“ดีดศาสตร์” กาแฟพันธุ์ไทย-กระทิงแดง แท็กทีมคอลแลบ จับคนรุ่นใหม่

กาแฟพันธุ์ไทย-กระทิงแดง เปิดตัว “ดีดศาสตร์” 4 เมนูคอลแลบ เพิ่มพลังงาน ส่งต่อความดีด ความตื่นตัว เข้าถึงคนรุ่นใหม่ ตอบเทรนด์ความต้องการ Functional Drink หวังเพิ่มทราฟฟิก-ยอดขาย 

หากพูดถึง “กาแฟพันธุ์ไทย” หลายคนจะคุ้นเคยในฐานะแบรนด์ร้านกาแฟในเครือปั๊มน้ำมัน พีที ที่ปัจจุบันมีสาขาอยู่มากถึง 1,580 สาขา พร้อมทั้งได้รับการยอมรับจากลูกค้า โดยเฉพาะบนโซเชียลมีเดีย ที่ลูกค้ามีการตั้งกลุ่มเฟซบุ๊กแฟนคลับแบรนด์กาแฟดังกล่าว เพื่อแชร์เรื่องราว และแชร์เมนูเครื่องดื่ม DIY จนกลายเป็นกระแสมาแล้วหลายครั้ง

ล่าสุด กาแฟพันธุ์ไทย แบรนด์ร้านกาแฟในเครือ PTG Energy ร่วมมือกับ ‘กระทิงแดง’ แบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังของไทย เปิดตัว “ดีดศาสตร์ (Energology Drinks)” แคมเปญเมนูเครื่องดื่มที่ร่วมกันพัฒนาขึ้น เพื่อเข้าถึงคนรุ่นใหม่ และช่วยเพิ่มพลังงาน พร้อมทั้งสะท้อน DNA ของทั้ง 2 แบรนด์

จากอินไซต์ สู่การร่วมมือกัน

สุขวสา ภูชัชวณิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด เล่าเบื้องหลังของแคมเปญนี้ ว่าเกิดจากการได้ข้อมูลอินไซต์ของผู้บริโภค และอินไซต์จากคนใกล้ตัว ที่มักต้องการเครื่องดื่มที่ให้พลังงาน เพิ่มความตื่นตัวระหว่างวันหรือระหว่างการอ่านหนังสือ ประกอบกับเทรนด์ตลาดเครื่องดื่มกลุ่ม Functional Drink ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ พฤติกรรมของผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ ปัจจุบันมีความเป็น Independent Generation มากขึ้น ต้องการ
ความแปลกใหม่ เป็นตัวของตัวเอง และมองหาเครื่องดื่มรสชาติที่แตกต่าง บางกลุ่มมีความไม่ได้กินเอาอิ่ม
แต่กินเอาคอนเทนต์ แสดงถึงความสำคัญในการหา New Experience และแบ่งปันบนโซเชียลมีเดียมากขึ้น

นำไปสู่การร่วมมือกับ ‘กระทิงแดง’ ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังระดับโลก ที่มีความเป็นไทย เพื่อสร้างสรรค์เมนูเครื่องดื่มใหม่ในแคมเปญ “ดีดศาสตร์” ผสานความรสชาติอร่อยแปลกใหม่ของพันธุ์ไทยกับพลังของกระทิงแดง เป็น 4 เมนูเครื่องดื่ม เพื่อส่งต่อ “ความดีด สดชื่น ตื่นตัว” สู่ผู้บริโภค และดึงดูดกลุ่มเป้าหมายทั้งผู้ต้องการพลังงาน คนรุ่นใหม่อย่างหนุ่มสาวออฟฟิศ และนักศึกษาที่มองหาเครื่องดื่มที่ให้ทั้งรสชาติและพลังงาน และยังเพิ่มส่วนผสมที่มีประโยชน์

ADVERTISMENT

ขณะเดียวกัน การคอลแลบของทั้ง 2 แบรนด์ในครั้งนี้ เป็นการสะท้อนถึง DNA ของแต่ละแบรนด์ ทั้งพันธุ์ไทย ที่มองว่า อะไรก็เป็นไปได้ และกระทิงแดง ที่มุ่งมั่นในการสร้างพลังกาย พลังใจ เพื่อไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้

ผู้บริหาร กาแฟพันธุ์ไทย ตั้งเป้าหมายว่า การคอลแลบกันครั้งนี้จะสร้างสีสันในตลาดเครื่องดื่ม และเพิ่ม Traffic ในร้านพันธุ์ไทยทั่วประเทศอย่างน้อย 20% ขึ้นไป หรือดันยอดขายเป็น 300 วัน ต่อแก้ว ต่อสาขา รวมถึงการจับกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น ทั้ง Gen Y และ Gen Z จากเดิมที่กลุ่มลูกค้าหลักของร้าน มักเป็นกลุ่ม Gen X

ทั้งนี้ เมนูแบบ DIY หรือเมนูที่ลูกค้าสร้างสรรค์ขึ้นเอง กลายเป็นจุดเด่นที่ทำให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น รวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ ก็เป็นผู้สร้างสรรค์เมนู DIY จับคู่เครื่องดื่ม กับเครื่องเคียงและซอสต่าง ๆ ที่หลากหลาย และมีการบอกต่อไปเรื่อย ๆ

นอกจากนี้ ยังมีการจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ด้วยการออกแคมเปญเมนูพิเศษ ซึ่งตั้งเป้าอย่างน้อยปีละ 4 แคมเปญ และมีการจับกระแสเทรนด์เครื่องดื่มไปด้วยกัน พร้อมทั้งสนับสนุนชุมชนเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟไปด้วยกัน

ชาเลนจ์ ‘กระทิงแดง’ ทดลองสิ่งใหม่

วรวุฒิ พงศ์ชินภัค ประธานผู้บริหารสายงานขายและการตลาดประเทศไทย กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า กระทิงแดง มีฐานลูกค้าหลักคือวัยทำงาน และกำลังขยายตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ และเน้นการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค เราจึงมุ่งมั่นสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค การทำกิจกรรมการตลาดที่ตอบสนองเทรนด์ผู้บริโภคที่ต้องการลิ้มลองสิ่งใหม่ๆ

นอกจากนี้ เรายังวางแนวทางขยายความร่วมมือการทำการตลาดเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตรใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เรามองว่า กาแฟพันธุ์ไทย เป็นแบรนด์ที่สร้างสรรค์ความสนุกให้กับผู้บริโภคอยู่ตลอด ความร่วมมือกันครั้งนี้ จึงเป็นการรวมพลังที่แข็งแกร่งข้ามสายพันธุ์ของสองแบรนด์ไทย

ดังนั้น ทุกเมนูในแคมเปญนี้ ไม่ใช่แค่เครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นหรือปลุกให้ตื่น แต่เป็น ‘การปลุกพลัง’ ที่ดีดให้คุณกล้าทำตามเป้าหมายในทุก ๆ วันที่ตั้งใจไว้ได้สำเร็จ

วรวุฒิ ยังระบุว่า ครั้งนี้เป็นการร่วมคอลแลบกับแบรนด์ใหญ่เป็นครั้งแรก และมองว่าเป็นโอกาสในการเข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้นด้วย

4 เมนู แรงบันดาลใจจาก ‘ยาดองเหล้า’

สำหรับทั้ง 4 เมนูในแคมเปญ “ดีดศาสตร์” ประกอบด้วย

ช้างยกกําลังทิง (Espresso Energy Boost with Kratingdaeng)

เมนูที่ได้แรงบันดาลใจจาก ‘Espresso Martini’ กับเอสเพรสโซดับเบิ้ลช็อต ผสมกระทิงแดงครึ่งขวด และมะนาว (จำหน่ายในราคา 79 บาท)

ทิงซ่าโดดกําแพง (Lime Soda with Kratingdaeng)

เครื่องดื่มสไตล์ ‘Highball’ ผสานกระทิงแดงครึ่งขวด กับสปาร์คกลิ้งโซดา และมะนาวสด (จำหน่ายในราคา 69 บาท)

กำลังช้างสาว (Lychee Yogurt Smoothie Plus Collagen with Kratingdaeng)

เครื่องดื่มผสมคอลลาเจน โยเกิร์ตเนียนนุ่ม รสลิ้นจี่ เพิ่มช็อตกระทิงแดง ปั่นกับเจลลีสตรอว์เบอร์รี (จำหน่ายในราคา 89 บาท)

ช้างกระทืบงาน (Apple Yogurt Smoothie Plus Vitamin B12 with Kratingdaeng)

โยเกิร์ตสมูทตี้กลิ่นแอปเปิ้ล เพิ่มช็อตกระทิงแดง และเจลลีสตรอว์เบอร์รี (จำหน่ายในราคา 89 บาท)

โดยชื่อของทั้ง 4 เมนู มีแรงบันดาลใจจากชื่อยาดองเหล้าในสมัยโบราณ ที่มักสื่อถึงสรรพคุณ หรือมักใช้ชื่อสัตว์ในการตั้งเป็นชื่อเมนู แล้วเชื่อมโยงกับประสบการณ์ของ Young Generation ทำให้เกิดความลงตัวระหว่างความทันสมัยกับภูมิปัญญาไทยที่เป็นรากฐานทางวัฒนธรรม ตามคอนเซ็ปต์ Creative Thai Taste ที่นำเสนอความคิดสร้างสรรค์ที่แตกต่างและคงเอกลักษณ์ความเป็นไทย

สำหรับเมนูในแคมเปญ “ดีดศาสตร์” มีจำหน่ายที่ร้านกาแฟพันธุ์ไทยทุกสาขาทั่วประเทศ และ
บริการเดลิเวอรีจัดส่งถึงบ้าน ตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน 2568 – 18 สิงหาคม 2568 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด

ทั้งนี้ เครื่องดื่มในแคมเปญ “ดีดศาสตร์” ห้ามดื่มเกินวันละ 2 แก้ว เพราะอาจทำให้ใจสั่น นอนไม่หลับ เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรดื่ม ผู้มีโรคประจำตัวหรือผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ก่อน และเฉพาะเมนู ช้างยกกำลังทิง แนะนำให้ดื่มไม่เกินวันละ 1 แก้ว