
ค่ายทีวีเกาหลี-จีนตบเท้าชิงส่วนแบ่งเซ็กเมนต์พรีเมี่ยม หลังสงครามราคาทำมูลค่าตลาดหดตัว 2 ปีต่อเนื่องเหลือ 2.1 หมื่นล้าน ซัมซุง-แอลจีระเบิดศึกสารพัดฟังก์ชั่น AI ตอบโจทย์ความสะดวก ด้านทีซีแอลหันผนึกอาร์เซนอล โหมสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งชิงโชคใหญ่หวังจับแฟนฟุตบอล
ค่ายเกาหลีระเบิดศึก AI
นายอำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดทีวีเป็นหนึ่งในตลาดที่ได้รับผลกระทบจากสงครามราคา จนมูลค่าตลาดลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2566-2567 โดยปี 2566 ตลาดมีมูลค่า 21,100 ล้านบาท ลดลง 8.5% และปี 2567 ตลาดมีมูลค่า 20,700 ล้านบาท ลดลง 2.6%
อย่างไรก็ตาม ในปี 2568 นี้มั่นใจว่ามูลค่าตลาดทีวีในไทยจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง ด้วยมูลค่า 21,100 ล้านบาท หรือเติบโต 2% จากปี 2567 เนื่องจากเซ็กเมนต์ทีวีพรีเมี่ยมหรือทีวีที่ราคาสูงกว่า 30,000 บาท อย่าง OLED TV คาดว่าจะโตขึ้น 13% และเซ็กเมนต์ทีวีขนาด 75 นิ้วขึ้นไป คาดว่าจะโตขึ้น 10% ขณะเดียวกันบริษัทและผู้เล่นรายหลักอื่น ๆ ต่างหันมาโฟกัสเซ็กเมนต์พรีเมี่ยมซึ่งยังเติบโตนี้ ด้วยการแข่งขันด้านนวัตกรรม อาทิ ระบบ AI คุณภาพภาพและเสียง รวมถึงขนาดหน้าจอ แทนการแข่งขันด้านราคา
โดยไฮไลต์ของทีวีแอลจีในปีนี้จะเป็นสารพัดฟังก์ชั่น AI ที่สามารถเรียนรู้และจดจำพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ได้ เพื่อตอบโจทย์ด้านความสะดวก ทั้งการใช้งานและการค้นหาคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็น AI Voice ID ที่สามารถจดจำเสียงของผู้ใช้แต่ละคน พร้อมสลับไปยังโปรไฟล์ส่วนตัวและนำเสนอคอนเทนต์ที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ, AI Concierge สำหรับแนะนำสิ่งที่น่าสนใจ, AI Chatbot ช่วยวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาการใช้งาน โดยไม่ต้องค้นหาในเมนูการตั้งค่า และ AI Search ที่เรียนรู้รูปแบบการค้นหาของผู้ใช้
รวมถึงยังนำ AI มาใช้ในด้านภาพและเสียง ด้วยระบบปรับแต่งภาพและเสียง AI Picture/Sound Wizard ที่วิเคราะห์และปรับแต่งการแสดงผลได้มากถึง 1,600 ล้านรูปแบบ พร้อม AI Sound Wizard สามารถปรับแต่งเสียงได้ถึง 84 ล้านรูปแบบ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้แบบรายบุคคล
นอกจาก AI แล้ว ยังเสริมแกร่งด้านความคุ้มค่าด้วยโปรแกรม webOS Re:New ที่รับประกันการอัพเดตระบบปฏิบัติการต่อเนื่อง 5 ปี ตอบโจทย์การรองรับแอปพลิเคชั่นและบริการความบันเทิงใหม่ ๆ ในอนาคต รวมถึงตอบโจทย์เทรนด์ต้องการจอใหญ่ด้วยการนำ LG QNED evo AI QNED86A ขนาด 100 นิ้ว เข้ามาวางจำหน่ายอีกด้วย เพื่อบรรลุเป้าหมายที่บริษัทตั้งเป้าเติบโต 20% ทั้งในกลุ่ม OLED TV และทีวีขนาด 75 นิ้วขึ้นไปให้ได้
ซัมซุงเพิ่มมูลค่ามากกว่าบันเทิง
สอดคล้องกับทิศทางของซัมซุง ซึ่งนายชวพจน์ เทียนทอง ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจภาพและเสียง บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า เมื่อช่วงไตรมาส 1 ของปี 2568 เซ็กเมนต์ทีวีพรีเมี่ยม อย่างทีวีขนาด 75 นิ้วขึ้นไปเติบโต 10% จากไตรมาส 4 ของปี 2567 สะท้อนถึงกำลังซื้อที่แข็งแกร่งในเซ็กเมนต์พรีเมี่ยม สวนทางกับเซ็กเมนต์ระดับแมสที่การแข่งขันกับแบรนด์จีนที่เน้นจุดขายด้านราคา ทำให้มูลค่าตลาดหดตัว
ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงโฟกัสทำตลาดทีวีระดับพรีเมี่ยมเช่นกัน โดยนอกจากฟังก์ชั่น AI สำหรับอัพสเกลภาพเป็น 8K เพื่อตอบโจทย์การขาดแคลนคอนเทนต์ 8K และการปรับภาพตามคอนเทนต์ที่กำลังรับชมแล้ว ในไลน์อัพทีวีปี 2568 นี้ บริษัทยังใส่ฟังก์ชั่นเสริมนอกเหนือจากความบันเทิงเข้ามา อาทิ ฟีเจอร์ดูแลสัตว์เลี้ยงและเด็กเล็กผ่านเซ็นเซอร์ในตัว ที่วิเคราะห์เสียงเห่าหรือเสียงร้องไห้ พร้อมแจ้งเตือนสถานการณ์ปัจจุบันบนหน้าจอทีวี มือถือ หรือจอมอนิเตอร์
รวมถึงต่อยอดอีโคซิสเต็มที่มีอุปกรณ์อย่างมือถือ และสมาร์ทวอตช์ด้วยฟังก์ชั่นโหมดคาราโอเกะที่ใช้สมาร์ทโฟนเป็นไมค์ และควบคุมทีวีแบบไร้รีโมตผ่าน Galaxy Watch ด้วยการตรวจจับท่าทาง เช่น บิดข้อมือเพื่อเลื่อน จีบมือเพื่อเลือก หรือกำมือเพื่อย้อนกลับ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังวางราคาทีวีพรีเมี่ยมแบบ OLED Series รุ่นใหม่ ให้เข้าถึงง่ายขึ้น ด้วยราคาเริ่มต้น 44,990 บาท รวมถึงรับประกันการอัพเดต OS ของทีวีนาน 7 ปีอีกด้วย
ทั้งนี้เชื่อว่ากลยุทธ์เหล่านี้จะช่วยผลักดันให้ยอดขายทีวีในปี 2568 นี้ สามารถเติบโตได้ถึง 6% ตามที่ตั้งเป้าไว้แน่นอน
TCL ผนึกอาร์เซนอล
ด้านนายแกรี่ จ้าว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีซีแอล อิเล็กทรอนิกส์ (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ TCL กล่าวว่า ในปี 2568 นี้ บริษัทจะเดินหน้าขยายตลาดทีวีระดับกลางถึงไฮเอนด์ในไทย มุ่งเจาะกลุ่มผู้เล่นเกมและแฟนกีฬาโดยเฉพาะฟุตบอล โดยนอกจากไลน์อัพทีวีรุ่นใหม่ที่อัดนวัตกรรมด้านภาพและเสียงแล้ว ยังมีแคมเปญสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งที่ออกแบบเพื่อจูงใจแฟนกีฬาฟุตบอลโดยเฉพาะ
ด้วยแคมเปญ “C MORE C ARSENAL” ตั้งแต่ 9 มิถุนายน-9 กันยายน 2568 ซึ่งบริษัทผนึกกำลังกับสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล จัดกิจกรรมหลากหลาย ทั้งเกม, แสดงเทคโนโลยี มีไฮไลต์เป็นกิจกรรมชิงโชคเดินทางไปชมการแข่งขันของทีมอาร์เซนอลในที่นั่งแบบ VIP Box ณ กรุงลอนดอน (จำนวน 4 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง รวม 8 ที่นั่ง) รวมค่าตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และค่าบัตรเข้าชมการแข่งขันแบบ VIP รวมมูลค่า 1,600,000 บาท รวมถึงของรางวัลอื่น ๆ มูลค่ารวมกว่า 5,000,000 บาท
สำหรับไลน์อัพสินค้าใหม่ของปี 2568 นั้น จะเป็นสมาร์ททีวี C Series QD Mini LED ขนาดตั้งแต่ 55-98 นิ้ว ซึ่งมีตั้งแต่ระดับ Entry Premium ในรุ่น C6K ไปจนถึงรุ่น C8K ที่เป็นรุ่นท็อป โดยมีนวัตกรรมด้านภาพและเสียงที่ตอบโจทย์การเล่นเกมและชมกีฬา อาทิ อัตรารีเฟรชสูงสุด 144Hz, ความสว่างสูงสุด 5,000 nits ระบบเสียง Bang & Olufsen, ควบคุมด้วยเสียงผ่านระบบ AI ฯลฯ