เป็นข่าวที่สร้างแรงสั่นสะเทือนทั้งในวงการค้าปลีกเมืองไทยและต่างประเทศ เมื่อสื่อต่างชาติหลายสำนักรายงานถึงการที่ “เซ็นทรัล กรุ๊ป” มีการศึกษาถึงแผนการนำธุรกิจเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า แหล่งข่าวที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวระบุว่า เซ็นทรัลกรุ๊ปกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะมีความชัดเจนในเร็ว ๆ นี้ โดยทางกรุ๊ปอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างในกลุ่มธุรกิจรีเทลซึ่งปัจจุบันกลุ่มเซ็นทรัลเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้า อาทิ เซ็นทรัล, เซ็นทรัล เอ็มบาสซี, เซน, ซูเปอร์สปอร์ต, โรบินสัน และยังรวมไปถึงห้างในต่างประเทศ เช่น ลา รีนา-เชนเต้, อิลลุม ตลอดจนบิ๊กซี ในเวียดนามมีการคาดการณ์กันว่าไซซ์ของ IPO ในครั้งนี้จะมีมูลค่าสูงที่สุดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และอาจสูงถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานของเซ็นทรัลกรุ๊ปในปีนี้ มีการตั้งเป้าหมายไว้ที่ 3.97 แสนล้านบาท โดยจะมาจากยอดขายของรีเทลเป็นสัดส่วนถึง 40%
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
“ประชาชาติธุรกิจ” ได้สัมภาษณ์ “นิโคโล กาลันเต้” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด CEO of Central Retail ซึ่งปัจจุบันได้เข้ามาดูในส่วนของกลุ่มธุรกิจรีเทล อาทิ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ซูเปอร์สปอร์ต เพาเวอร์บาย เซ็นทรัลโฮมกรุ๊ป เซ็นทรัลออนไลน์กรุ๊ป เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป ออมนิแชนเนล เซ็นทรัลเทคโนโลยีออแกไนเซชั่น รวมถึงกลุ่มห้างสรรพสินค้าในต่างประเทศของเซ็นทรัลกรุ๊ป ได้กล่าวถึงกระแสข่าวดังกล่าว
“นิโคโล” ระบุเพียงว่า เขาไม่สามารถให้คอมเมนต์อะไรได้ ณ ขณะนี้ โดยภารกิจของเขาในขณะนี้กำลังโฟกัสกับการขับเคลื่อนทุกกลุ่มธุรกิจของเซ็นทรัล ให้เดินหน้าไปตามยุทธศาสตร์ “นิวเซ็นทรัล นิวอีโคโนมี” สู่ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี และดิจิไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม โดยเฉพาะการเชื่อมต่อประสบการณ์หน้าร้าน ไปยังออนไลน์อย่างไร้รอยต่อ
“เราต้องการสรรหาโมเดลธุรกิจที่แปลกใหม่ เพื่อตอบรับกับตลาดและผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป”
ในขณะที่ธุรกิจในต่างประเทศก็มองโอกาสการลงทุนใหม่อยู่เสมอ ทั้งในยุโรป และเวียดนาม ไม่ว่าจะเป็นการขยายมอลล์ใหม่ ๆ ภายใต้แบรนด์ที่มีอยู่เดิม รวมถึงการซื้อกิจการหากมีโอกาสที่น่าสนใจและมีศักยภาพในการลงทุน
“เรามองว่าในเวียดนาม และยุโรป ยังมีโอกาสที่เซ็นทรัลจะเข้าไปต่อยอดอะไรได้อีกหลายอย่าง และในไทยเองก็ยังมีศักยภาพที่จะขยายตัวต่อไปเช่นกัน จากความแข็งแกร่งของเซ็นทรัลกรุ๊ป เราเชื่อมั่นว่าผลงานที่ออกมาจะดีขึ้นเรื่อย ๆ และมีส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
ที่ผ่านมา “กลุ่มเซ็นทรัล” ได้รับมือโลกการค้าในยุคดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเสริมทัพความแข็งแกร่งของทีมบริหารเพื่อเป้าหมายการปั้นองค์กรให้เป็น truly world-class organization ในเวทีการค้าระดับโลก
การเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างบริหารครั้งสำคัญของกลุ่มเซ็นทรัลช่วง 2 ปีก่อนเพื่อรองรับกลยุทธ์การขยายงานของกลุ่มที่ต้องเติบโตอย่างก้าวกระโดด กลุ่มเซ็นทรัลได้เสริมทัพผู้บริหารระดับสูงขององค์กรด้วยบุคลากรที่มากด้วยความรู้ ความสามารถและประสบการณ์จากหลากหลายแขนงทั้งในและต่างประเทศ
ทั้ง นายญนน์ โภคทรัพย์ เข้ามาดำรงตำแหน่ง President of Central Group, นายนิโคโล กาลันเต้ (Mr.Nicolo Galante) อดีต Managing Partner บริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ McKinsey & Company ดำรงตำแหน่ง Chief Operating Officer, นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ อดีตรองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ, นายสจ๊วต สเต็มเพิล (Mr.Stewart Stemple) รวมถึง ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นที่ปรึกษาอาวุโส
ครั้งนั้น “ทศ จิราธิวัฒน์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ขยายความว่า กลุ่มเซ็นทรัลเติบโตอย่างต่อเนื่องมากว่าเจ็ดทศวรรษ การสร้างทีมและการพัฒนาบุคลากรให้มีความสามารถโตไปพร้อมองค์กรถือเป็นพันธกิจ top priority ของกลุ่ม ทีมผู้บริหารระดับสูงที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเพื่อรองรับการขยายงานในอนาคต ทั้งในและต่างประเทศและในโลกดิจิทัล และเพื่อนำพากลุ่มเซ็นทรัลให้เป็น truly world-class organization ในเวทีการค้าระดับโลก
ขณะเดียวกันเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มเซ็นทรัลได้เปิดตัวทีมผู้บริหารรุ่นใหม่ 9 คนของตระกูลจิราธิวัฒน์ เพื่อเข้ามาบริหารและรับช่วงงานต่อจากทีมปัจจุบันที่เริ่มปรับบทบาทเป็นที่ปรึกษาและกุนซือสอนงานเรื่อง IPO อาจต้องลุ้นกันอีกที… แต่เรื่องที่ไม่ต้องลุ้นเลยก็คือ ภาพของเซ็นทรัล ที่จะกลายเป็น New Retailไม่ได้จำกัดตัวเองแค่ค้าปลีกอีกต่อไป หลังจากความร่วมมือกับกลุ่ม JD.Com ที่จะเริ่มเห็นความชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่เพียงการปลุกตลาดอีคอมเมิร์ซ แต่ยังรวมถึงการต่อยอดไปยังธุรกิจอีกหลากหลายแขนง ทั้งอีไฟแนนซ์ รวมถึงอีโลจิสติกส์ ซึ่งล้วนต่างตอบโจทย์ภาพของ “เซ็นทรัล” ที่จะกลายเป็น New Retail