ปั้น คุณภาพ จับตลาดบิ๊กแบรนด์ ลุยอีเวนต์ 1.7 แสนล้าน

เมื่อธุรกิจการจัดประชุมนานาชาติ การท่องเที่ยว นิทรรศการ หรือไมซ์ (MICE : Meetings, Incentive Travel, Conventions, Events) ขยายตัวขึ้นต่อเนื่องโดยสร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 174,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน การเติบโตที่เกิดขึ้นก็ส่งผลให้ธุรกิจอีเวนต์ที่เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจไมซ์โตตามไปด้วย พร้อมกับการปรับตัวของผู้ประกอบการเพื่อรับมือกับการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงจากหลาย ๆ มิติ

“เสริมคุณ คุณาวงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) ในฐานะนายกสมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงาน (EMA) ให้มุมมองว่า ปัจจุบันธุรกิจอีเวนต์มีมูลค่าประมาณ 14,000 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะโตขึ้น 5% จากมูลค่ารวม ปัจจัยหลักมาจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศที่เริ่มดีขึ้น ประกอบกับโอกาสที่เกิดขึ้นจากธุรกิจไมซ์ ทำให้มีธุรกิจจากหลากหลายประเทศเข้ามาจัดงาน จัดอีเวนต์ในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะแบรนด์ระดับรีจินอลที่เข้ามาจัดอีเวนต์ในไทยเพิ่มขึ้น ด้วยโอกาสที่เกิดขึ้นก็ทำให้ภาพรวมธุรกิจอีเวนต์มีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามไปด้วย

ปัจจุบันธุรกิจไมซ์มีมูลค่ารวมค่อนข้างสูง ด้วยรูปแบบของธุรกิจที่เป็นลักษณะเกี่ยวโยงเป็นลูกโซ่แบบครบวงจร ทำให้เอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจอื่น ๆ ให้โตตามไปด้วย ทั้งธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร โลจิสติกส์ ตลอดจนธุรกิจรับจัดอีเวนต์ซึ่งธุรกิจนี้จำเป็นต้องใช้บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญจำนวนมาก เพื่อขับเคลื่อนกลไกการทำงานตั้งแต่การสร้างสรรค์งานครีเอทีฟอีเวนต์ (creative event) การพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ การให้บริการด้านกลยุทธ์การตลาดรวมทั้งการให้เช่าอุปกรณ์ระบบภาพ แสง และเสียง จึงกลายเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูง และยังรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในหลาย ๆ ด้าน

ทั้งนี้ การขยายตัวของธุรกิจไมซ์ไม่เพียงทำให้ผู้รับจัดอีเวนต์ในไทยโตขึ้น แต่ยังดึงความสนใจให้ผู้รับจัดอีเวนต์จากต่างประเทศเข้ามาเล่นในตลาดนี้ด้วย ส่งผลให้ภาพการแข่งขันของธุรกิจนี้รุนแรงขึ้น แต่สำหรับผู้ประกอบการไทยแล้วยังสามารถแข่งขันได้ ด้วยจุดแข็งที่มีนั่นคือ เรื่องของความคิดสร้างสรรค์ และการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี กลายเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้ประกอบการไทยต้องเร่งพัฒนา คือ การปรับรูปแบบการทำงานสู่อินเตอร์เนชั่นแนลมากขึ้น ด้วยการสร้างมาตรฐาน สร้างคุณภาพงานที่ดี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันและรองรับกลุ่มลูกค้า (สินค้า) ในระดับอินเตอร์มากขึ้น ซึ่งสมาคมก็มีบทบาทในการจัดอบรมให้ความรู้แก่สมาชิกของสมาคม ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 30 บริษัทอีกส่วนที่ต้องพัฒนาควบคู่ไปด้วยกัน คือ บุคลากร ล่าสุดได้ร่วมกับหน่วยงานรัฐ “ทีเส็บ” จัดโครงการเครือข่ายเยาวชนไมซ์ “MICE Student Chapter” และจัดทำหลักสูตรและหนังสือวิชาการจัดการอีเวนต์ หรือ Event 101 เพื่อถ่ายทอดเนื้อหาสำคัญให้แก่นักศึกษา มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้าง ผลักดันองค์ความรู้ กิจกรรมด้านไมซ์ในการเตรียมความพร้อมของบุคลากรรุ่นใหม่เข้าสู่สายอาชีพ

สำหรับภาพรวมธุรกิจของซีเอ็มโอนั้น “เสริมคุณ” บอกว่า ทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังนี้คาดว่าจะเติบโตขึ้น เนื่องจากไตรมาส 3 และ 4 นี้จะมีจำนวนงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจอีเวนต์ เพราะช่วงปลายปีเป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลอง ทำให้หลาย ๆ ธุรกิจเริ่มกลับมาจัดอีเวนต์ต่อเนื่องนอกจากนี้ บริษัทได้ขายแฟรนไชส์สวนสนุก “อิเมจิเนีย” ไปแล้ว และเตรียมเปิดแห่งแรกที่นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนามในเดือนสิงหาคมนี้ บนพื้นที่ 14,000 ตารางเมตร และอยู่ระหว่างทบทวนแผนการขยายสวนสนุกอิเมจิเนียในต่างประเทศด้วย

“ตอนนี้มีหลายประเทศให้ความสนใจแฟรนไชส์สวนสนุกอิเมจิเนีย แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ต้องการจะให้บริษัทเข้าไปร่วมทุนด้วย ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีนโยบายการเข้าไปลงทุนในต่างประเทศ แต่ถ้ามีความสนใจมากขึ้นก็อาจจะต้องทบทวนแผนนี้อีกครั้ง”

ในส่วนผลประกอบการไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ซีเอ็มโอมีรายได้ 306.56 ล้านบาท ขาดทุน 3.22 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากต้นทุนการให้บริการเพิ่มขึ้น ทั้งหมดกลายเป็นปัจจัยสำคัญ และโอกาสใหญ่ที่ทำให้กลไกเล็ก ๆ ของธุรกิจไมซ์อย่างธุรกิจอีเวนต์เติบโตตามไปด้วย