
“เจ้าสัว” ลุยตลาดขนมขบเคี้ยว 1 แสนล้านเต็มสูบ ปี’68 ปูพรมสินค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 15-20 รายการ พร้อมเร่งขยายช่องทางจำหน่ายออฟไลน์-ออนไลน์เสริมการรับรู้แบรนด์ ด้านตลาดส่งออกเตรียมตั้งบริษัทร่วมทุนในสหรัฐ-แคนาดา ส่วนจีนเน้นขยายทั้งค้าส่ง ค้าปลีก คาด 3 ปีรายได้โตเฉลี่ย 15-20% สู่ 2,200 ล้านบาท
นางสาวณภัทร โมรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ CHAO ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายขนมขบเคี้ยวและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสัตว์ ภายใต้แบรนด์ “เจ้าสัว-โฮลซัม” เปิดเผยว่า ตลาดขนมขบเคี้ยวในปัจจุบันยังคงเติบโตต่อเนื่อง เฉลี่ย 5-6% ต่อปี หรือมีมูลค่ารวมกว่า 100,000 ล้านบาท
โดยกลุ่มขนมขบเคี้ยวแปรรูปประเภทข้าว และกลุ่มขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อหมู ยังมีดีมานด์สูง โดยเฉพาะข้าวตังและหมูแท่งที่มีการเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 13%
ที่ผ่านมาในกลุ่มขนมขบเคี้ยวแปรรูปประเภทข้าว มูลค่าตลาดประมาณ 1,403 ล้านบาทนั้น “เจ้าสัว” มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 79% และมีส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อหมู ที่มีมูลค่าตลาดประมาณ 621 ล้านบาท ประมาณ 62% ซึ่งถือเป็นผู้นำเบอร์ 1 ในทั้ง 2 ตลาด
“ถึงแม้ว่าเราจะเป็นผู้นำทั้ง 2 ตลาดนี้อยู่แล้ว แต่ก็เชื่อว่าจะสามารถขยายมาร์เก็ตแชร์ของตลาดข้าวตัง และหมูแท่งเพิ่มขึ้นได้อีก”
ยกทัพสินค้าใหม่ 15-20 SKUs
นางสาวณภัทรกล่าวต่อว่า สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2568 ในส่วนของผลิตภัณฑ์ใหม่ จะเปิดตัวไม่ต่ำกว่า 15-20 รายการ ครอบคลุมทั้งกลุ่มข้าวตัง ขนมแปรรูปจากเนื้อหมู Cereal Cracker หนังปลา และอื่น ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
อีกทั้งยังมีแผนขยายไปสู่ตลาดขนมเพื่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์กระแสรักสุขภาพที่กำลังมาแรง รวมถึงกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ นอกจากที่มีอยู่ในพอร์ตโฟลิโอแล้วอีกด้วย
พร้อมกับใช้พรีเซ็นเตอร์ “เจมส์จิ” และ KOL เป็นตัวกลางสื่อสารผ่านช่องทาง OOH, Online และทีวี ควบคู่กับการแจกผลิตภัณฑ์ทดลองชิม และแคมเปญต่าง ๆ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง
ขยายฐานโชห่วย
ขณะเดียวกันจะเพิ่มจำนวนตัวแทนจำหน่าย โดยเฉพาะร้านโชห่วย หลังที่ผ่านมาเข้าถึงร้านค้ากลุ่มนี้ได้เพียง 30,000 ร้านค้า จากทั้งหมด 300,000 ร้านค้า รวมถึงมีแผนรุกเข้าไปยังช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมที่สุด
บุกหนักจีน-อเมริกา
สำหรับตลาดส่งออก ในประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา จะตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อดูแลการขายใน 2 ตลาดนี้ ด้วยกลยุทธ์หลักเป็นการส่งผลิตภัณฑ์แบรนด์เจ้าสัวเข้าสู่ซูเปอร์มาร์เก็ตเอเชีย ก่อนที่จะขยายไปยังช่องทางอื่น ๆ พร้อมเพิ่มความถี่การออกงานแสดงสินค้า เพื่อสร้างการรับรู้และขยายฐานลูกค้า
ขณะที่ในประเทศจีน บริษัทจะเน้นเพิ่มจำนวนผู้จัดจำหน่าย และผู้ค้าปลีก ควบคู่ไปกับกิจกรรมทางการตลาด เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์และกระตุ้นยอดขายในตลาดส่งออก
ทุ่ม 300 ล.สร้างโรงงานใหม่
นอกจากนี้ ในปี 2568 บริษัทจะเร่งสปีดการขยายกำลังการผลิตสินค้า ด้วยการสร้างโรงงานแห่งใหม่ ภายใต้งบฯลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังผลิตผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่เนื้อหมูอีกปีละ 2,000 ตัน สำหรับรองรับการขยายตลาดส่งออก โดยคาดว่าจะพร้อมผลิตสินค้าภายในต้นปี 2569
“การขยายกำลังผลิตนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพการขยายธุรกิจ โดยเฉพาะในต่างประเทศที่ปีนี้มีแผนขยายสินค้าฮาลาล รวมถึงสินค้า Better-for-You Snack ขนมขบเคี้ยวที่มีคุณประโยชน์มากขึ้น จากปัจจุบันส่งออกไปกว่า 21 ประเทศ อาทิ จีน อเมริกา ฮ่องกง ออสเตรเลีย ฯลฯ”
จากแผนการดำเนินงานดังกล่าว คาดว่าภายใน 3 ปี (2568-2570) บริษัทจะมีรายได้ 2,200 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตต่อปีเฉลี่ยอยู่ที่ 12-15% แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากในประเทศ 75% และต่างประเทศ 25% ภายในปี 2530 ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็น 35%