
ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของโครงการ Easy E-Receipt 2.0 ซึ่งจะสิ้นสุดในวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ นับเป็นจังหวะนาทีทองของผู้ประกอบการในวงการค้าปลีก ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องประดับหรู, ไปจนถึงของตกแต่งบ้าน-วัสดุก่อสร้าง ฯลฯ ที่จะเร่งสปีดสร้างยอดขายก่อนหมดโครงการ ด้วยปัจจัยบวกทั้งการหมดเขตโครงการ ซึ่งผู้บริโภคจะรีบมาใช้สิทธิ ร่วมกับจังหวะเงินเดือนออก
ส่งผลให้ผู้ประกอบการทั้งแบรนด์สินค้าและร้านค้าตัดสินใจจัดเต็ม ทั้งเปิดตัวสินค้าใหม่ที่คอลแลบส์กับแบรนด์ดัง, อัดโปรโมชั่นพิเศษลุ้นทองคำ, จัดอีเวนต์งานแฟร์ลดกระหน่ำ ฯลฯ หวังชิงเม็ดเงินในช่วงสุดท้ายนี้
อัดโปรฯ-ขยายเวลาเปิด
“อำนาจ สิงหจันทร์” หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ฉายภาพว่า ช่วงโค้งท้ายของโครงการ Easy E-Receipt 2.0 ตลาดน่าจะมีการแข่งขันดุเดือดร้อนแรงเป็นพิเศษ ด้วย 2 ปัจจัยคือ ใกล้สิ้นสุดโครงการ และเป็นจังหวะซ้อนทับกับช่วงเงินเดือนออก ทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อกลับมาอีกครั้ง
โดยความร้อนแรงจะเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ ลากยาวไปจนถึงวันสิ้นสุดโครงการ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งคาดว่าร้านค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์จะโหมจัดโปรโมชั่นอย่างเต็มที่ รวมถึงร้านค้าออฟไลน์อาจมีการขยายระยะเวลาเปิดทำการให้นานขึ้น เพื่อจูงใจและรองรับผู้บริโภคที่จะมาใช้สิทธิก่อนหมดแคมเปญโครงการ
สำหรับบริษัทขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมจัดแคมเปญ Payday บนช่องทางออนไลน์ LG.com ซึ่งจะมีโปรโมชั่นราคาพิเศษ และการบันเดิล หรือซื้อสินค้าคู่กันในราคาพิเศษ
พร้อมกันนี้ช่วง 13-28 ก.พ. 2568 แอลจีจัดแคมเปญ OLED Super Deal ลดราคามอนิเตอร์ OLED ขนาด 27-34 นิ้ว สูงสุด 55% อาทิ รุ่น 34GS95QE-B ราคาปกติ 48,800 บาท ลดเหลือ 27,000 บาท
สอดคล้องกับแหล่งข่าวที่ระบุว่า ช่วงสุดสัปดาห์วันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ร้านค้าหลายแห่งที่เข้าร่วมโครงการ อาทิ เชนร้านค้าปลีกสินค้าความงาม EVEANDBOY และเชนร้านสินค้าเทคโนโลยี i Studio ต่างมีผู้บริโภคเข้าใช้บริการหนาแน่นเป็นพิเศษ เชื่อว่าเป็นเพราะกลุ่มผู้ทำงานออฟฟิศต้องการมาใช้สิทธิก่อน เพราะวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดโครงการตรงกับวันธรรมดา จึงอาจไม่สะดวกที่จะมาใช้สิทธิ
อัดแคมเปญลุ้นทอง
“พัชราภรณ์ วรยิ่งยง” ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานวางแผนธุรกิจการตลาดและกลุ่มผลิตภัณฑ์การเงิน บริษัท เพาเวอร์บาย จํากัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล คาดว่าปัจจุบันยังมีผู้บริโภคอีกจำนวนไม่น้อยที่รอซื้อสินค้าในช่วงโค้งสุดท้ายของโครงการ Easy E-Receipt 2.0 ซึ่งตรงกับช่วงเงินเดือนออก ทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อเพิ่ม
บริษัทจึงเร่งเครื่องกระตุ้นการช็อปปิ้งช่วงโค้งสุดท้ายนี้ ด้วยแคมเปญ “Easy E-Receipt โค้งสุดท้าย” โดยมีไฮไลต์เป็นสินค้าลดราคาสูงสุด 50%, ลุ้นรับทองคำและบัตรแทนเงินสดเพาเวอร์บาย รวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท รับส่วนลดเพิ่มรวมสูงสุด 50,000 บาท เมื่อช็อปตามเงื่อนไข
พร้อมกับโครงการ “เก่าแลกใหม่ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า” นำเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่ามาแลกรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 10,000 บาท ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 35,000 บาท และรับคูปองส่วนลด เมื่อซื้อสินค้าตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป
นอกจากนี้ ยังเตรียมร่วมอีเวนต์ “ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม เอ็กซ์โป 2025” ระหว่างวันที่ 21 ก.พ.-2 มี.ค. 2568 ที่ไบเทค บางนา ซึ่งมีโปรโมชั่นเครื่องใช้ไฟฟ้า, สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าไอทีลดสูงสุด 80%, สมาชิก The1 แลก 1,400 คะแนน รับส่วนลด 200 บาท และรับ e-Coupon ส่วนลดสูงสุด 900 บาท เมื่อซื้อสินค้าตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ
และสิทธิแลกซื้อสินค้าราคาพิเศษ เช่น เครื่องอบผ้า BOSCH 9 กก. ทีวี ACONATIC LED TV 32” หม้อหุงข้าว PHILIPS 1.8 ลิตร ลดเพิ่ม 10% สำหรับการซื้อสินค้าในกลุ่มทีวี, แอร์, ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า รวมถึงมีสินค้า Clearance Sale ลดสูงสุด 80% อีกด้วย
ชิงจังหวะเปิดตัวสินค้าใหม่
นอกจากการจัดโปรโมชั่นแล้ว ผู้ประกอบการบางรายยังตัดสินใจเปิดตัวสินค้าใหม่ในช่วงนี้ เพื่อปลุกการจับจ่าย โดย “อัญรัตน์ พรประกฤต” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วง 7 วันสุดท้ายของโครงการ Easy E-Receipt 2.0 ถือเป็นจังหวะที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการ ซึ่งหนึ่งในไฮไลต์กระตุ้นการจับจ่ายช่วงโค้งท้ายของโครงการนี้ จะเป็นการเปิดตัวสินค้าภายใต้ความร่วมมือกับ POP MART เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งเป็นความร่วมมือครั้งแรกของ POP MART กับแบรนด์จิวเวลลี่
โดยสินค้าใหม่นี้จะมาเสริมกับการจัดแคมเปญพิเศษ เช่น การมัดรวมสินค้าระดับราคา 30,000 บาท ซึ่งเป็นเพดานสูงสุดของการใช้สิทธิไว้ด้วยกัน รวมถึงยังมีโปรโมชั่น การผ่อนชำระ ชุดของขวัญพิเศษ และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีกด้วย
PM 2.5 ปลุกดีมานด์เกินคาด
ส่วน “รัชตะ สุทธาพัฒน์ธานนท์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริหารสินค้า POWER MALL, SPORTS MALL, BETREND, WATCH GALLERIA และ KIDS’ PLANET บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ช่วงโค้งท้ายนี้บริษัทขยายระยะเวลาจัดงาน Electronica Campaign ซึ่งเป็นงานแฟร์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ให้ดำเนินต่อไปจนจบพร้อมกับช่วง Easy E-Receipt เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้ามาใช้จ่ายในช่วงโค้งสุดท้ายของโครงการ ส่วนการจัดโปรโมชั่นเฉพาะสำหรับช่วงโค้งท้ายอาจไม่จำเป็น เนื่องจากเชื่อว่าเงื่อนไขด้านเวลาจะมีอิทธิพลมากพอในการกระตุ้นให้ผู้บริโภคมาใช้สิทธิ
ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมาของโครงการ Easy E-Receipt 2.0 สามารถกระตุ้นยอดขายได้ถึง 20% ซึ่งสูงกว่าที่คาดว่าจะกระตุ้นได้ 10% เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 มากระตุ้นดีมานด์เครื่องฟอกอากาศ จนเข้าเป็นหนึ่งในสินค้าขายดีร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กภายในบ้าน, สมาร์ทโฟน และทีวีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 80 นิ้วขึ้นไป
สินค้าบ้านจัดงานแฟร์
สินค้าเพื่อบ้าน อุปกรณ์ตกแต่ง และการสร้างต่อเติมที่อยู่อาศัย เป็นอีกหมวดสินค้าที่ได้รับอานิสงส์จากโครงการ Easy E-Receipt 2.0 โดย “ไทยวัสดุ” เชนค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ระบุว่า ในช่วงต้นปี 2568 นี้ สินค้าเพื่อบ้านได้รับความสนใจเป็นพิเศษ และมียอดการจับจ่ายสูง เนื่องจากความต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตและเพิ่มความสุขในการใช้ชีวิต
ด้วยเหตุนี้ ในช่วงโค้งท้ายของโครงการ Easy E-Receipt 2.0 บริษัทจึงตัดสินใจผนึกกำลังกลุ่มธุรกิจในเครือเซ็นทรัล รีเทล ทั้งเพาเวอร์บาย, โก! ว้าว (go! WOW), ออโต้วัน (AUTO1), วีฟิกซ์ (vFIX), ยูเนี่ยนแพน (Union Pan) จัดอีเวนต์ “ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม เอ็กซ์โป 2025” ตั้งแต่ 21 กุมภาพันธ์-2 มีนาคม 2568 ที่ ไบเทค บางนา ฮอลล์ 101-104
พร้อมด้วยไฮไลต์ปลุกการจับจ่าย อย่างสินค้าวัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้ากว่า 10,000 รายการ ลดสูงสุด 80% โปรโมชั่นช็อปครบตามเงื่อนไขรับบัตรกำนัลเงินสดเพิ่มสูงสุด 100,000 บาท ผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 24 เดือน รวมถึงช็อปครบทุก 3,000 บาท รับคูปอง 1 ใบ สำหรับชิงโชครางวัลสร้อยคอทองคำ, ตู้เย็น, แอร์ และบัตรกำนัลเงินสดรวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 400,000 บาท
ทั้งนี้ ต้องรอดูกันว่า หลังจากการทุ่มสรรพกำลังเหล่านี้แล้ว ผลลัพธ์ของโครงการ Easy E-Receipt 2.0 ครั้งนี้จะกระตุ้นการจับจ่ายได้มากน้อยเพียงใด