ร้านอาหารแข่งดุ “ไมเนอร์” สปีดสาขาตจว.

ไมเนอร์ กรุ๊ป เร่งเติบโต 3 กลุ่มธุรกิจโรงแรม-จัดจำหน่าย-ร้านอาหาร พร้อมเร่งขยายธุรกิจร้านอาหารรับการแข่งขันเดือด ปั้น 2 แบรนด์ พิซซ่า คอมปะนี-แดรี่ควีนบุก ชี้ใช้ความแข็งแกร่งของแบรนด์มัดใจผู้บริโภค

นายชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ รองประธานเจ้าหน้าที่การเงินส่วนกลางและรองประธานฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมของกลุ่มธุรกิจไมเนอร์ กรุ๊ป มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจาก 3 กลุ่มธุรกิจ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ธุรกิจโรงแรมทั้งในและต่างประเทศ, ไมเนอร์ ไลฟ์สไตล์ ธุรกิจจัดจำหน่าย, ไมเนอร์ฟู้ด ธุรกิจร้านอาหาร

ในขณะที่ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ต้องรับมือกับการแข่งขันอย่างรุนแรงในอุตสาหกรรมร้านอาหาร เนื่องจากบริษัทต้องแข่งขันกับผู้ประกอบการร้านอาหารรายใหม่ ทั้งในและต่างประเทศ จึงต้องเร่งพัฒนาสินค้า รวมถึงรูปแบบร้านใหม่อย่างต่อเนื่อง และมุ่งพัฒนาแบรนด์ให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภค ด้วยการทำการตลาดในรูปแบบต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทยังเร่งขยายธุรกิจ โดยเพิ่มความหลากหลายของประเภทร้านอาหารอย่างครอบคลุม อาทิ พิซซ่า สเต๊ก แฮมเบอร์เกอร์ ไอศกรีม อาหารไทย จีน กาแฟ และเบเกอรี่ เป็นต้น

ทั้งนี้ แบรนด์ซิซซ์เล่อร์ แดรี่ควีน และเดอะคอฟฟี่คลับ ทั้ง 3 แบรนด์นี้สามารถสร้างยอดขายได้ต่อเนื่อง

เริ่มจาก “ซิซซ์เล่อร์” ได้จัดแคมเปญการตลาด จัดทำโปรโมชั่นสลัดบาร์ มะกะโรนีชีส รวมทั้งการปรับปรุงรูปแบบด้วยการจัดวางบาร์สลัดรูปแบบใหม่ ส่งผลให้ร้านอาหารซิซซ์เล่อร์มีกลุ่มผู้บริโภคเพิ่มขึ้น

ในส่วนของ “แดรี่ควีน” และ “เดอะคอฟฟี่ คลับ” ได้สร้างกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายและดึงดูดผู้บริโภค รวมทั้งแบรนด์ “เดอะคอฟฟี่ คลับ” มีการเติบโตขึ้นจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ

โดยทุกกลุ่มธุรกิจร้านอาหารทุกแบรนด์ของไมเนอร์ กรุ๊ป ต้องเร่งพัฒนากลยุทธ์ในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ธุรกิจร้านอาหารในต่างประเทศ อาทิ ประเทศจีน บริษัทต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และมุ่งขยายสาขาของริเวอร์ไซด์ ซึ่งเป็นแบรนด์หลักในกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ โดยคงรูปแบบร้านอาหารต่างชาติของแบรนด์ซิซซ์เล่อร์และไทย เอ็กซ์เพรสเอาไว้

สำหรับแนวทางขยายธุรกิจร้านอาหารในปีนี้ “ไมเนอร์ กรุ๊ป” มุ่งขยายสาขาร้านเดอะพิซซ่า คอมปะนี และแดรี่ควีนทั้งหมด 21 สาขา คาดว่าจะได้เห็นเร็ว ๆ นี้

ปัจจุบัน “ไมเนอร์ กรุ๊ป” มีธุรกิจร้านอาหารถึง 9 แบรนด์ รวมทั้งหมด 2,085 สาขา แบ่งเป็นสาขาในประเทศ 1,357 สาขา และสาขาในต่างประเทศ 728 สาขา

รวมทั้งธุรกิจจัดจำหน่ายและรับจ้างผลิตสินค้า ทั้งแบรนด์แฟชั่นและแบรนด์เครื่องใช้ในบ้านและครัวเรือน สร้างรายได้รวมในไตรมาสแรกของปี 1,130 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2560 ถือว่าเติบโตช้ากว่าเดิม เนื่องจากต้นทุนในการเปิดตัวแบรนด์แฟชั่นใหม่มีอัตราเพิ่มขึ้นสูงซึ่งปัจจุบันกลุ่มธุรกิจจัดจำหน่ายและรับจ้างผลิตสินค้า มีร้านค้าและจุดจำหน่าย 416 ร้าน ภายใต้แบรนด์ต่าง ๆ อาทิ อเนลโล่ บานาน่า รีพับบลิค บอสสินี่ บรูคส์ บราเธอร์ส เป็นต้น

“ที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ สอดคล้องกับเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวในอัตราดีขึ้นกว่าปีก่อน โดยในปี 2560 บริษัทมีรายได้รวม 15,061 ล้านบาท ถือว่าเพิ่มจากปีก่อนที่มียอดขายรวม 13,335 ล้านบาท ซึ่งรายได้ทั้งหมดโตมาจากกลุ่มธุรกิจโรงแรม ธุรกิจจัดจำหน่ายและรับจ้างผลิต และธุรกิจร้านอาหาร เนื่องจากที่ผ่านมาทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจมีการลงทุนขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง”

อย่างไรก็ตาม ในครึ่งปีหลังนี้บริษัทจะเร่งขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์พัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาดเชิงรุกมากขึ้น