
ทำความรู้จัก Molto ไอศกรีมสัญชาติไทยที่เติบโตในช่วงโควิด-19 สร้างแบรนด์อย่างไรให้โดดเด่น ร่วมคอลแลบส์กับแบรนด์ต่าง ๆ จากผลประกอบการติดลบสู่รายได้เกือบ 80 ล้านและได้ร่วมงานกับศิลปินระดับโลก
ย้อนกลับไปในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบเศรษฐกิจทั่วโลก จากสถานการณ์ที่ไม่สามารถออกไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทำให้พ่อค้าแม่ขายต้องหันมาพึ่งช่องทางออนไลน์ที่เป็นเสมือนพื้นที่บนตลาดที่รวมเหล่าผู้คนไว้แทนการเปิดขายในพื้นที่จริงที่เงียบเหงา
เหตุผลเดียวกันกับจุดเริ่มต้นธุรกิจนี้ของ “ธฤษณุ คมโนภาส” เจ้าของไอศกรีมสัญชาติไทยที่เปลี่ยนจากธุรกิจส่งออกไอศกรีมไปยังร้านอาหาร โรงแรม คาเฟ่ และร้านอาหารบุฟเฟต์ในไทย มาเป็นแบรนด์ไอศกรีมของตัวเองอย่างเป็นทางการภายใต้ชื่อ Molto ที่มีความท้าทายอยู่ที่การขายไอศกรีมบนช่องทางที่ผู้ซื้อต้องตัดสินใจสั่งแม้จะยังไม่เคยชิม หรือเห็นหน้าตาของจริงก็ตาม
จุดเด่นของ Molto จึงอยู่ที่หน้าตาที่โดดเด่น รสชาติไอศกรีมที่รวมความน่าสนใจเอาไว้ผ่านการนำเสนอบนโซเชียลมีเดีย โดยเริ่มต้นจากรสชาติไอศกรีมที่หลากหลายในสิ่งที่ควรมี ไม่ว่าจะเป็นคาราเมล, ช็อกโกแลต, นมฮอกไกโก, ชาเขียว, ชาไทย, มะพร้าว, ยูซุ, มินต์ช็อก, ยาคูลท์ปีโป้, มะม่วง, มะนาว และรสชาติเบียร์กุหลาบ
เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ที่ทำรสชาติไอศกรีมออกมาได้อย่างหลากหลายจากความสามารถที่มีอยู่เป็นทุนเดิม ประกอบกับความพยายามเจาะตลาดออนไลน์มากขึ้นด้วยไอเดียเมนูใหม่ ๆ ที่ตามออกมาหลังจากนั้น ให้ผู้บริโภคได้เห็นเมนูไอศกรีมที่สวยงามจากรูปโปรโมตและเมนูที่มีแรงบันดาลใจจากขนมหวานต่าง ๆ
จากแบรนด์ ถึงอินฟลูฯ ยกระดับสู่ศิลปินระดับโลก
หลังจากประสบความสำเร็จด้านการนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ จึงตามมาด้วยการคอลแลบส์กับแบรนด์ต่าง ๆ ที่นำเสนอวัตถุดิบหลักแสดงถึงตัวตนแบรนด์มาผสมกับความเป็นมอลโต้ที่ทำไอศกรีมได้ทุกรสชาติ กลายมาเป็นโปรเจ็กที่มีความหลากหลายและดูสดใหม่อยู่ตลอดเวลา ที่ผ่านมาเราเลยได้เห็นการร่วมมือของมอลโต้กับแบรนด์ต่าง ๆ อาทิ
1. Ivy – ไอศกรีมรสชาติ Berry Fiber ชูรสชาติโยเกิร์ตรสใหม่ของแบรนด์
2. French’s Classic Yellow – ไอศกรีมรสชาติ Vanilla Yellow Mustard ชูมัสตาร์ดที่เป็นสินค้าหลักของแบรนด์
3. Benice – ไอศกรีมรสชาติ Milk Pear ส่วนผสมในครีมอาบน้ำกลิ่นใหม่ของแบรนด์
4. Ritz – ไอศกรีมรสชาติ Ritz Cheese 1 ในรสชาติจากขนมของแบรนด์
5. ขนม Tasto – ไอศกรีมรสชาติ Potato Chips Chocolate ชูรสชาติใหม่ของขนม
6. Kellogg’s – ไอศกรีมรสชาติ Chocolate with Choco Crunchy ชูคอร์นเฟลกส์ สินค้าของแบรนด์
7. ST. REGIS Bangkok – ไอศกรีมรสชาติ Blueberry Cheesecake 1 ในโปรเจ็กต์ชุดชายามบ่ายของโรงแรม
8. Lotus Biscoff – ไอศกรีมรสชาติ Biscoff Yogurt ชูบิสคอฟ สินค้าหลักของแบรนด์
จากภาพจำที่ไม่ว่าจะร่วมงานกับแบรนด์ไหนก็สามารถชูตัวตนมาได้อย่างไม่ซ้ำใคร ทำให้มอลโต้กลับมาเป็นเป้าหมายหนึ่งในการคอบแลบส์ของหลาย ๆ แบรนด์ ซึ่งนอกจากตัวอย่างข้างต้นยังมีอีกหลายแบรนด์ที่ได้ร่วมงานกัน รวมถึงอินฟลูเอนเซอร์ นักแสดงในวงการบันเทิงที่ได้มีไอศกรีมมอลโต้เป็นของตัวเอง ได้แก่
- Littie Monster Family : ออกแบบโดยน้องจิน-เรนนี่ เด็กน้อยที่มีความชอบที่แตกต่างร่วมออกแบบไอเดียผลิตภัณฑ์และไอศกรีมรสชาติ I think it’s good together ของน้องเรนนี่ผู้รักการกินชีสมาผสมเข้ากับเบสโยเกิร์ต และรสชาติ Choc to the moon and back ของน้องจินที่มีช็อกโกแลตเข้มข้น
- Jaylerr Thanaerng : การร่วมงานกับนักแสดงชื่อดังอย่างเจเจ-ต้าเหนิง จากไอเดียความชอบของทั้งสองคนกลายมาเป็นไอศกรีมรสชาติ Blueberry Dark Choc ของเจเจ และรสชาติ Caramel Flakes Milk ของต้าเหนิง
- RUBSARB Production : การร่วมงานกับยูทูบช่องดังอย่างรับทราบที่นำไก่ทอดและวาฟเฟิลกลายมาเป็นไอศกรีมมาเป็นรสชาติ Rubsarb Chicken & Waffle
กวาดมากสุดเกือบ 80 ล้าน
แบรนด์ Molto อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท โคลด์คัลเจอร์ จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไอศกรีมและผลิตภัณฑ์อื่นที่เกี่ยวข้อง มีทุนจดทะเบียนปัจจุบันอยู่ที่ 1,000,000 บาท จากการตรวจสอบผลประกอบการบน Creden Data มีรายระเอียดดังนี้
ปี 2557 รายได้รวม 361,463 บาท กำไรสุทธิ 16,011 บาท
ปี 2558 รายได้รวม 82,854 บาท กำไรสุทธิ 17,093 บาท
ปี 2559 รายได้รวม 3,980 บาท กำไรสุทธิ 1,981 บาท
ปี 2560 รายได้รวม 0 บาท กำไรสุทธิ -2,000 บาท
ปี 2561 รายได้รวม 589,641 บาท กำไรสุทธิ -8,398 บาท
ปี 2562 รายได้รวม 6,660,434 บาท กำไรสุทธิ 392,937 บาท
ปี 2563 รายได้รวม 5,146,252 บาท กำไรสุทธิ 231,679 บาท
ปี 2564 รายได้รวม 31,291,798 บาท กำไรสุทธิ 137,620 บาท
ปี 2565 รายได้รวม 53,051,824 บาท กำไรสุทธิ 209,981 บาท
ปี 2566 รายได้รวม 79,187,779 บาท กำไรสุทธิ 571,444 บาท
จากผลประกอบการตั้งแต่ปี 2557-2566 พบว่า Molto มีรายได้แตะหลักล้านบาทครั้งแรกในปี 2562 ก่อนจะก้าวกระโดดคว้ารายได้หลักสิบล้านในปี 2564 และในปี 2566 เป็นระยะเวลา 1 ปีจากการระบาดของโรคโควิด-19 บริษัทก็กวาดรายได้เกือบ 80 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการบริหารธุรกิจและการเจาะตลาดบนโลกออนไลน์ได้อย่างถูกที่ถูกทาง
จากการสร้างรสชาติที่โดดเด่น ร่วมคอลแลบส์กับแบรนด์ต่าง ๆ และผลประกอบการที่แสดงความน่าพอใจและโอกาสในการเติบโตของไอศกรีมไทยแบรนด์นี้ได้ ล่าสุด มอลโต้ได้โอกาสร่วมงานกับ Seventeen ในโอกาสพิเศษที่กำลังจะมาถึงอย่างคอนเสิร์ต SEVENTEEN [RIGHT HERE] WORLD TOUR IN BANGKOK ในวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งดูเหมือนว่าธีมสีจะเกี่ยวข้องกับคอนเสิร์ตในครั้งนี้อีกด้วย
อย่างไรก็ตามในเฟซบุ๊ก Molto Premium Gelato ระบุว่า “พบกัน 10 กุมภาพันธ์ 2025 ชาวแก๊ง CARATs และคนรักไอศกรีม เตรียมพบกับเซอร์ไพรส์สุดพิเศษ ติดตามรายละเอียดของรสชาติที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก SEVENTEEN ได้เร็ว ๆ นี้ ” ให้เหล่ากะรัตรอติดตามกันในอีกไม่นาน
ข้อมูล Capital Read และ Creden Data