
สิ้นสุดช่วงโลว์โปรไฟล์ ชาร์ปกรุงไทย รุกหนักรอบทศวรรษ ขนทัพสินค้าดีไซน์ใหม่-หมวดใหม่ลงสนามทั้งหม้อหุงข้าว, พัดลม, เตารีด, เครื่องทำน้ำอุ่น และหม้อทอด หวังย้ำผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก
หลังดำเนินธุรกิจแบบโลว์โปรไฟล์มานานกว่า 10 ปี ในปี 2568 นี้ SHARP กรุงไทยการไฟฟ้า ตัดสินใจกลับมาทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก อาทิ หม้อหุงข้าว, เตารีด, เครื่องทำน้ำอุ่น, พัดลม และหม้อทอดไร้น้ำมัน อย่างเต็มที่อีกครั้ง
โดยไม่เพียงจะขนทัพสินค้าที่เพิ่มฟังก์ชั่น-ดีไซน์ใหม่ให้ตรงใจวัยรุ่น-วันเริ่มทำงานเท่านั้น แต่ยังมีสินค้าหมวดใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนอีกด้วย
ต้องตอบโจทย์ทั้ง functional และ emotional
นายวิโรจน์ ทานัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงไทยการไฟฟ้า จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก แบรนด์ชาร์ป อธิบายว่า ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บริษัทชะลอการทำตลาด หันไปทุ่มเทกับการพัฒนาฟังก์ชั่นและดีไซน์สินค้าให้ทันสมัย
เนื่องจากต้องการสร้างฐานลูกค้ารุ่นใหม่ เช่น วัยรุ่น วันเริ่มทำงานหรือเริ่มมีครอบครัว ซึ่งจะเป็นกำลังซื้อสำคัญในอนาคตเพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว และหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาดุเดือดในตลาดที่มีแบรนด์จีนรุกเข้ามาอย่างต่อเนื่องไปพร้อมกัน
โดยแนวดีไซน์ใหม่จะเน้นตอบโจทย์ทั้ง functional และ emotional ด้วยฟังก์ชั่นการใช้งาน-ความทนทาน ควบคู่กับดีไซน์เรียบหรู-แตกต่าง การใช้สีขาว, เทา, ดำ และพาสเทล ซึ่งสอดคล้องกับสไตล์การแต่งบ้านของคนรุ่นใหม่ พร้อมกับช่วยปรับภาพลักษณ์ให้แบรนด์ดูเด็กลงด้วย
ควบคู่กับการเพิ่มช่องทางจำหน่ายแบบโมเดิร์นเทรด เช่น ห้างสรรพสินค้า เพื่อขยายการเข้าถึงผู้บริโภค หลังที่ผ่านมาบริษัทแข็งแกร่งในช่องทางเทรดิชั่นนอลเทรดอย่างร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่แล้ว
ประเดิม 5 สินค้าใหม่สู้ศึก
ในปี 2568 นี้ บริษัทมีความพร้อมที่จะกลับมาทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กอย่างเต็มตัวอีกครั้ง ประเดิมด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่ 5 หมวด คือ หม้อหุงข้าว เตารีด พัดลม เครื่องทำน้ำอุ่น และหม้อทอดไร้น้ำมัน หลังทดลองนำสินค้าบางส่วนเข้าสู่ตลาดเมื่อปี 2567 และได้รับผลตอบรับดี
โดยมีสินค้าไฮไลต์เป็นพัดลมขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ และสีพาสเทล เข้ากับการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล และระบบตัดไฟเมื่อความร้อน-กระแสไฟเกิน รวมถึงรับประกันทุกชิ้นส่วนนาน 3 ปี ที่คาดว่าจะสามารถชิงดีมานด์ในช่วงหน้าร้อนปีนี้ จนเป็นสินค้าหลักที่สร้างการเติบโตให้บริษัท
เตารีดไอน้ำ 3 รุ่น คือ 1,800 วัตต์, 2,000 วัตต์ และ 2,400 วัตต์ ซึ่งเป็นสินค้าหมวดใหม่ที่บริษัทไม่เคยมีมาก่อน โดยมีจุดเด่นเป็นหน้าเตารีด Nano Ceramic และระบบป้องกัน-ขจัดตะกรัน รวมถึงการทำตลาดต่อยอดความนิยมและความสำเร็จของเตารีดแห้งที่บริษัทครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 อยู่
นอกจากนี้ยังมีหม้อหุงข้าว SHARP CUBE รุ่น 1 ลิตร มีจุดเด่นเป็นดีไซน์สี่เหลี่ยม ระบบทำความร้อนด้านล่าง-ข้าง และหม้อในเคลือบสารกันติด หม้อทอดไร้น้ำมันรุ่น 4.2 ลิตร, 6.8 ลิตร และ 7 ลิตร มีจุดเด่นเป็นโปรแกรมปรุงอาหารอัตโนมัติ 8 โปรแกรม
รวมถึงเครื่องทำน้ำอุ่นรุ่น MODI (โมดี้) ขนาด 3,500 วัตต์ และ 4,500 วัตต์ ซึ่งดีไซน์สไตล์โมเดิร์น มินิมอล เข้ากับเทรนด์ห้องน้ำในปัจจุบัน และใช้หม้อต้มทองแดง โดยเปิดตัวสีดำ มาเสริมทัพกับรุ่นสีขาว และเทาที่เข้าสู่ตลาดเมื่อปลายปี 2567
“แม้ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กในปี 2568 นี้ จะมีความท้าทายจากสภาพเศรษฐกิจ-กำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัว จนอาจเติบโตเพียงระดับเลขหลักเดียวต้น ๆ เท่านั้น แต่เชื่อว่ายังมีช่องว่าง เช่น การซื้อทดแทนสินค้าเก่า การมีพัดลมประจำห้องต่าง ๆ ในบ้าน รวมถึงความซื้อง่ายขายคล่องของสินค้าชิ้นเล็ก จะทำให้บริษัทสามารถรุกเข้าชิงส่วนแบ่งตลาดได้”
ย้ำเบอร์ 1 หม้อหุงข้าว-น้ำอุ่น พร้อมไล่จี้เบอร์ 2 ตลาดพัดลม
นายวิโรจน์ ย้ำความมั่นใจว่า การปูพรมไลน์อัพสินค้าใหม่ และการขยายช่องทางจำหน่ายในโมเดิร์นเทรด ควบคู่กับความเชื่อมั่นจากการรับประกันและความทนทาน ที่สั่งสมมาตลอดการทำธุรกิจในไทยนานกว่า 52 ปี จะผลักดันให้บริษัทเติบโตได้ถึง 5% ซึ่งสูงกว่าตลาด พร้อมกับย้ำตำแหน่งเบอร์ 1 ในกลุ่มหม้อหุงข้าว และเครื่องทำน้ำอุ่น รวมถึงเข้าใกล้เบอร์ 1 ในตลาดพัดลมมากยิ่งขึ้น