ตลาดศัลยกรรมแปลงเพศไทยเจ๋ง หมอฝีมือดี-ราคาไม่แพง ต่างประเทศบินมาใช้บริการเพียบ โรงพยาบาลกมล ผุด “K Wellness Center” ศูนย์ดูแลก่อนและหลังผ่าตัดแปลงเพศ “บางมด” ขยับตัวแตกแบรนด์ใหม่ ขยายฐานคนเมือง ย้ำภาพโรงพยาบาลศัลยกรรมครบวงจร
ปัจจุบันแม้จะไม่มีการเก็บตัวเลขมูลค่าตลาดศัลยกรรมแปลงเพศในเมืองไทยอย่างชัดเจน แต่จากข้อมูลของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติ (ISAPS) ระบุว่า ตลาดศัลยกรรมความงามไทยมีมูลค่าสูงกว่า 36,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มการเติบโต 15-20% ต่อเนื่องทุก ๆ ปี เนื่องจากไทยมีชื่อเสียงด้านศูนย์กลางทางการแพทย์แห่งเอเชีย อีกทั้งเป็นที่ยอมรับในด้านเทคโนโลยีและบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านศัลยกรรม
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
นางสาวศิริเพ็ญ พันธ์ศรีทุม กรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลกมล ศัลยกรรมตกแต่งและแปลงเพศแบบครบวงจร กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดศัลยกรรมตกแต่งและแปลงเพศของไทยขยายตัวขึ้นทุก ๆ ปี ส่วนหนึ่งมาจากสังคม+ทั่วโลกให้การยอมรับกลุ่มคนข้ามเพศ (transgender) และกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBT : lesbian, gay, bisexual, transgender/transsexual) มากขึ้น ประกอบกับไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์กลางของการแปลงเพศที่สามารถผ่าตัดแปลงเพศได้ทั้งจากชายเป็นหญิงและหญิงเป็นชายในโรงพยาบาลเดียวกันได้ ทำให้มีชาวต่างชาติจากทั้งยุโรป อเมริกา เอเชีย บินเข้ามาแปลงเพศในไทยเพิ่มจำนวนขึ้นในทุก ๆ ปี
“ขณะนี้ชาวต่างชาติมีแนวโน้มบินเข้ามาแปลงเพศในไทยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนามากขึ้น ประกอบกับชื่อเสียงด้านฝีมือทางการแพทย์ของไทยที่ได้รับการยอมรับ และผู้ใช้บริการบอกต่อแบบปากต่อปาก นอกจากนี้ ราคาการแปลงเพศทั้งตัวอยู่ที่ 1 ล้านบาท ก็ทำให้คนต่างชาติเข้ามาใช้บริการนี้ในไทยมากขึ้น ซึ่งตอนนี้การแปลงเพศจากหญิงเป็นชายได้รับความนิยมและมีสัดส่วนมากขึ้น จากเดิมที่การแปลงเพศจากชายเป็นหญิงมีมากกว่า”
นางสาวศิริเพ็ญกล่าวด้วยว่า สำหรับโรงพยาบาลกมล แต่ละปีจะมีผู้เข้ามาใช้บริการแปลงเพศเฉลี่ย 1,000 คนต่อปี เป็นชาวต่างชาติ 70% คนไทย 30% ล่าสุดได้เปิดให้บริการศูนย์สุขภาพ “K Wellness Center” สำหรับดูแลสุขภาพก่อนและหลังการข้ามเพศ เพื่อให้บริการมีความครบวงจรมากขึ้น
สอดรับกับนายแพทย์ธนัญชัย อัศดามงคล ผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลบางมด ที่กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า ปัจจุบันมีลูกค้าชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาทำศัลยกรรมความงามในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะคนเอเชีย ที่มีตัวเลขเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 20-30% ทุกปี โดยปัจจัยหลัก ๆ นอกจากการทำศัลยกรรมจะมีการยอมรับมากขึ้นแล้ว ที่สำคัญ เทคโนโลยีและทีมแพทย์ไทยก็ได้รับการยอมรับในเรื่องของคุณภาพมาตรฐาน และราคาค่ารักษาพยาบาลไม่สูง
“ศัลยกรรม 3 อันดับแรกที่ได้รับความนิยมจากคนต่างชาติ คือ การเสริมจมูก ดึงหน้า และแปลงเพศ ซึ่งการทำศัลยกรรมแปลงเพศของไทยก็ได้รับนิยมจากชาวต่างชาติเป็นอันดับต้น ๆ แต่อาจจะไม่ได้รู้จักกันวงกว้าง เพราะไม่ได้โฆษณาประชาสัมพันธ์ เนื่องจากเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม แต่ก็เป็นตลาดที่โตขึ้น”
สำหรับโรงพยาบาลบางมด ปัจจุบันมีคนต่างชาติเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งยุโรป อเมริกา เอเชีย ออสเตรเลีย สวีเดน ส่วนใหญ่จะรู้จักแบรนด์บางมดจากการรีวิวของผู้เคยเข้ามาใช้บริการจากสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงการบอกต่อ และเตรียมเปิดคลินิกศัลยกรรมความงามภายใต้ชื่อ The Lux Clinic by Bangmod ที่สุขุมวิท 39 ในเดือนกันยายนนี้ เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนเมืองเพิ่มขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับโรงพยาบาลยันฮี หนึ่งในโรงพยาบาลที่มีบริการแปลงเพศ เว็บไซต์ของยันฮี ได้ประชาสัมพันธ์บริการแปลงเพศศูนย์แปลงเพศว่า มีบริการแปลงเพศชายเป็นหญิงและหญิงเป็นชาย ราคาค่ารักษาสำหรับการแปลงเพศจากชายเป็นหญิง (เทคนิคใหม่) อยู่ที่ 155,000 บาท ขณะที่ จากหญิงเป็นชายโดยรวมประมาณ 1,006,000 บาท พร้อมกับให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมสำหรับการแปลงเพศ เช่น ต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ แต่หากมีอายุน้อยกว่าต้องมีจดหมายรับรองจากผู้ปกครองเพื่อยินยอมการผ่าตัดทุกราย เป็นต้น