
“โตชิบา” ลั่นชิงเบอร์ 1 เครื่องใช้ไฟฟ้าไทย 8.3 หมื่นล้าน โฟกัสชิงส่วนแบ่ง 5 หมวดสินค้าเด่น ตู้เย็น, เครื่องซักผ้า, ไมโครเวฟ, หมอหุงข้าวและเครื่องทำน้ำอุ่น ประเดิมปี’68 ส่งทัพสินค้าใหม่ 53 รุ่น ชูนวัตกรรมคู่ดีไซน์เรียบหรู พร้อมโหมการตลาดทั้งอีเวนต์ลุ้นโชค, ปูพรม 3,000 บิลบอร์ด, อัพเกรดบริการหลังการขาย หวังกระตุ้น Sale Out หนุนคู่ค้า มั่นใจยอดขายโต 25% แซงหน้าตลาด
นายอเล็กซ์ มา รองประธานบริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (ไม่รวมทีวี) ในไทย มีแนวโน้มเติบโตประมาณ 5% ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ หลังปี 2567 ตลาดมีมูลค่าประมาณ 83,000 ล้านบาท โตจากปี 2566 ประมาณ 9% ส่วนจำนวนเครื่องมีประมาณ 21 ล้านเครื่อง เติบโตประมาณ 4%
โดยกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ อาทิ ตู้เย็น, เครื่องซักผ้า และเครื่องปรับอากาศ เติบโตโดดเด่นทั้งด้านมูลค่าและจำนวนเครื่อง ด้วยการเติบโต 11% เป็น 65,000 ล้านบาท และ 8% เป็น 5.6 ล้านเครื่อง จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด และการขยายตัวของเศรษฐกิจ ช่วยสร้างดีมานด์แอร์และตู้เย็น
ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก อาทิ หม้อหุงข้าว, ไมโครเวฟ, เครื่องทำน้ำอุ่น, พัดลม ฯลฯ นั้นมูลค่าทรงตัวที่ 18,000 ล้านบาท ส่วนจำนวนเครื่องเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ประมาณ 3% ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ไว้ หลังสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย และกำลังซื้อผู้บริโภคลดลง
สำหรับผลประกอบการของโตชิบาในปี 2567 รายได้รวมโต 24% ซึ่งสูงกว่าเป้า 20% ที่วางไว้ โดยสินค้าที่สร้างรายได้สูงสุด ได้แก่ ตู้เย็น มีอัตราเติบโต 20% รองลงมาเป็นเครื่องซักผ้าโต 39%
ส่วนกลุ่มสินค้าอื่น เช่น เตาไมโครเวฟโต 21% หม้อหุงข้าว และเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กโต 10% เครื่องทำน้ำอุ่นทรงตัวสวนทางกับตลาดที่หดตัว 10% และเครื่องปรับอากาศเติบโต 82%
“การเติบโตที่สูงกว่าตลาดในปี’67 และการโตเฉลี่ย 15% ต่อเนื่อง 5 ปี (‘62-’67) นี้ สะท้อนว่าการพัฒนาสินค้าที่เน้นนวัตกรรมซึ่งใช้งานได้จริง และดีไซน์เรียบหรูนั้นตรงใจผู้บริโภค เช่นเดียวกับประสิทธิภาพของกลยุทธ์การตลาด และความเชื่อมั่นของคู่ค้าทั้งโมเดิร์นเทรดและร้านดีลเลอร์”
ต่อยอดโมเมนตัมชิงเบอร์ 1
นายอเล็กซ์กล่าวต่อไปว่า ในปี 2568 นี้จะต่อยอดโมเมนตัมนี้ด้วยสินค้าใหม่ การอัพเกรดบริการหลังการขาย รวมถึงร้านค้า มาสร้างการเติบโตต่อเนื่อง และชิงส่วนแบ่งการตลาด เพื่อส่งโตชิบาขึ้นสู่เบอร์ 1 ของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าไทย เริ่มด้วยการส่งทัพสินค้าใหม่ 53 รุ่น ซึ่งเมื่อร่วมกับไลน์อัพเดิมจะทำให้ปี 2568 บริษัทมีไลน์อัพสินค้ารวม 227 รุ่น เยอะเป็นประวัติการณ์
โดยสินค้าไฮไลต์ของปี 2568 นี้ จะคงแนวคิดนวัตกรรมที่ใช้งานได้จริง และดีไซน์เรียบหรู พร้อมการให้ฟังก์ชั่นมากกว่าคู่แข่งในราคาเท่ากัน เพื่อย้ำความคุ้มค่า อาทิ ตู้เย็นไซด์บายไซด์ และตู้เย็น 4 ประตู จะมีรุ่นความจุ 25 คิวหรือ 700 ลิตร ใหญ่ที่สุดในตลาด พร้อมฟังก์ชั่นทำน้ำแข็ง 2 ขนาด และช่องเก็บน้ำแข็งความจุ 4 กิโลกรัม รวมถึงระบบกรองน้ำในตัว ส่วนรุ่นพื้นฐานแบบ 1 ประตูจะมาพร้อมระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ และรุ่น 2 ประตูขนาดกลางตั้งแต่ 14 คิวจะมีระบบทำน้ำแข็งอัตโนมัติ
เครื่องซักผ้าฝาหน้า รุ่น TW-T37BZP115MWT(WT) ความจุ 10.5 กิโลกรัม พร้อมนวัตกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการซัก และกลั่นหอมของผ้า เครื่องอบผ้า รุ่น TD-T37BS90HWT(WT) ความจุ 8 กิโลกรัม ระบบฮีตปั๊ม มีฟังก์ชั่นอบผ้าแห้งใน 30 นาที และระบบไอน้ำลดฝุ่น รอยยับและกลิ่น
ด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก จะมีไมโครเวฟ รุ่น MX1-TH23SC(WH) สีขาวด้ามจับลายไม้ ความจุ 23 ลิตร ระบบ 4 in 1 อุ่น, ย่าง, อบและนึ่ง รวมถึงสามารถอบไอน้ำสเตอริไลซ์จาน, แก้ว และขวดนมได้ นอกจากนี้ยังมีสินค้าหมวดใหม่อย่างเครื่องทำน้ำร้อน ซีรีส์ SensTemp ที่มีระบบปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ และพัดลมแบบสไลด์ 5 ใบพัด ปรับความแรงได้ 4 ระดับอีกด้วย
“ปัจจุบันเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ของโตชิบาผลิตในไทยกว่า 50% แล้ว ทำให้มีความได้เปรียบด้านต้นทุน หลังสามารถตัดค่าขนส่งระหว่างประเทศไปได้ ช่วยให้ราคาสินค้าอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ดีมาก”
แคมเปญ 3 ฤดู-ชิงโชค-บิลบอร์ด
ในส่วนของการตลาดจะเพิ่มงบฯการตลาดจาก 10% ของยอดขายขึ้นเป็น 14% พร้อมมุ่งกระตุ้นการ Sale Out หรือการขายของคู่ค้า โดยจะจัดแคมเปญ 3 ฤดู กระตุ้นยอดขายสินค้าซีซั่นนอล เริ่มจากหน้าร้อนโฟกัสตู้เย็น ตามด้วยหน้าฝน สำหรับเครื่องซักผ้า และหน้าหนาวจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก พร้อมโรดโชว์และโปรโมชั่น อาทิ ชิงโชคแบบลักกี้ดรอว์, ของแถม, ผ่อน 0% เป็นต้น
พร้อมเดินสายอัพเกรดจุดแสดงสินค้าในร้านค้าทั้งโมเดิร์นเทรด และร้านดีลเลอร์ เช่นเดียวกับด้านบริการหลังการขายที่จะเพิ่มรถโมบายสำหรับให้บริการซ่อมถึงบ้าน และศูนย์ซ่อมที่ดำเนินการโดยบริษัทเอง หลังก่อนหน้านี้ลดระยะเวลาซ่อมสินค้าลง ด้วยการอัพเกรดระบบส่งอะไหล่ผ่านไปรษณีย์เป็นรถมอเตอร์ไซค์ไปแล้ว
นอกจากนี้จะระดมสร้างการรับผู้ผ่านสื่อทั้งสื่อนอกบ้านที่จะติดตั้งบิลบอร์ดกว่า 3,000 จุดในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด, คอนเทนต์ดิจิทัล, โซเชียลมาร์เก็ตติ้ง และทัพ KOLs และยังมีแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ระดับเอเชีย-แปซิฟิก “ทาคาชิ โซริมาจิ” นักแสดงดังจากประเทศญี่ปุ่น มาตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์สัญชาติญี่ปุ่น ผ่านโฆษณาชุดแรกทางโซเชียล และป้ายโฆษณาทั้งนอกและในสนามบินสุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, เชียงราย, เชียงใหม่, หาดใหญ่ และภูเก็ต ไปแล้วตั้งแต่ต้นปี
นอกจากนี้ยังมีแผนปล่อยหนังโฆษณาชุดใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Toshiba Japan Origin คราฟต์ที่ดีไซน์ ใส่ใจทุกดีเทล” โดยมีไอเดียจาก 5 จุดเด่นของความเป็นญี่ปุ่น คือ ดีไซน์ (Design) ดีเทล (Detail) คุณภาพ (Quality) ความไว้ใจได้ (Trust) และนวัตกรรม (Innovation)
นายอเล็กซ์เชื่อมั่นว่า กลยุทธ์เหล่านี้จะผลักดันให้ยอดขายของโตชิบาเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปี ต่อเนื่องไปอีก 3 ปี ซึ่งจะทำให้สามารถครองเบอร์ 1 ของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทยได้