่ละรายต่างตบเท้าเข้ามาลงทุนสร้างฐานการผลิตในประเทศไทยกันอย่างพร้อมเพรียง
ทำให้ไฮเซ่นส์ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีฐานการผลิตสินค้าในไทย ต้องลงทุนสร้างด้านการผลิตในไทยด้วยเช่นกัน เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขัน
ไฮเออร์ลงทุนหมื่นล้าน เพิ่มกำลังผลิต
ต่ง เจี้ยนผิง กล่าวว่า ด้วยโอกาสการเติบโตทั้งการจำหน่ายในไทย และส่งออกต่างประเทศนี้ ไฮเออร์จึงมีแนวทางที่จะลงทุนเพิ่มกำลังผลิตสินค้าต่าง ๆ ในไทยอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดมีแผนลงทุนในไทยด้วยวงเงินไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังผลิตสินค้าในพอร์ตโฟลิโอซึ่งมีหลายตัวที่ต้องการปริมาณสินค้าเพิ่มขึ้นในอนาคตไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น, เครื่องซักผ้า, เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ ฯลฯ
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับภาครัฐ และหาทำเลในการลงทุน คาดว่าจะสามารถประกาศรายละเอียดที่ชัดเจนได้ในเดือนพฤษภาคม 2568 นี้
ความเคลื่อนไหวของไฮเออร์ในครั้งนี้ นับเป็นการลงทุนต่อเนื่องในไทย หลังเมื่อปี 2567 ลงทุนมูลค่า 10,000 ล้านบาท ตั้งโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 จ.ชลบุรี ขนาดพื้นที่ 324,000 ตร.ม. สำหรับส่งออกไปทั่วโลกทั้งสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง และอาเซียน เช่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ โดยเฟสแรกกำลังผลิต 3 ล้านเครื่อง มีกำหนดแล้วเสร็จปี 2568 ตามด้วยเฟส 2 และ 3 ในปี 2569 และ ปี 2570 ตามลำดับ ซึ่งจะทำให้มีกำลังผลิตรวมเป็น 6 ล้านเครื่อง/ปี
ไมเดียร์ ตั้งโรงงานมูลค่า 2,260 ล้านบาท
ธนวัฒน์ วงศ์ชาญวุฒิ กล่าวว่า เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตของยอดขาย จึงขยายการลงทุนในไทยด้วยมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 2,260 ล้านบาท เปิดโรงงานผลิตแห่งใหม่ของ Midea Building Technologies บนพื้นที่ 46 ไร่ ที่นิคมอุตสาหกรรม CPGC จังหวัดระยอง ในเขตเศรษฐกิจ EEC
เสริมกับโรงงานอื่น ๆ ในไทย อาทิ โรงงานเครื่องปรับอากาศสำหรับครัวเรือน Midea Thailand Smart Factory ที่นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง (โครงการ 5) ซึ่งเป็นฐานการผลิตเครื่องปรับอากาศสำหรับครัวเรือนของไมเดีย ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน
ไฮเซ่นส์ เล็งลงทุนฐานผลิตตู้เย็น, เครื่องซักผ้า
คลาร่า ชาง กล่าวว่า บริษัทมีแผนลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง โดยอาจตั้งฐานการผลิตตู้เย็น หรือเครื่องซักผ้าในไทยเพิ่มเติม หลังช่วงไตรมาส 3 ปี 2568 นี้ โรงงานเครื่องปรับอากาศไฮเซ่นส์แห่งแรกในไทยจะเริ่มเดินสายการผลิต
สอดคล้องกับที่ไฮเซ่นส์ประกาศแผนลงทุนตั้งโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศในไทยเมื่อปี 2562 โดย ยี่ เสี่ยวผิง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฮเซ่นส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในขณะนั้นว่า บริษัทมแม่มีแผนตั้งโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศในพื้นที่ภาคตะวันออกของไทย ซึ่งจะเป็นฐานการผลิตแห่งที่ 6 ของบริษัทต่อจากจีน, เม็กซิโก, สโลวาเกีย, เชชเนีย และแอฟริกาใต้
ทั้งนี้ต้องจับตาดูว่าแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติจีนรายอื่น ๆ จะประกาศแผนการลงทุนในไทยด้วยหรือไม่