ตลาดร้านอาหารจานด่วนแข่งดุ จำนวนร้านเพิ่ม พฤติกรรมคนเปลี่ยน เน้นสะดวกมากขึ้น เอแอนด์ดับบลิว ปรับกลยุทธ์ ผุดโมเดล “เอ็กซ์เพรส” เน้นเสิร์ฟด่วน มัดใจคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบ พร้อมเดินหน้าจับมือกับทุกพันธมิตรทั้งปั๊มน้ำมัน คอมมิวนิตี้มอลล์ รถใต้ดิน ตั้งเป้าเปิด 100 สาขาในปี’63 หวังสร้างการเติบโตต่อเนื่อง
นายธวัช วรรธนพิเชษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นพีพี ฟู๊ด อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้บริหารร้านอาหารจานด่วน ภายใต้แบรนด์ “เอแอนด์ดับบลิว” (A&W) กล่าวว่า ภาพรวมการแข่งขันของร้านอาหารจานด่วนยังคงดุเดือดขึ้นต่อเนื่อง จากจำนวนร้านที่เพิ่มขึ้นและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนเร็ว ต้องการความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น แตกต่างจากเดิมที่ใช้เวลาทานอาหารค่อนข้างนาน
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทแห่ขายเดือน เม.ย.นี้ จ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 7.40%
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
ดังนั้นบริษัทจึงต้องปรับกลยุทธ์ รูปแบบการบริการ รวมถึงโมเดลร้านให้ตรงความต้องการผู้บริโภครุ่นใหม่มากขึ้น ล่าสุดเปิดตัวร้านรูปแบบใหม่ “A&W express” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Grab & Go” มุ่งให้บริการสำหรับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน เริ่มเปิดสาขาทดลอง 6 แห่ง แบ่งเป็นศูนย์การค้า 3 สาขา พื้นที่ค้าปลีกรถไฟฟ้าใต้ดิน “เมโทรมอลล์” 3 สาขา ได้แก่ สุขุมวิท พระราม 9 เพชรบุรี และต้นปี 2562 จะเปิดสาขาที่ 4 ที่สถานีสวนจตุจักร ซึ่งโมเดลนี้จะเน้นขายอาหารชุด และมีพื้นที่นั่งรับประทานอาหารแค่ 15 ที่นั่ง เพื่อตอบไลฟ์สไตล์ผู้บริโภครุ่นใหม่ที่เร่งรีบ
สำหรับภาพรวมธุรกิจของ A&W ยังเติบโตต่อเนื่อง จากกลุ่มสินค้าที่ให้บริการได้หลากหลาย รวมทั้งโปรโมชั่น รูปแบบร้านที่มีความโดดเด่น และการตลาดที่เจาะกลุ่มผู้บริโภคตามสถานที่ต่าง ๆ ให้เข้าถึงได้ง่าย โดยทิศทางการขยายสาขาจากนี้ไป จะเน้นเปิดสาขาในพื้นที่มีศักยภาพ มีการจับมือกับพันธมิตรในทุก ๆ รูปแบบ ทั้งสถานีบริการน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า และคอมมิวนิตี้มอลล์ต่าง ๆ ที่มีแนวคิดตรงกัน เพื่อเร่งขยายธุรกิจต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ ยังสนใจที่จะเข้าซื้อกิจการธุรกิจเกี่ยวเนื่องอาหารและเครื่องดื่มอย่างต่อเนื่อง อยู่ระหว่างเจรจา 2-3 ราย คาดจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนต้นปี 2562
“เชื่อมั่นว่ากลยุทธ์พัฒนาสินค้าและการให้บริการของ A&W ในปีนี้ และจุดเด่นเรื่องทำเลที่อยู่ในบริเวณสัญจรของผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า จะสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่ได้ โดยตั้งเป้าหมายว่าสิ้นปีนี้จะมี 45 สาขา จากปัจจุบัน 37 สาขา และปี’63 จะเปิดให้ครบ 100 สาขา”