“ไทย-เดนมาร์ค” ขยายฐาน โหมตปท.หนีนมไทยไม่โต

ไทย-เดนมาร์คสปีดหาช่องทางขายใหม่ รุกต่างประเทศหนีตลาดนมในไทยไม่โต ผนึกตัวแทนขายภาคใต้บุกมาเลเซียตุลาคมนี้ ฝั่งในประเทศเดินหน้าสร้างการรับรู้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ เตรียมเปิดตัวโฉมใหม่บรรจุภัณฑ์เพิ่มความทันสมัย พร้อมเดินหน้าปูพรมร้านนมในโรงเรียน สร้างโอกาสบริโภคต่อเนื่อง

ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นม ไทย-เดนมาร์คŽ กล่าวว่า อ.ส.ค.มีแผนขยายช่องทางจำหน่ายต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตในกลุ่มธุรกิจนมพาณิชย์ โดยทิศทางจากนี้จะเดินหน้าขยายตลาดในต่างประเทศมากขึ้น ทั้งการเพิ่มช่องทางขายในตลาดเดิมที่มี ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา ผ่านผู้แทนจำหน่ายในแต่ละประเทศ รวมทั้งการเปิดตลาดใหม่ที่คาดว่าจะเริ่มส่งออกนมพร้อมดื่มยูเอชทีไปมาเลเซียได้ในช่วงตุลาคมนี้ผ่านผู้แทนจำหน่ายของ อ.ส.ค.ในภาคใต้ ซึ่งขณะนี้รอตรวจประเมินโรงงานที่สุโขทัยในเรื่องของฮาลาลจากรัฐบาลมาเลเซีย

“ตลาดผลิตภัณฑ์นมโดยรวมในไทยปีนี้คาดว่าจะไม่เติบโต จากปัจจัยของเศรษฐกิจกำลังซื้อที่ชะลอตัวและการแข่งขันที่รุนแรง เราจึงให้ความสำคัญกับการหาช่องทางขายใหม่ ๆ ในต่างประเทศเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็จะอาศัยจุดแข็งของนมโคไทย-เดนมาร์ค ที่เป็นนมโคแท้ 100% ต่างจากนมพร้อมดื่มยูเอชทีในภูมิภาคนี้ที่ส่วนใหญ่ใช้นมผงนำมาผลิต ซึ่งการเริ่มส่งออกสินค้าไปมาเลเซียที่เป็นตลาดอาหารฮาลาลที่มีศักยภาพสูง จะเป็นโอกาสขยายตลาดไปยังประเทศอื่น ๆ ที่ใกล้เคียงกัน อาทิ สิงคโปร์ บรูไน อินโดนีเซีย รวมทั้งขยายไปยังประเทศมุสลิมอื่น ๆ ในอนาคตŽ”

ดร.ณรงค์ฤทธิ์กล่าวต่อว่า สำหรับตลาดในมาเลเซีย ช่วงปีแรก (ต.ค. 2560-ก.ย. 2561) ตั้งเป้าไว้ 100 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มียอดขายจากต่างประเทศ 1,100 ล้านบาท โดยส่งออกไปกัมพูชาคิดเป็นสัดส่วนกว่า 80% แต่ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 ยอดขายยังน้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบในบางประเทศ เช่น ลาว ที่ออกกฎข้อบังคับเรื่องฉลากใหม่ ซึ่ง อ.ส.ค.กำลังดำเนินการเพิ่มฉลากภาษาลาวบนบรรจุภัณฑ์ตามข้อกำหนด

ควบคู่กับการขยายตลาดในไทยที่ปัจจุบันไทย-เดนมาร์คเป็นผู้นำตลาดนมพร้อมดื่มยูเอชทีด้วยส่วนแบ่งการตลาดเชิงปริมาณกว่า 42% โดยจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าให้มีความหลากหลาย สร้างความแข็งแรงให้กับการขายในแต่ละภูมิภาค เช่น ภาคใต้ ที่โฟกัสเรื่องการขายมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมียอดขายเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่มีฐานที่แข็งแรงในภาคกลางและอีสาน ขณะเดียวกันก็มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตนมพร้อมดื่ม โดยการปรับปรุงโรงงานนมที่มวกเหล็ก สระบุรี และปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ จากปัจจุบันมีสำนักงานและโรงงานผลิต 5 แห่ง ที่เชียงใหม่ สุโขทัย ขอนแก่น สระบุรี ประจวบคีรีขันธ์ รองรับความต้องการในทุกภูมิภาค

เนื่องจากปัจจุบันคนไทยยังดื่มนมน้อย อยู่ที่ 18 ลิตร/คน/ปี อ.ส.ค.จึงพยายามเพิ่มการบริโภคด้วยการมีวาไรตี้ของสินค้า รณรงค์สร้างการรับรู้ สร้างโอกาสการบริโภคให้ต่อเนื่อง โดยใน

ช่วงตุลาคมนี้เตรียมเปิดตัวแพ็กเกจจิ้งใหม่สำหรับกลุ่มนมพร้อมดื่มและนมเปรี้ยวยูเอชทีให้ทันสมัย เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น ตลอดจนการเอดูเคตตลาดเพื่อขยายฐานผู้บริโภค ล่าสุด ได้เปิดร้านนมไทย-เดนมาร์ค มิลค์ ช็อป (THAIDENMARK Milk Shop) ในโรงเรียนที่มงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกมัธยม จ.เชียงใหม่ เป็นร้านนมต้นแบบในโรงเรียนแห่งแรก และเดือนสิงหาคมนี้จะเปิดเพิ่มที่จังหวัดพิษณุโลก

”ปีนี้ (ต.ค.2559-ก.ย.2560) ตั้งเป้ายอดขาย 9,055 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมากว่า 8,000 ล้านบาทŽ ดร.ณรงค์ฤทธิ์กล่าว”