“เวอร์จิ้น” ปั้นฟิตเนสพรีเมี่ยม จัดทัพบุกตจว.ส่งคอร์ส “ตามสั่ง” เจาะB2B

ฟิตเนสโตแรง เวอร์จิ้นŽ ลุยผุดสาขาต่อเนื่อง เปิดแนวรุก ตจว. ปักธงเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ต้นปีหน้า ด้านกทม.เปิดไซซ์เล็กหัวถนนวิทยุ ชูจุดขายคลาส-อุปกรณ์พรีเมี่ยม พร้อมเปิดคลาสออกกำลังแบบเทลเลอร์เมดหวังขยายฐานลูกค้าองค์กร มั่นใจโรดแมปครบ 20 สาขาใน 5 ปีแน่นอน

นายโอฬาร พิรินทรางกูร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ ประชาชาติธุรกิจŽ ว่า ตลาดฟิตเนสยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ตามดีมานด์ของตลาดในเรื่องของสุขภาพและการออกกำลังกาย ส่งผลให้จำนวนฟิตเนสรายย่อยและรายใหญ่ที่เพิ่มมากขึ้นในทุกพื้นที่เพื่อเป็นทางเลือกให้กับตลาด

อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นที่เพิ่มขึ้นถือเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยสร้างการรับรู้และกระตุ้นการเติบโตของตลาดมากกว่า เนื่องจากสัดส่วนจำนวนผู้เป็นสมาชิกฟิตเนสยังต่ำมาก และไม่แข่งขันด้านราคา แต่เน้นสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพื่อเป็นจุดขาย โดยรายเล็กจะชูเรื่องคลาสเฉพาะทาง อย่างปั่นจักรยาน มวยไทย โยคะ เป็นต้น ส่วนรายใหญ่จะชูประสบการณ์ อาทิ อุปกรณ์และบริการเสริมต่าง ๆ ในศูนย์ เพื่อสร้างความคุ้มค่า รวมถึงทำเลที่ตั้ง

สอดคล้องกับโจทย์หลักที่ผู้บริโภคใช้ตัดสินใจเลือกเป็นสมาชิกฟิตเนสนั้น นอกจากความสะดวกทั้งเรื่องใกล้ที่ทำงาน-ที่พักอาศัยแล้ว ยังต้องสามารถช็อปปิ้งต่อหลังออกกำลังกายได้อีกด้วย รวมถึงต้องการความสนุกและประสบการณ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ ส่วนราคามีผลน้อย

เพื่อรองรับดีมานด์นี้จึงตัดสินใจขยายสาขาเพิ่มอีก 2 แห่งในช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมกับเน้นกลุ่มลูกค้าองค์กรมากขึ้น โดยเตรียมเปิดสาขาเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ ซึ่งเป็นการรุก ตจว. เป็นครั้งแรกในโมเดลไลฟ์เซ็นเตอร์แบบเดียวกับสาขาเซ็นทรัลเวสต์เกต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรับสมัครพนักงานด้านต่าง ๆ คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ช่วงต้นปีหน้า

ส่วนใน กทม. เตรียมเปิดสาขาอาคาร 208 ถนนวิทยุ ซึ่งเป็นโมเดลใหม่ บูติคคลับŽ ไซซ์เล็กขนาด 1,300 ตร.ม. จากปกติที่ขนาด 3,000-5,000 ตร.ม. มีจุดขายเป็นความพรีเมี่ยม ทั้งคลาสออกกำลังและอุปกรณ์แบบใหม่ล่าสุด รวมถึงการเพิ่มคลาสใหม่ ๆ ทุกไตรมาส เพื่อตอบโจทย์บรรดาพนักงานออฟฟิศในบริเวณใกล้เคียง โดยมีกำหนดเปิดบริการช่วง ต.ค.-พ.ย.นี้ ส่วนค่าบริการอยู่ระหว่างศึกษา

ด้านการเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรนั้น อาศัยกลยุทธ์สร้างการรับรู้ผ่านฐานสมาชิกที่มีทั้งพนักงานและผู้บริหารขององค์กรต่าง ๆ อยู่แล้ว พร้อมเสนอออกแบบคลาสออกกำลังกายทั้งในและนอกสถานที่ให้สอดคล้องกับชั่วโมงการทำงานของแต่ละแห่ง รวมถึงชูบริการต่าง ๆ ในศูนย์ฟิตเนส อาทิ ห้องประชุมและห้องพักผ่อนสลีปพอดเพื่อจูงใจ

พร้อมกันนี้ยังเพิ่มจำนวนพนักงานรวมถึงจัดฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเน้นย้ำจุดแข็งด้านคุณภาพการบริการ เช่นเดียวกับการทำตลาดผ่านสื่อออนไลน์ รวมถึงเข้าร่วมและออกบูทในกิจกรรมกีฬาต่าง ๆ ที่จัดขึ้น เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง พร้อมกับคอลลาบอเรตกับแบรนด์สินค้ากีฬา อาทิ อันเดอร์อาร์เมอร์แถม-ขายสินค้าพรีเมี่ยมให้สมาชิก เพื่อสร้างความคุ้มค่ากระตุ้นการตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิก

ในส่วนของสาขาเดิมยังคงได้รับการตอบรับดี อาทิ ฟิตเนสสำหรับเด็กที่เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ในเดือนแรกมีสมาชิกกว่า 50 คน สะท้อนการตอบโจทย์ผู้บริโภคซึ่งเป็นกลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่ที่ต้องการออกกำลังกายร่วมกัน

ทั้งนี้เชื่อว่าจะสามารถขยายสาขาครบ 20 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2565 ด้วยงบฯ 5,200 ล้านบาทได้ตามที่ตั้งเป้าเอาไว้อย่างแน่นอน