การตลาด

ใครไม่วุ้น… “โค้ก” วุ้น รัวหมัดเด็ด ชิงน้ำดำโค้งท้าย

คอลัมน์ จับกระแสตลาด

ที่ผ่านมาตลาดเครื่องดื่มภาพรวม เติบโตไม่ค่อยจะสู้ดีนัก สาเหตุหลักมาจากเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ไม่เป็นใจ เช่นเดียวกับน้ำอัดลม ที่มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 5 หมื่นล้านบาท “ติดลบ” ถึง 2.4% (ข้อมูลจากนีลเส็น 1 มิ.ย. 2560-31 พ.ค. 2561)

แต่ทุกค่ายก็ยังต้องการเติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้ และวาดหวังว่าช่วงโค้งท้ายที่ยังเหลืออยู่จะสามารถตีตื้นยอดขายมาได้บ้าง ก่อนจะเข้าสู่ช่วงหน้าขายสำคัญ หลาย ๆ ค่ายเริ่มมีความเคลื่อนไหวทางการตลาดออกมาเพื่อปลุกตลาดอย่างมีนัยสำคัญ

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ล่าสุดเจ้าตลาดน้ำดำ “โคคา-โคลา” ได้ขยับตัวครั้งใหญ่ ด้วยการนำเครื่อง “Arctic Coke” หรือตู้ทำโค้กวุ้น มาเริ่มติดตั้งในร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น 3 สาขา ได้แก่ ระเบียงจามจุรี, อาคารยูไนเต็ด เซ็นเตอร์, และสยามกิตติ์ ทำให้มีผู้ถ่ายคลิปลงในช่องทางโซเชียล เกิดกระแสการบอกต่อ และต้องการไปทดลองจำนวนมาก

จากการสอบถามไปยังบริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย โค้ก แฟนต้า สไปรท์ ฯลฯ พบว่า ได้ทดลองติดตั้งตู้อาร์กติกโค้ก เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีแผนจะวางจำหน่ายจนถึง 19 กุมภาพันธ์ 2562 เริ่มต้นในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นใจกลางเมือง 3 สาขา ก่อนที่จะขยายเพิ่มอีก 15 สาขาในเร็ว ๆ นี้

ทั้งนี้ ตู้ดังกล่าวเป็นตู้แช่ที่โค้กติดตั้งแยกออกมาต่างหากจากเชลฟ์เครื่องดื่มปกติ และมีแท่นสำหรับวางเครื่องดื่มเพื่อเขย่าให้เกิดปฏิกิริยากลายเป็นวุ้นอยู่ด้านข้าง โดยจะรองรับเฉพาะขวดแบบพีอีทีเท่านั้น ไม่รองรับขวดแก้ว เพราะอาจทำให้ขวดแตกได้

รายงานจากโคคา-โคลาระบุว่า หลักการทำงานของตู้ดังกล่าว คือ การแช่เครื่องดื่มไว้ในตู้แช่ที่อุณหภูมิจุดเยือกแข็ง (-7 ถึง -8 องศาเซลเซียส) จนได้เวลาที่เหมาะสม จากนั้นนำขวดมาพลิกขึ้นลง 1-2 ครั้ง แล้วนำมาวางไว้บนแท่นด้านนอก ที่จะใช้แรงสั่นสะเทือนจากคลื่นเพื่อเปลี่ยนน้ำในขวดให้กลายเป็นวุ้นภายในเวลาไม่กี่วินาที เป็นการสร้างสีสันให้กับตลาดและสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับคอน้ำอัดลมได้เป็นอย่างดี ตอกย้ำและสร้างการรับรู้แบรนด์ “โค้ก” ให้อยู่ในใจผู้บริโภคอีกทางหนึ่ง

นวัตกรรมใหม่นี้ “โค้ก” ได้เริ่มติดตั้งและให้บริการครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา โดยทดลองในร้านสะดวกซื้อกว่า 800 แห่ง เมื่อต้นปีที่ผ่านมา จากนั้นก็ได้นำมาทำตลาดในไทย ซึ่งถือเป็นประเทศแรกในโลกนอกอเมริกาที่นำเอาตู้ดังกล่าวมาให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ และจากนั้นในเร็ว ๆ นี้ ก็จะนำไปสร้างสีสันให้กับตลาดเวียดนาม และฮ่องกง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากความเคลื่อนไหวดังกล่าว โคคา-โคลายังได้ทดลองเปลี่ยนเครื่องกดเครื่องดื่ม (post-mix) ในเซเว่นฯบางสาขา มาเป็นระบบใหม่ที่ใช้จอสัมผัส โดยผู้บริโภคสามารถเลือกกดเครื่องดื่มได้ตามใจชอบ อาทิ โค้ก โค้กซีโร่ แฟนต้ารสสตรอว์เบอรี่ แฟนต้ารสส้ม และสไปรท์ ตลอดจนมีเมนูแนะนำ (staff”s choices) และเมนูยอดนิยม (popular choices) ซึ่งจะมีรสชาติ เช่น โค้กสตรอว์เบอรี่ และโค้กส้ม ซึ่งเป็นการผสมกันระหว่างโค้กกับแฟนต้าทั้ง 2 รสชาติ ในสัดส่วนที่เหมาะสม

นอกจากนี้ โค้กยังเดินหน้ากระตุ้นการรับรู้เครื่องดื่ม “โค้ก พลัส คอฟฟี่” หรือโค้กผสมกาแฟ ที่ได้เปิดตัวไปในช่วงเดือนพฤษภาคมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์โฆษณา สื่อ ณ จุดขาย ในร้านค้า การเปิดพ็อปอัพแนะนำสินค้าในย่านใจกลางเมือง เช่น สีลม การเข้าไปเป็นสปอนเซอร์รายการวาไรตี้ทอล์กโชว์ ในทีวีดิจิทัล การทำกิจกรรมในช่องทางเฟซบุ๊กชิงรางวัล รวมไปถึงการออกแพ็กไซซ์ขนาดเล็กราคา 10 บาท เพิ่มจากขนาดปกติราคา 15 บาท เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลอง และเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

ด้านความเคลื่อนไหวของ “เป๊ปซี่” คู่แข่งรายลำคัญ ล่าสุดก็เริ่มนำเครื่องดื่ม “เป๊ปซี่ แม็กซ์ เทสต์” น้ำตาล 0% มาเพิ่มน้ำหนักการทำตลาดอีกครั้ง โฆษณาทั้งในช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ พร้อมกับปรับแพ็กเกจจิ้งของเป๊ปซี่ บิ๊กแคน ขนาด 375 มล. ให้มีความชัดเจนมากขึ้น ตลอดจนการทำโปรโมชั่นร่วมกับพาร์ตเนอร์ บาร์บีคิวพลาซ่า นำชิ้นส่วนสติ๊กเกอร์บนเป๊ปซี่แบบกระป๋อง แพ็ก 6 แลกรับเป๊ปซี่ 1 เหยือก ในร้านได้ฟรี เมื่อสั่งชุดครอบครัวหมู/เนื้อ/รวมมิตร ระยะเวลา 1 กันยายน-31 ตุลาคมนี้

นี่เป็นเพียงยกแรกของหน้าขายปลายปี ยก 2 ยก 3 น้ำดำในช่วงโค้งท้ายจะดุเดือดแค่ไหน คงต้องติดตาม