4 ยักษ์น้ำอัดลมเปิดศึกหน้าร้อน ระเบิดแคมเปญชิงตลาด 7 หมื่นล้าน

4 ยักษ์น้ำอัดลมระเบิดศึกหน้าร้อนชิงส่วนแบ่งตลาด 7 หมื่นล้าน ลุยเปิดตัวสินค้าใหม่ อัดแคมเปญ ขยายช่องทางจำหน่าย “หาดทิพย์” ผนึก “โคคา-โคล่า” ขยายพอร์ตสูตรไม่มีน้ำตาล-เพิ่มตู้แช่-ขวดแก้วคืนได้ “เป๊ปซี่” พาเหรดสินค้าใหม่ 8 รายการ ทุ่ม 1,000 ล้านบาทเพิ่มกำลังการผลิต ขณะที่ “เอสโคล่า” ส่งแคมเปญใหม่เจาะกลุ่ม Gen Z “บิ๊กโคล่า” จับมือสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สร้างสีสันผ่านกลยุทธ์ Sponsorship Marketing

พลตรี พัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มในเครือโคคา-โคล่าในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ กล่าวว่า ในปี 2568 บริษัทจะโฟกัสสร้างการเติบโตจากกลุ่มไม่มีน้ำตาลซึ่งมีศักยภาพสูง สะท้อนจากการเติบโตถึง 22.9% ในปี 2567 แต่ยังคิดเป็นสัดส่วนเพียง 5% ของยอดขายรวมเท่านั้น ด้วยการลอนช์สินค้าใหม่ในหมวดนี้ออกมาต่อเนื่อง ตามเป้าผลักดันการเติบโตของกลุ่มนี้ให้ถึง 27%

เพิ่มตู้แช่ชิงร้านค้า/HORECA

พร้อมกับขยายช่องทางจำหน่ายทั้งร้านค้าปลีกและธุรกิจ HORECA หรือโรงแรม ร้านอาหาร และคาเฟ่ โดยเดินสายเพิ่มตู้แช่เครื่องดื่มอีก 10-15% จากปัจจุบันมีประมาณ 1.7 หมื่นตู้ และเพิ่มการใช้บรรจุภัณฑ์ขวดแก้วแบบคืนขวดในหลายหมวดสินค้ายิ่งขึ้น เพื่อรับมือกับต้นทุนการผลิต-เพิ่มสัดส่วนกำไร

ทั้งนี้ สิ้นปี 2568 ตั้งเป้ารายได้รวมที่ 8,700 ล้านบาท เติบโต 5-7% ขณะที่ปริมาณการขายโต 2-4% รวมถึงมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่า 40% ส่วนระยะกลางและระยะยาว ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในภาคใต้จาก 25% เป็น 30% ภายในปี 2570 และ 35% ภายในปี 2575 ซึ่งจะมียอดขาย 15,000 ล้านบาท

ค่ายเป๊ปซี่หนุน 8 สินค้าใหม่

นายอนวัช สังขะทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ช่วงหน้าร้อนปี 2568 นี้ บริษัทจะทุ่มงบฯ 35% ของทั้งปี เพื่อปลุกตลาดด้วยจัดกิจกรรมช่วงซัมเมอร์เต็มรูปแบบ เพื่อผลักดันสินค้าใหม่ที่ปูพรมไปแล้วถึง 8 ตัว ประกอบด้วย เป๊ปซี่ บ๊วย, มิรินด้าบลูเบอรี่-ออเรนจ์, เซเว่นอัพเลมอนโซดา-สับปะรดพีช และสตรอว์เบอรี่เลมอน ตามเป้าสร้างยอดขายช่วงหน้าร้อนนี้ให้สูงกว่าปี 2567 ที่เดือนมีนาคม-เมษายน ยอดขายเติบโต 10-15%

ก่อนจะตามด้วยการลงทุนครั้งใหญ่ในรอบ 7 ปี ด้วยมูลค่า 1,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังผลิต ประเดิมด้วย เพิ่มกำลังผลิตน้ำอัดลมและเครื่องดื่มไม่ใช่น้ำอัดลมในโรงงาน จ.สระบุรี อีก 50% เพื่อรองรับการเติบโต หลัง 7 ปีที่ผ่านมา บริษัทเติบโตเฉลี่ย 8.2% ซึ่งสูงเป็น 2 เท่าของตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์

ทั้งนี้มั่นใจว่า แม้สภาพอากาศเย็นจะทำให้เมื่อช่วงต้นปีตลาดเติบโตช้าลง แต่ความร้อนของช่วงหน้าร้อนจะช่วยกระตุ้นดีมานด์น้ำอัดลมและปลุกการเติบโตกลับมาได้ในระดับสูงกว่าช่วงปกติ 15-20% โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโตสูงกว่าตลาด 2 เท่า พร้อมชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่มจาก 39.1% เป็น 40%

“เอสโคล่า” มุ่งเจาะ Gen Z

ด้าน “เอสโคล่า” นางสาวสุภรณ์ เด่นไพศาล ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ประเทศไทย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดน้ำอัดลมในปี 2567 ที่ผ่านมานั้น ตามข้อมูลของนีลเส็นไอคิวระหว่างเดือนธันวาคม 2566-พฤศจิกายน 2567 มีมูลค่า 70,772 ล้านบาท เติบโตอยู่ที่ 9% โดยมีกลุ่ม Gen Z เป็นกำลังผลักดันสำคัญ สะท้อนจากยอดขายเชิงปริมาณของเอสโคล่าที่เติบโต 22.4% ในทุกช่องทาง ทั้งซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าดั้งเดิม รวมถึงช่องทางร้านอาหาร

ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงรุกตลาดช่วงซัมเมอร์พร้อมชิงกลุ่ม Gen Z ด้วยแคมเปญ “เอสโคล่า เงยหน้าไปด้วยกัน” ที่ผนึกกำลัง 3 ไอดอล “เจฟ ซาเตอร์” ศิลปินระดับเอเชีย “มีน นิชคุณ” นักแสดงและนายแบบดัง “สไปร์ท SPD” ครีเอเตอร์เบอร์ต้น ๆ ของไทย มาจับกลุ่มผู้สนใจด้านดนตรี กีฬา และอินฟลูเอนเซอร์ มีไฮไลต์เป็นเพลงประกอบโฆษณาที่เจฟ ซาเตอร์ เป็นผู้แต่ง

รวมกับการย้ำโพซิชั่นแบรนด์เครื่องดื่มแรกที่ใช้ AI มาสร้างลูกเล่นทางการตลาด โดยนำ AI มาแต่งเพลงให้ผู้บริโภค โดยสามารถสแกนข้างกระป๋อง และใส่คำที่สะท้อนสไตล์ของตัวเอง เพื่อให้ AI แต่งเพลงออกมา

ต่อเนื่องจากแคมเปญ “ขอเอสขวดพี่” เมื่อช่วงต้นปี ที่มุ่งขยายการดื่มคู่กับอาหาร ด้วยการพาพรีเซ็นเตอร์ “ตั้ม-วราวุธ โพธิ์ยิ้ม” หรือ “ตั้ม The Star” ลงพื้นที่จัดกิจกรรมทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑลกว่า 1,000 ร้านค้า

“บิ๊กโคล่า” ผนึกแมนฯซิตี้เขย่าตลาด

นายฮวน โฆเซ่ โลเปซ เวอการ่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาเจ ไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่ม “บิ๊กโคล่า” กล่าวว่า ปี 2568 นี้ จะโฟกัสการสร้างการรับรู้แบรนด์ และความคึกคักให้ตลาด ด้วยกลยุทธ์ Sponsorship Marketing โดยเป็น Official Regional Partner กับสโมสรฟุตบอล “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก 4 ฤดูกาลติดต่อกัน โดยมีระยะเวลาสัญญา 2 ปี ในการนำตราสัญลักษณ์สโมสร (CREST) นักฟุตบอล และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ มาทำกิจกรรมการตลาด

พร้อมวางทุ่มงบฯ 100 ล้านบาท สำหรับปูพรมแคมเปญโฆษณา อีเวนต์มาร์เก็ตติ้ง โปรโมชั่น ฯลฯ ผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ประเดิมด้วยแคมเปญ “Big Cola x Manchester City” ลุ้นสิทธิบินไปชมการแข่งขันพรีเมียร์ลีกที่อังกฤษ ซึ่งจะเริ่มต้นในช่วงซัมเมอร์ปีนี้ โดยคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายของบริษัทได้อย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้จะขยายช่องทางค้าปลีก โดยเฉพาะเทรดดิชั่นนอลเทรดที่มีอยู่ 400,000 แห่ง ด้วยเป้าหมายเพิ่มความครอบคลุมจาก 60% เป็น 100% หลังปัจจุบันสามารถส่งสินค้าเข้าสู่โมเดิร์นเทรดที่มีกว่า 600,000 แห่ง ได้ 90% แล้ว เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการแข่งขันและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ

ขณะเดียวกันมีแผนแตกไลน์สินค้าใน Category อื่น ๆ นอกจากน้ำอัดลม โดยสิ้นปี 2568 คาดว่าจะมีรายได้แตะ 4,500 ล้านบาท จากปีก่อนหน้ามีรายได้อยู่ที่ 3,600 ล้านบาท รวมถึงคาดว่าจะสามารถเพิ่มมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นเป็น 15% และขึ้นเป็น Top 3 ในตลาดน้ำอัดลมไทย และอินโดนีเซียได้ภายใน 3-5 ปี