เซ็นทรัล-เดอะมอลล์แท็กทีม ดึงโกลบอลบลู ลุย”แวตรีฟันด์”

แฟ้มภาพ

ยักษ์ค้าปลีกแท็กทีมเร่งผลักดัน “แวตรีฟันด์ดาวน์ทาวน์” สยามพิวรรธน์-เดอะมอลล์-เซ็นทรัล-โรบินสัน หัวหอกบุกหนักเล็งดึง Global Blue มืออาชีพระดับโลกเข้ามาบริหารให้บริการระบบคืนภาษี เดินหน้าสู่ช็อปปิ้งเดสติเนชั่น พร้อมจับตา TOR “ดิวตี้ฟรี” จี้ให้เปิดเสรี ชี้การแข่งขันเพิ่มรายได้ค่าสัมปทานจาก 15% ขยับพุ่ง 30-40% 

นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทยคนใหม่ กล่าวถึงทิศทางการทำงานว่า จะเร่งสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการค้าปลีกทั้งรายเล็กและรายใหญ่ให้เติบโตไปพร้อมกัน เพื่อผลักดันให้ไทยสู่การเป็นสวรรค์แห่งการช็อปปิ้ง (Thailand Shopping Paradise) ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้นและสร้างรายได้ให้ประเทศมหาศาล แต่การเติบโตของอุตสาหกรรมค้าปลีกยังโตเฉลี่ยต่ำสุดเมื่อเทียบกับอาเซียนด้วยกัน

ทั้งนี้ แม้เมืองไทยมีร้านค้าในลักษณะ VAT free แต่ไม่เต็มรูปแบบ เพราะถูกกำหนดให้เป็นร้านค้า VAT refund for tourist ซึ่งต้องนำเอกสารไปขอคืนภาษีที่สนามบิน แต่ถ้านักท่องเที่ยวสามารถขอคืนแวตได้ที่จุดขายทันทีจะเพิ่มระบบหมุนเวียนในเศรษฐกิจหลายรอบและเพิ่มการจับจ่าย โดยจะผลักดันการเปิดดาวน์ทาวน์แวตรีฟันด์ มีจุดส่งมอบสินค้า และสัมปทานดิวตี้ฟรีที่โปร่งใส

“การเร่งผลักดันแวตรีฟันด์ดาวน์ทาวน์ ตอนนี้ค้าปลีก 4 ราย คือ สยามพิวรรธน์ เดอะมอลล์ เซ็นทรัล และโรบินสัน ร่วมใจผลักดันในฐานะมืออาชีพเป็น Global Blue ให้บริการคืนภาษี เข้ามาบริหารจัดการในระบบ เพราะเป็นเทิร์ดปาร์ตี้และเป็นที่ยอมรับทั่วโลก”

สิ่งสำคัญคือ การให้ระบบสัมปทานดิวตี้ฟรี ที่บมจ. ท่าอากาศยานไทย ใช้รูปแบบสัมปทานรายเดียว ซึ่งผูกขาดและไม่ก่อให้เกิดการแข่งขันเอกชนจึงเสนอให้เปลี่ยนจากระบบสัมปทานรายเดียว (master concession) มาใช้ระบบสัมปทานตามหมวดหมู่สินค้า (concession by category)และเสนอให้กำหนดระยะเวลาสัมปทาน 5-7 ปี และไม่ต่ออายุสัมปทานซึ่งจะช่วยป้องกันการผูกขาดปัจจุบันเมืองไทยให้สัมปทานนานถึง 10 ปี และขยายระยะเวลาได้อีกโดยไม่มีการเปิดประมูล

“คงมีเมืองไทยที่เดียวในโลกที่เอกชนเรียกร้องให้ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมสัมปทาน เพราะค่าธรรมเนียมสัมปทานดิวตี้ฟรีเมืองไทย 15-19% น้อยมากเมื่อเทียบกับสนามบินทั่วโลกที่เฉลี่ยค่าสัมปทาน 30-40% เพราะเราเป็นระบบผูกขาด ถ้าเปิดเสรี จะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น”