รพ.เอกชัยผุดศูนย์เฉพาะทาง เสริมจุดแข็ง-ปั๊มรายได้600ล.

กำลังซื้อคนสมุทรสาครยังดี โรงพยาบาลเอกชัยเติมไม่อั้น เตรียมเพิ่มศูนย์เฉพาะทางเพียบ ทั้งศูนย์ไตเทียม ศูนย์ตา-เลสิก พร้อมย้ำภาพผู้เชี่ยวชาญด้านหมอเด็ก ขยายศูนย์กุมารเวชแห่งใหม่ และต่อยอดเปิดศูนย์ผู้มีบุตรยาก เจาะกลุ่มคนจีนและคนใต้ตอนบน ตั้งเป้าสิ้นปีรายได้แตะ 600 ล้านบาท

นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการบริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) และผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชัย กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจจากนี้ไปว่า ธุรกิจสุขภาพและโรงพยาบาลยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ขณะเดียวกัน การเป็นโรงพยาบาลโรงเดี่ยวที่ไม่มีเครือข่ายเหมือนโรงพยาบาลเอกชนรายใหญ่ ก็ต้องเร่งสร้างบริการด้านการรักษาทางการแพทย์เฉพาะทางมากขึ้น เพื่อทำให้การรักษาครบวงจร ที่ผ่านมาโรงพยาบาลเอกชัยมีจุดเด่นด้านศูนย์แม่และเด็ก และจากนี้ไปจะเริ่มต่อยอดจากจุดแข็งที่มีก่อนด้วยการขยายบริการเฉพาะทางของศูนย์แม่และเด็ก ซึ่งจะมีบริการที่หลากหลาย เช่น ตรวจสุขภาพเด็ก โภชนาการเด็ก โรคระบบทางเดินหายใจและปอดในเด็ก เป็นต้น

อีกทั้งยังได้ขยายศูนย์กุมารเวชแห่งใหม่ของโรงพยาบาลเอกชัย เป็นอาคาร 5 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 7,200 ตร.ม. มีห้องพักผู้ป่วยรองรับจำนวนเตียงผู้ป่วยใน 50 เตียง เริ่มก่อสร้างอาคารในปีนี้ และคาดว่าจะเปิดให้บริการปี 2562 รวมถึงเตรียมขยายศูนย์อื่น ๆ เพิ่ม เช่น ศูนย์ไตเทียม ศูนย์ตา-เลสิก เป็นต้น ซึ่งการขยายธุรกิจปีนี้จะอยู่ภายใต้งบฯลงทุนรวม 300 ล้านบาท

“ที่ผ่านมาโรงพยาบาลเอกชัยมีบริการทั่ว ๆ ไป หรือมีแค่แผนกอายุรกรรมเท่านั้น ไม่ได้มีศูนย์เฉพาะทาง แต่จากนี้ไปอะไรที่ลงลึกได้เราจะลงลึกให้หมด เพื่อสร้างบริการที่ดี โดยวางเป้าหมายว่าจะทำให้เอกชัยกลายโรงพยาบาลชั้นนำที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการในพื้นที่รวมถึงผู้ใช้บริการจากต่างประเทศด้วย”

นอกจากนี้ ยังได้เปิดให้บริการศูนย์ให้คำแนะนำปรึกษาผู้มีบุตรยาก ซึ่งดำเนินงานโดยบริษัท เอกชัย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทย่อยในเครือ เจาะกลุ่มผู้มีบุตรยาก โดยสัดส่วนผู้เข้ามาใช้บริการจากจีน 70% และคนไทย 30% หรือเฉลี่ยจะมีผู้เข้ามาใช้บริการประมาณ 10 รายต่อเดือน หรือ 120 คนต่อปี

“ตอนนี้ก็มีลูกค้าชาวจีนเข้ามาใช้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยากเพิ่มขึ้นทุกเดือน โดยมีเอเย่นต์ในจีนเป็นคนทำตลาดแล้วส่งคนไข้เข้ามาให้ ส่วนลูกค้าคนไทยเน้นทำตลาดกับกลุ่มลูกค้าภาคใต้ตอนบน ไล่ตั้งแต่สุราษฎร์ธานีขึ้นมาจนถึงสมุทรสาคร เนื่องจากยังไม่มีโรงพยาบาลเอกชนที่เปิดให้บริการศูนย์นี้ ขณะที่การเดินทางก็สะดวกและราคาใช้จ่ายก็ไม่สูง”

สำหรับสถานการณ์การแข่งขันของโรงพยาบาลเอกชนย่านสมุทรสาครก็ไม่สูงมาก เนื่องจากมีคู่แข่งไม่มาก แต่ด้วยเอกลักษณ์ของการบริการที่แตกต่างกัน ทำให้ผู้เข้ามารับการรักษาก็แตกต่างกันไปด้วย โดยแต่ละรายก็มีฐานลูกค้าของตัวเองที่ชัดเจน โดย รพ.เอกชัยก็มีจุดแข็งด้านศูนย์แม่และเด็ก

นายแพทย์อำนาจกล่าวต่อว่า สภาพเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดสมุทรสาครเริ่มดีขึ้น ซึ่งเชื่อว่าไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์อะไรขึ้นแต่ธุรกิจโรงพยาบาลน่าจะได้รับผลกระทบน้อย เนื่องจากเป็นธุรกิจที่เป็นปัจจัย 4 ที่คนยังมีความต้องการ

นายสุทธิพงศ์ ตั้งสัจจะพจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ตอนนี้อัตราการครองเตียงของโรงพยาบาลเอกชัยดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยปัจจุบันเปิดให้บริการอยู่ที่ 90 เตียงจากทั้งหมด 100 เตียง ประกอบกับแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจประกันสุขภาพก็ทำให้คนไข้กล้าเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลเอกชนในช่วงเวลาฉุกเฉินมากขึ้น ทำให้บริษัทมีโอกาสขยายตัวขึ้นต่อเนื่อง

ปัจจุบันแบ่งสัดส่วนรายได้เป็นอุบัติเหตุ 30% ศูนย์กุมารเวช 20% ศูนย์สูตินรีเวช 10% และอื่น 40% สำหรับแผนดำเนินงานปีนี้ตั้งเป้าหมายว่าจะมีรายได้ประมาณ 600 ล้านบาท โต 8-10% จากปีก่อน โดยปัจจัยหลักมาจากการเปิดให้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก และการปรับเพิ่มราคาห้องพักที่ปรับปรุงแล้ว

“ด้วยพฤติกรรมของคนสมุทรสาครที่อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ ดังนั้น เมื่อเข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลก็จะจองห้องพิเศษ ทำให้ห้อง วี.ไอ.พี.เต็มตลอดโดยเฉพาะช่วงเดือนพฤษภาคม-กันยายนนี้ ซึ่งเฉลี่ยทั้งปีห้องพักของโรงพยาบาลเอกชัยจะถูกจองเต็มถึง 7 เดือน ดังนั้น จึงต้องปรับปรุงห้องพักใหม่เพื่อรองรับดีมานด์ที่สูงขึ้น”

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด มีรายได้รวม 143.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.25 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยปัจจัยหลักมาจากจำนวนครั้งและการเข้ารับบริการจากทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกเพิ่มสูงขึ้น