คอลัมน์ MARKET THINK
โดย สรกล อดุลยานนท์
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
วันก่อนอ่านข่าว “ย้ง” ทรงยศ สุขมากอนันต์ ผู้กำกับละคร “เลือดข้น คนจาง” ทางช่องวันออกมาโอดครวญว่า กระแสละครดีมาก
แต่เรตติ้งไม่แรงเหมือนกระแสอ้อนวอนให้คนไปดูสด ๆ ทางทีวี อย่าดูย้อนหลังทางยูทูบเลย
หลังจากนั้นเรตติ้งก็ขยับสูงขึ้น
แต่ก็ยังน้อยกว่า “กระแส”
เพราะกระแส “ใครฆ่าประเสริฐ” นั้นแรงจริง ๆ
ต้องยอมรับว่า “บอย” ถกลเกียรติ วีรวรรณ ตอนนี้กำลังเข้าฟอร์ม
จากละครเรื่อง “เมีย# 2018” ที่ฮิตติดลมบน
มาต่อด้วย “เลือดข้นคนจาง”
ถ้ารักษาระดับไว้ได้ ปีนี้ช่องวัน
จะเป็นช่องที่น่ากลัวมากช่องหนึ่ง
ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ กลยุทธ์การสร้างกระแสในโซเชียลมีเดียของละครเรื่องนี้
ประเด็นเรื่อง “ใครฆ่าประเสริฐ” ขยายวงไปอย่างกว้างขวาง
ระดับที่คนชื่อ “ประเสริฐ” เริ่มได้รับผลกระทบ
เพราะต้องบอกเพื่อน ๆ ตลอดเวลา
“กูยังไม่ตาย”
“ประเสริฐ” เป็นตัวละครตัวหนึ่ง
ที่ถูกฆาตกรรมอย่างลึกลับ
ทุกคนในวงศ์ตระกูลล้วนน่าสงสัย
ประเด็นที่น่าสนใจพอถูกหย่อนลงไปในโซเชียลมีเดียปั๊บ
เหมือนหย่อนก้อนหินลงไปในน้ำ
เกิดกระแสคลื่นขึ้นมาทันที
เริ่มมีการวิเคราะห์ว่าใครเป็น “ฆาตกร”
ทุกคนทำตัวเป็นนักสืบ
วิเคราะห์กันอย่างจริงจัง
ใครน่าสงสัยตรงไหน เพราะอะไร
นักจิตวิทยา นายแพทย์ก็ลงมาเล่นด้วย
ยิ่งลงมามากเท่าไร ละครก็ได้ประโยชน์มากเท่านั้น
หรือวันก่อนเห็นภาพในเฟซบุ๊ก
เป็นการถ่ายภาพหมู่ของงานเลี้ยงรุ่นที่เปลี่ยนไปจากเดิมที่ยืนถ่ายกันตามปกติ
เปลี่ยนมาเป็นจัดภาพตามโปสเตอร์ละคร “เลือดข้นคนจาง”
มีผู้ใหญ่นั่งกลางเหมือน “นพพล โกมารชุน-ภัทราวดี มีชูธน”
คนอื่น ๆ ก็นั่งและยืนเลียนแบบภาพโปสเตอร์
มันไปไกลได้ถึงขนาดนี้
ในช่วงเวลาเดียวกัน ค่ายจีทีเอช ก็เปิดตัวหนังเรื่องใหม่ HOMESTAY
“เฌอปรางค์” BNK 48 เล่นหนังเป็นเรื่องแรก
เป็นหนังทริลเลอร์-แฟนตาซีครับ
เป็นเรื่องของวิญญานเร่ร่อนที่ต้องมาสิงร่างพระเอกเป็นเวลา 100 วัน เพื่อค้นหาคำตอบให้ได้ว่า ใครฆ่าพระเอก
โชคดีที่พระเอกไม่ได้ชื่อ “ประเสริฐ”
ไม่งั้นกระแสโซเชียลมีเดียคงจะวุ่นวายมากกว่านี้
“เฌอปรางค์” อาจต้องไปพัวพัน “คัทลียา แมคอินทอช”
แค่คิดก็สนุกแล้ว
ผมชอบกลยุทธ์โฆษณาหนังเรื่องนี้ของจีทีเอชมาก
เขานำเรื่อง “ไสยศาสตร์” ไปใช้กับเรื่อง “วิทยาศาสตร์”
เอาเรื่องการสิงร่างในหนังไปใช้กับเพจต่าง ๆ
ขอเข้าไปสิงเป็นแอดมินเพจนั้นชั่วคราว
ใช้ภาษาแบบผีในเรื่อง
สร้างกระแสในโลกโซเชียลมีเดียด้วยกลยุทธ์ที่แปลกใหม่
เป็น “กลยุทธ์” ที่บอกตัวสินค้าได้อย่างกลมกลืน
เพราะอิงกับประเด็นของหนัง คือ เรื่องการสิงร่าง
ถือว่าเป็นการเปิดตัวหนังได้ดีทีเดียว
และที่น่าสนใจก็คือ “เลือดข้นคนจาง”
เป็นละครของค่ายนาดาว
ในขณะที่ “HOMESTAY” เป็นหนังของ “จีทีเอช” บริษัทแม่ของ “นาดาว”
ทั้ง 2 เรื่องใช้กลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดียเป็นหลัก
ซึ่งประสบความสำเร็จมาก
ตอนนี้เหลือแต่เพียงจะแปร “กระแส” ให้เป็น “เรตติ้ง”
และ “รายได้” ได้หรือไม่
…เท่านั้นเอง