‘มาลี’ ผนึกทุนอินโด ชิงเพอร์ซันนอลแคร์ 1.5 แสนล้าน

นายโอภาส โลพันธ์ศรี ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการขายและการตลาด บริษัท มาลี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การขยายฐานธุรกิจใหม่สู่ตลาดเครื่องใช้ส่วนบุคคลในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่และท้าทายของมาลีกรุ๊ป ที่เน้นตลาดอาหารและเครื่องดื่มมาตลอด 40 ปี ซึ่งเป็นการต่อยอดการขยายฐานธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตขององค์กร ผ่านการร่วมทุนกับบริษัท พีที คีโน่ อินโดนีเซีย (PT Kino Indonesia Tbk) ที่มีจุดแข็งด้านสินค้าอุปโภคบริโภคที่อินโดนีเซียในตลาดเครื่องใช้ส่วนบุคคล อาหารและเครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยา จัดตั้งบริษัท มาลี คีโน่ ประเทศไทย จำกัด เพื่อผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั้ง 2 ประเทศด้วยกำลังซื้อรวมกว่า 330 ล้านคน ตามกลยุทธ์การขยายตลาดด้วยการจับมือกับบริษัทพาร์ตเนอร์ชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เพื่อพัฒนาสินค้าใหม่ รวมถึงช่องทางขายและการจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคลมีมูลค่าตลาด 154,000 ล้านบาท (ข้อมูลจาก ยูโรมอนิเตอร์ ณ เดือน มีนาคม 2018) โดยทั้ง 3 ตลาดที่มาลี คีโน่ เลือกนำมาเปิดตลาดถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคตามเทรนด์การดูแลตัวเอง ประกอบด้วย 1) ผลิตภัณฑ์บำรุงและทำความสะอาดผิวหน้า  2) ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม  และ 3) ผลิตภัณฑ์สำหรับช่องปากและฟัน ด้วยมูลค่าทางการตลาดที่ 70,000 ล้านบาท 29,000 ล้านบาท และ 8,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโต 6.1% 6.3% และ 7.2% ตามลำดับ

โดยสินค้าที่บริษัทนำเข้ามาในช่วงแรก ได้แก่ กลุ่มบำรุงและทำความสะอาดผิว โอแวล ไมเซล่า คลีนซิ่ง วอเตอร์ กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม เอลิปส์ แฮร์ วิตามิน โปร เคราติน คอมเพล็กซ์, เอลิปส์ แฮร์ มาส์ก โปร เคราติน คอมเพล็กซ์ และเอลิปส์ ดราย แชมพู กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับช่องปากและฟัน ยาสีฟันสมุนไพรซาซ่า โดยจะวางขายในช่องทาง อาทิ EVEANDBOY, Beautrium, Hej Street Beauty และมีแผนจะเพิ่มช่องทางไปยังห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อชั้นนำต่างๆ ในอนาคต

“เรามั่นใจว่าการขยายฐานธุรกิจสู่ตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคล ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ทั้งผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ใช้ง่าย เช่น วิตามินบำรุงแบบไม่ต้องล้างออก สเปรย์สระผมชนิดแห้งที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในผมสวยได้ทุกเวลา  ผลิตภัณฑ์ที่ทำความสะอาดผิวหน้า ริมฝีปาก และรอบดวงตาได้ครบในขวดเดียว และยาสีฟันที่มีส่วนผสมจากสมุนไพรสิวากที่ได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนาน รวมทั้งการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าที่ครอบคลุมทั่วประเทศจากบริษัท ซีพี คอนซูเมอร์โพรดักส์ จำกัด จะทำให้ผลิตภัณฑ์ของเราได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภคชาวไทย และเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดได้อย่างแน่นอน” นายโอภาสกล่าวทิ้งท้าย