เปิดทายาท แชโบลรุ่น 4 “คู กวาง โม” กุมบังเหียน แอลจี

คอลัมน์ MARKET MOVE

 

แชโบล หรือกลุ่มธุรกิจครอบครัวขนาดยักษ์ของเกาหลีใต้ นับเป็นกำลังสำคัญที่ขับเคลื่อนธุรกิจและอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ ซึ่งช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมามีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายด้าน ทั้งเรื่องธุรกิจและเรื่องภายในครอบครัวของแต่ละตระกูล

ล่าสุดได้มีข่าวใหญ่อีกครั้ง เมื่อ “แอลจี” แชโบลอันดับ 4 ของเกาหลีใต้ที่มีธุรกิจหลากหลาย ได้ประกาศเปิดตัวทายาทรุ่นที่ 4 ซึ่งจะเข้ามากุมบังเหียนแทน “คู บอน มู” ประธานบริษัทที่เสียชีวิตในวัย 74 ปี ด้วยโรคมะเร็งสมองเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บอร์ดบริหาร “แอลจี” ได้แต่งตั้ง “คู กวาง โม” ผู้บริหารหนุ่มใหญ่วัย 40 ปี ลูกชายบุญธรรมของ “คู บอน มู” เป็นผู้สืบทอดธุรกิจ โดยจะควบตำแหน่งประธานกรรมการบริหารหรือซีอีโอและประธานบริษัทไปพร้อมกัน รวมถึงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วยสัดส่วน 17.5%

โดย “คู กวาง โม” เข้าทำงานครั้งแรกผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการเงินของแอลจีอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อปี 2006 ก่อนจะขยับมาทำงานในฝ่ายพัฒนาสินค้าความบันเทิงภายในบ้านที่สาขาสหรัฐ และไต่เต้าขึ้นมาจนมีตำแหน่งล่าสุดเป็นรองประธานกรรมการของแอลจีอิเล็กทรอนิกส์ ดูแลเซ็กเมนต์จอภาพเชิงพาณิชย์ และมีผลงานในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทไอทีในสหรัฐและสหภาพยุโรป รวมถึงกำลังมีบทบาทสำคัญในการหาแหล่งรายได้ใหม่แก่บริษัท ซึ่งผู้บริหารใหม่รายนี้ มีบุคลิกภาพนอบน้อม ยืดหยุ่น เอาใจใส่ และยึดมั่นในหลักการ เช่นเดียวกับบิดา

ส่วน “คู กวาง โม” ได้เผยวิสัยทัศน์กับบอร์ดบริหารว่า จากนี้จะมุ่งเดินแผนระยะยาวเพื่อรับมืออนาคต ทั้งการลงทุนด้านบุคลากร และการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า รวมถึงขยายธุรกิจต่อเนื่อง พร้อมกับรักษาจุดเด่นด้านความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจและการบริหาร ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัท

ขณะเดียวกัน ด้านนักวิเคราะห์เริ่มคาดการณ์ทิศทางของยักษ์อุตสาหกรรมหลังจากนี้ว่า ผู้บริหารใหม่น่าจะโฟกัสด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระบบไอโอที (IOT) เช่น ThinQ AI และหุ่นยนต์ หลังจากสัปดาห์ที่แล้วได้ลงทุน 3 ล้านเหรียญสหรัฐในบริษัท “บอสซา โนวา โรโบติก” (Bossa Nova Robotics) ผู้ผลิตหุ่นยนต์ และการเข้าถือหุ้น 20% “โรโบสตาร์” (Robostar) บริษัทผลิตหุ่นยนต์อุตสหกรรมสัญชาติเกาหลี

ส่วนแหล่งรายได้ใหม่นั้น น่าจะเป็นธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ต่อยอดจากการเทกโอเวอร์ “ซีเคดับเบิลยู กรุ๊ป” (ZKW Group) บริษัทออสเตรีย ผู้นำด้านผลิตระบบแสงสว่างและหลอดไฟสำหรับรถยนต์ เมื่อเดือน เม.ย. ด้วยเม็ดเงินกว่า 1,100 ล้านยูโร นับเป็นดีลซื้อกิจการใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์แอลจี เนื่องจากสามารถนำหน่วยธุรกิจต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วมาช่วยเสริมแกร่งได้ เช่น ใช้ธุรกิจเคมีภัณฑ์แอลจีเคม (LG Chem) ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ส่วนแอลจี อินโนเทค (LG Innotek) ผลิตมอเตอร์และอุปกรณ์สื่อสาร และแอลจีอิเล็กทรอนิกส์ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาความเคลื่อนไหว “คู บอน จูน” รองประธานบริษัทและน้องชายของ “คู บอน มู” ที่ตัดสินใจลาออกจากบริษัทที่อาจจะพยายามดึงบริษัทในเครือของแอลจีแยกตัวออกไปตั้งเป็นบริษัทใหม่