ปลดล็อกเวลาขายเหล้า-เบียร์ ดันเงินหมุนเวียนเพิ่ม 5 หมื่นล้านบาท

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์ เศรษฐกิจ

อดีตนายกสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มองรัฐบาลปลดล็อกเวลาห้ามขายเหล้า-เบียร์ ช่วง 14.00-17.00 น. ช่วยเพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 5 หมื่นล้านบาท เกิดการจ้างงานเพิ่ม และเติมรายได้จากการให้บริการ

จากกรณีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ศึกษาการยกเลิกการห้ามขายแอลกอฮอล์เวลา 14.00-17.00 น. และวันสำคัญทางศาสนา ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและไม่สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 นั้น

นายธนากร คุปตจิตต์ อดีตนายกสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปิดเผยว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีที่นายกรัฐมนตรี สั่งทบทวนกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคและไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งหากมีการทบทวนปลดล็อกเวลาห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ช่วง 14.00-17.00 น. จากของเดิมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ของร้านทั่วไปอยู่ในช่วงเวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น. ของใหม่ก็จะสามารถจำหน่ายได้ต่อเนื่องตั้งแต่ 11.00-24.00 น.

สอดคล้องกับสถานการณ์ที่รัฐบาลประกาศให้การท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งภาคบริการและกิจกรรมบันเทิงที่อิงไปกับการท่องเที่ยวและพักผ่อนของคนต่างชาติ ก็จะมีเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์อยู่ในนั้น หากรวมกับทบทวนเรื่องโซนนิ่งห้ามขาย ขยายเวลาปิดเปิดให้เท่าเทียมกัน และผ่อนปรนการจำหน่ายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ จะเพิ่มเงินใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยผ่านการใช้บริการที่เกี่ยวข้อง ทันทีกว่า 50,000 ล้านบาท หากรวมกับช่วงเทศกาลจะเพิ่มเป็น 1 แสนล้านบาทได้ภายใน 1 ปี

“ไม่แค่ผู้ประกอบการอาหารและเครื่องดื่ม ยังมีธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งโรงแรม สถานบันเทิง ภัตตาคาร ร้านอาหารทั่วไป การจ้างงาน รถรับจ้าง เด็กเสริฟ นักดนตรี เป็นต้น จะมีการจ้างงานเพิ่ม และเติมรายได้จากการให้บริการ

ซึ่งการทบทวนและผ่อนปรนทั้งสามด้าน ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสามารถเห็นชอบได้เลย จากที่หารือภาคธุรกิจต่างๆอยากให้ผ่อนปรนก่อนสงกรานต์ ก่อนเข้าเทศกาล จะสร้างกระแสการเตรียมตัวของการค้าที่เพิ่มขึ้นในช่วงนั้น และเป็นทางเลือกของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เริ่มวางแผนเที่ยวนอกประเทศแล้ว เมื่อเขาเห็นการผ่อนปรนการดื่มแอลกอฮอลล์ในช่วงที่นักท่องเที่ยวไปประเทศใดก็หาดื่มได้ จะดีต่อไทยในระยะยาว

ADVERTISMENT

อย่างไรก็ตาม หากหลังผ่อนปรนแล้วถ้าไม่คุ้มกับประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ หรือสร้างความเสียหายต่อสาธารณะรัฐก็สามารถบังคับใช้ได้เหมือนเดิม ซึ่งควมวิตกในเรื่องความปลอดภัยนั้น ก็มีกฎหมายดูแลอยู่แล้ว ทั้งเมาแล้วขับ ซ่องสุ่ม หรือ เปิดสถานบันเทิงที่ผิดกฎหมายหรือไม่มีใบอนุญาต โดยผู้ประกอบการเห็นด้วยที่รัฐจะเข้มงวดและบังคับใช้กฎหมายในเรื่องดังกล่าว” นายธนากร กล่าว

นายธนากร กล่าวต่อว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องตื่นตัวและเชื่อว่ารัฐบาลจะผ่อนปรนโดยเร็ว ซึ่งในวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ สมาชิกสมาคมผู้ประกอบการร้านอาหารกลางคืน และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคโรงแรม ภัตตาคาร สมาคมร้านค้าต่างๆ ประมาณ 100 ราย นัดประชุมหารือ แลกเปลี่ยนความเห็นในประเด็นต่างๆ และสรุปผลการหารือ ก่อนนำเสนอหน่วยงานรัฐบาลที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯที่ดูแลเรื่องการทบทวนเวลาห้ามขายสุราและพิจารณากฎหมายที่ล้าสมัยต่าง ๆ

ADVERTISMENT