“ชาร์ป” ปิดโรงงานญี่ปุ่น โยกกำลังผลิตสู่จีน-อาเซียน

คอลัมน์ Market Move

หลังจากสามารถกลับมามีกำไรครั้งแรกในรอบ 4 ปีเมื่อปีงบฯ 2560 ที่ผ่านมา “ชาร์ป” หนึ่งในยักษ์เครื่องใช้ไฟฟ้าญี่ปุ่น ภายใต้การนำของฟ็อกซ์คอนน์ บริษัทแม่แห่งใหม่ ยังคงเคลื่อนไหวอย่างคึกคักทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นปรับโครงสร้าง ย้ายฐานการผลิตและเจาะตลาดอเมริกาเหนือ หวังกลับเข้าแข่งขันในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงตลาดภาพและเสียงอีกครั้ง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชาร์ปประกาศยุบฐานการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่ประเทศญี่ปุ่น โดยจะโฟกัสฐานการผลิตในตลาดใหญ่อย่างจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แทน ตามโรดแมปของบริษัทแม่ “ฮอน ไฮ พรีซีชั่น” หรือ “ฟ็อกซ์คอนน์” ยักษ์อิเล็กทรอนิกส์สัญชาติจีน ที่ต้องการให้หน่วยงานของชาร์ปในญี่ปุ่นรับผิดชอบด้านวิจัยพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น ระบบไอโอที (IOT) และสินค้าระดับไฮเอนด์ซึ่งมีมูลค่าสูง ส่วนการผลิตสินค้าจะเป็นหน้าที่ของโรงงานฟ็อกซ์คอนน์ในประเทศต่าง ๆ แทนสินค้าแรกที่มีกำหนดยุติการผลิตภายในปีงบประมาณ 2561 นี้คือแอลอีดีทีวี ซึ่งมีฐานที่จังหวัดโทชิกิและถือเป็นฮับของธุรกิจทีวีชาร์ปมาตั้งแต่ปี 2511 โดยพนังงาน 662 คน จะย้ายไปรับหน้าที่อื่น เช่นเดียวกับฝ่ายวิจัยและพัฒนาสินค้าของโรงงานจังหวัดโทชิกิจะถูกย้ายไปยังโรงงานแห่งอื่นในญี่ปุ่น เหลือแต่ฝ่ายขนส่งและฝ่ายซ่อมบำรุงดำเนินงานตามปกติ

ตามด้วยไลน์ผลิตตู้เย็นของโรงงานในเมืองโอซากา ที่จะปิดภายในปีงบประมาณ 2562 (เม.ย. 62-มี.ค. 63) หลังจากที่ผ่านมาได้ทยอยปิดสายการผลิตสินค้าของโรงงานแห่งนี้ไปหลายรายการตั้งแต่ปี 2543 อาทิ เตาไมโครเวฟ, เครื่องปรับอากาศ จนปัจจุบันไลน์การผลิตตู้เย็นมีการผลิตเพียง 200,000-300,000 เครื่องต่อปีเท่านั้น ทั้งนี้บริษัทยืนยันว่าจะจ้างพนักงานทั้ง 1,600 คนต่อไป

เช่นเดียวกับฝ่ายวิจัยพัฒนาเหลือเพียงโรงงานผลิตทีวีในจังหวัดมิเอะยังคงดำเนินการตามปกติ และกลายเป็นโรงงานทีวีชาร์ปแห่งสุดท้ายในประเทศญี่ปุ่น ส่วนการผลิตทั้งแอลซีดีทีวีและตู้เย็นและจะถูกโอนไปให้กับโรงงานอื่น ๆ ของฟ็อกซ์คอนน์ในประเทศต่าง ๆ อาทิ ประเทศไทย รวมถึงโรงงานใหม่ในรัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีศักยภาพแบบครบวงจรตั้งแต่ผลิตพาแนลและประกอบเป็นเครื่องทีวีในแห่งเดียว

ทั้งนี้ช่วงครึ่งหลังของปี 2561 ชาร์ปกลับมารุกตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงภาพและเสียงเข้มข้นขึ้นอย่างชัดเจน หลังสามารถกลับมามีกำไรเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีเมื่อปีงบฯ 2560 จากฝีมือการบริหารและปรับโครงสร้างอย่างเข้มข้นของ “ไท้ เจิ้ง อู๋” รองประธานกรรมบริการฟ็อกซ์คอนน์ที่ลงมากุมบังเหียนเอง

โดยหลังจากนี้จะโฟกัสตลาดจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นศูนย์กลางของธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน พร้อมเตรียมหวนทำตลาดภาพและเสียงในทวีปอเมริกาเหนือสหรัฐด้วยตนเองอีกครั้ง ด้วยการเดินหน้าเจรจาขอสิทธิ์ทำตลาดทีวีแบรนด์ชาร์ปคืนจาก “ไฮเซนส์” (Hisense) และตั้งโรงงานผลิต-ประกอบทีวีในรัฐวิสคอนซิน รวมถึงวางแผนปั้นตลาดทีวีความละเอียด 8K และเครือข่ายไร้สาย 5 จีในสหรัฐ หลังประสบความสำเร็จในการกลับเข้าสู่ตลาดยุโรปและจับการเติบโตจีนจนยอดขายแอลซีดีทีวีพุ่งเป็น 10 ล้านเครื่องในปีที่ผ่านมา

สำหรับระยะกลางบริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ในต่างประเทศจาก 70% ในปี 2560 เป็นมากกว่า 80% ซึ่งต้องรอดูกันว่าชาร์ปจะสามารถฝ่ามรสุมการแข่งขันของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าและสร้างยอดขายได้ตามเป้าหรือจะถูกซัดจนซวนเซอีกครั้ง