“ไทยเบฟ” ร่วมทุนจีน บุกตลาดใหญ่…เหล้า เบียร์

แฟ้มภาพ

คอลัมน์ จับกระแสตลาด

การขยายตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องของเศรษฐกิจจีน โดยภายในครึ่งปีแรกการเติบโตจีดีพีของจีนมีมูลค่าราว 6.28 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้นักลงทุนหลายภาคส่วนต่างพุ่งเป้ามายังตลาดนี้เพื่อเกาะกระแสการเติบโตดังกล่าวไปด้วย

ปัจจัยที่ขับเคลื่อนจีดีพีของจีนกว่า 78% มาจากการบริโภคในประเทศ นั่นหมายความว่ากำลังซื้อของคนจีนมีพลังสำคัญมากในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลอดจนยอดขายของสินค้าหรือบริการที่สามารถเข้าไปตอบโจทย์ความต้องการเหล่านั้นได้

“ไทยเบฟ” บริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ในไทยก็เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่มีเป้าหมายในการขยายอาณาจักรให้ครอบคลุมเอเชียด้วยเช่นกัน ซึ่งรวมไปถึงตลาดเหล้า-เบียร์ จีนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า บริษัทได้เข้าไปลงทุนในสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยการให้บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เบฟเวอเรจ โฮลดิ้ง (ไชน่า) จำกัด (IBHC) จับมือกับบริษัท เอเชียยูโร ไวน์ส แอนด์ สปิริตส์ (เซินเจิ้น) จำกัด ตั้งบริษัทร่วมทุน “เอเชียยูโร อินเตอร์เนชั่นแนล เบฟเวอเรจ (กวางตุ้ง) จำกัด (AIB)” ด้วยทุนจดทะเบียน 50.2 ล้านหยวน โดย IBHC ถือหุ้น 51%

โดยบริษัทร่วมทุนดังกล่าวจะดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง แต่จะโฟกัสที่กลุ่มไวน์นำเข้าพรีเมี่ยมและสปิริตเป็นหลัก ซึ่งรวมไปถึงกลุ่มแอลกอฮอล์ภายใต้พอร์ตโฟลิโอของไทยเบฟกรุ๊ป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไทยเบฟมีกลุ่มธุรกิจเหล้า-เบียร์ที่ทำตลาดในต่างประเทศ ภายใต้แบรนด์โอล์ด พลุทนีย์, anCnoc, Balblair, Speyburn, Hankey Bannister, Catto”s, MacArthur”s, Kulov, Coldstream, Caorunn รวมถึงแบรนด์จีน อาทิ Yuanjiang, Yu Lin Quan, Longevity, Ningbo Pagoda ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้จากการเข้าซื้อกิจการของโรงกลั่นเหล้าในจีน “ยูนนาน อวี้หลิงฉวน ลิเคอร์ จำกัด” เมื่อปี 2553 ที่ผ่านมา

ปรากฏการณ์การจับมือกับพันธมิตร “เอเชียยูโร กรุ๊ป” ซึ่งเป็นดิสทริบิวเตอร์รายใหญ่ที่มีเครือข่ายอยู่ในสิงคโปร์ มาเลเซีย และจีน จึงตอกย้ำเป้าหมายที่ต้องการบุกตลาดแอลกอฮอล์ในจีนที่มีกำลังซื้อมหาศาล และมีศักยภาพสูง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานถึงผลสำรวจการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของจีนว่ามีสัดส่วน 32.8% ของตลาดรวมทั่วโลก หรือ 52.3% ของตลาดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (ปี 2559) และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 46.9% และ 66.2% ตามลำดับ ภายในปี 2564 นี้ โดยอัตราการเติบโตของการบริโภคย้อนหลัง 5 ปี พบว่ามีการเติบโตเฉลี่ยปีละ 15% ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของจีดีพีในภาพรวมของจีน

นอกจากนี้ เมื่อมองในภาพรวมของกลุ่มไทยเบฟจะเห็นว่าในช่วง 1-2 ปี มีการโยกเม็ดเงินและการลงทุนไปในต่างประเทศมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับกับเป้าหมายของบริษัทที่ “ฐาปน สิริวัฒนภักดี” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด ระบุเอาไว้ว่าต้องการให้ไทยเบฟเป็นผู้นำเครื่องดื่มครบวงจรเอเชียภายในปี 2563

โดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV ไม่ว่าจะเป็นการเข้าซื้อแกรนด์รอยัล กรุ๊ป ผู้ผลิตวิสกี้รายใหญ่ของเมียนมา ไซ่ง่อนเบียร์ หรือซาเบโก้ เบียร์เบอร์ 1 ในเวียดนาม อีก 2 ปีก่อนถึงไทม์ไลน์ที่หัวเรือใหญ่ไทยเบฟได้กำหนดเอาไว้ เชื่อว่ายังมีดีลใหม่ ๆ ที่จะสร้างเสียงเซอร์ไพรส์อยู่เรื่อย ๆ แน่นอน