“สินแพทย์” เปิด 12 บิ๊กโปรเจ็กต์ จับมือทุนท้องถิ่นลุยธุรกิจรพ.หัวเมืองใหญ่

“สินแพทย์” เปิดแผนลุยธุรกิจโรงพยาบาล เดินหน้าเปิด 12 โปรเจ็กต์ใหญ่ สยายปีกบุกทั้งในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล เผยปี”62 ได้ฤกษ์เปิดอีก 2 สาขา “ลำลูกกา-บางนา” ก่อนข้ามฝั่งไปยึดทำเลทอง “นางลิ้นจี่-นนทบุรี” ลงทุนเพิ่ม ดันรามอินทราเป็นเมดิคอลคอมเพล็กซ์ พร้อมผนึกกำลังทุนท้องถิ่นลุยหัวเมืองต่างจังหวัด ล่าสุดเตรียมปักธง “อุบลราชธานี-ระยอง-นครสวรรค์” พร้อมดึงคนรุ่นใหม่เสริมทีม เร่งสร้างการเติบโตอนาคต

เป็นโรงพยาบาลขนาดกลางที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับ “สินแพทย์” ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีจุดเริ่มต้นจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ก่อนจะค่อย ๆ ดึงพันธมิตรเข้ามาเสริมทัพ ทั้ง รพ.รามคำแหง และวิภาวดี เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในหลาย ๆ ด้าน ทั้งความรู้ ประสบการณ์ บุคลากร เทคโนโลยี รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี ล่าสุด สินแพทย์ เจ้าตลาดโรงพยาบาลย่านรามอินทรา มีความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ ด้วยการประกาศแผนลงทุนครั้งสำคัญในรอบ 26 ปี

ย้ำเบอร์ 1 ย่านรามอินทรา

นายสิทธิ ภานุพัฒนพงศ์ ประธาน บริษัท สินแพทย์ จำกัด ผู้บริหารโรงพยาบาลสินแพทย์ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงภาพรวมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ (healthcare) ว่า ตลาดมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี สะท้อนจากรายได้ของกลุ่มโรงพยาบาลที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ที่มีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง หรือเฉลี่ย 9.65% และคาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดปีนี้จะโต 10% จากปีก่อน ขณะที่กลุ่มสินแพทย์ ซึ่งเจาะกลุ่มผู้ใช้บริการระดับกลาง ยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง หรือมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 10-15% ทุก ๆ ปี

“ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนมีการแข่งขันสูง และแข่งกันในทุก ๆ มิติ ทั้งเรื่องบริการ เทคโนโลยี รวมถึงการขยายตัวออกไปยังจังหวัดใหญ่ ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่กลายเป็นพื้นที่ที่กลุ่มธุรกิจเฮลท์แคร์ รวมถึงโรงพยาบาลกำลังให้ความสนใจ เพราะเป็นโอกาสที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”นายสิทธิกล่าวด้วยว่า

ตอนนี้กลุ่มสินแพทย์ค่อนข้างแข็งแรง เพราะมีประสบการณ์ มีบุคลากร เทคโนโลยีพร้อมแล้ว อีกทั้งยังเป็นเบอร์ 1 ย่านรามอินทรา โดยมี 2 แบรนด์ในเครือที่ทำตลาดในย่านนี้ คือ สินแพทย์ รามอินทรา และโรงพยาบาลเสรีรักษ์ มีนบุรี ที่อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นไฟติ้งแบรนด์ และเจาะกลุ่มประกันสังคม โดยทั้ง 2 โรงนี้มีส่วนแบ่งตลาดกว่า 50% ของตลาดรวมธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนย่านรามอินทรา ที่มีมูลค่า 7,000 ล้านบาทเพื่อตอกย้ำจุดแข็งของการเป็นผู้นำตลาดย่านรามอินทรา สินแพทย์จะเดินหน้ายกระดับบริการ ด้วยการทุ่มงบฯลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท เปิด “เมดิคอลคอมเพล็กซ์” โดยจะเปิดคลินิกเฉพาะทางมากขึ้น ล่าสุดเพิ่งเปิดคลินิกอายุวัฒนะ พร้อมเตรียมขยายเพิ่มอีก 6 อาคาร จากปัจจุบันมี 4 อาคาร หากแล้วเสร็จจะมีพื้นที่ให้บริการเพิ่มเป็น 1 แสนตารางเมตร หรือเป็น รพ.ขนาด 580-600 เตียง จากปัจจุบันมี 387 เตียง ขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ปี 2562

“นอกจากนี้ที่ผ่านมา สินแพทย์เข้าไปร่วมลงทุนกับกลุ่ม รพ.รามคำแหง และวิภาวดี สร้าง รพ.วิภาราม พัฒนาการ เจาะกลุ่มประกันสังคม และขยายต่อที่อมตะนคร ซึ่งพันธมิตรทั้ง 2 โรงเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ การขยับขยายอาจจะไม่คล่องตัว ขณะที่ธุรกิจโรงพยาบาลโตเร็ว ด้วยโอกาสที่เกิดขึ้น สินแพทย์จึงหัวหอกในการรุกขยายธุรกิจ เนื่องจากไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้ทุกอย่างคล่องตัว ส่วนสินแพทย์ เทพารักษ์ (สมุทรปราการ) แม้เพิ่งเปิดได้ปีเศษ ๆ ก็ได้รับการตอบรับที่ดี มีคนไข้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มคนไข้ประกันสุขภาพ”

ลงทุนผุด 12 โปรเจ็กต์ใหญ่

นายสิทธิกล่าวถึงทิศทางของกลุ่มสินแพทย์จากนี้ไปว่า แบ่งเป็น 2 สเต็ปใหญ่ รวมทั้งหมด 12 โปรเจ็กต์ คาดว่าแต่ละโปรเจ็กต์จะใช้เงินลงทุนประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท เริ่มจากการขยายโรงพยาบาลในกรุงเทพฯและปริมณฑลเพิ่มขึ้น โดยปี 2562 เตรียมเปิด 2 โรง ได้แก่ โรงพยาบาลธัญญาเวช (ลำลูกกา) 211 เตียง และสินแพทย์ บางนา ขนาด 264 เตียง บนพื้นที่ 10 ไร่ ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 เขตประเวศ รวมถึงมีโรงพยาบาลสินแพทย์ นครปฐม (บริษัท ปฐมเวช จำกัด) ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดได้ในปี 2563 นอกจากนี้ยังมีสาขาใหม่ที่ถนนนางลิ้นจี่ โดยได้พันธมิตรเป็นเจ้าของที่ดินมาร่วมพัฒนาโรงพยาบาล ล่าสุดเริ่มตอกเสาเข็มแล้ว

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายโครงการอยู่ระหว่างขออีไอเอ และจะมี 2 โปรเจ็กต์ใหญ่ที่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ คือ บนถนนกาญจนาภิเษก หน้าวัดศรีประวัติ นนทบุรี เพื่อรองรับเมืองที่ขยายตัวและมีประชากรหนาแน่น คาดว่าถ้าปีนี้ผ่านอีไอเอ ก็จะเริ่มก่อสร้างได้ปี 2562 อีกโปรเจ็กต์คือ ที่ดิน 10 ไร่ บนถนนบรมราชชนนี (อาคารวัฏจักรเดิม) มีแผนจะสร้างเป็น “เมดิคอลคอมเพล็กซ์” ด้านกรุงเทพฯตะวันตก

ผนึกทุนท้องถิ่นขยายต่างจังหวัด

นายสิทธิยังให้ข้อมูลด้วยว่า สเต็ปที่ 2 คือ เจาะเข้าไปหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด ลักษณะการร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่น โดยเริ่มที่แรกที่อุบลราชธานี อยู่ระหว่างออกแบบโครงการ โดยอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปีจากนี้ไป ตามด้วยนครสวรรค์ ซึ่งได้ที่ดินกลางเมืองมาแล้ว

ส่วนระยอง อยู่ระหว่างขออีไอเอ โดยจะแบ่ง 2 เฟส คือ เฟสแรก 200 เตียง ส่วนเฟส 2 อาจจะต้องพิจารณาถึงโอกาสจากการเติบโตของโครงการอีอีซีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต การลงทุนต่างจังหวัดเน้นการจับมือกับทุนท้องถิ่นเป็นหลัก โดยสินแพทย์จะถือหุ้นกว่า 60% ที่เหลือเป็นทุนท้องถิ่น ข้อดี คือ ทำให้ทำงานง่ายขึ้น เพราะนักลงทุนท้องถิ่นจะรู้ว่าคนพื้นที่ต้องการอะไรและตอบโจทย์ได้ตรงจุด

จากนี้ไปจะขยายออกนอกพื้นที่มากขึ้น เพราะตลอด 26 ปีที่ผานมา ได้สร้างบุคลากร เทคโนโลยี รวมถึงวางรูปแบบการดำเนินงานไว้หมดแล้ว ทำให้บริษัทเติบโตได้ต่อเนื่อง จากปีแรกที่มีรายได้ 69 ล้านบาท จนปัจจุบันมีรายได้กว่า 2,300 ล้านบาท และโตขึ้นทุก ๆ ปี การจะเติบโตในอนาคตได้ บริษัทก็ต้องเสริมทีมบุคลากรใหม่ ๆ เข้ามา ล่าสุด ลูกสาว (พิชญ์ธิดา ภานุพัฒนพงศ์) ได้เข้ามาดูแลเรื่องนวัตกรรม การบริการใหม่ ๆ รวมถึงการออกแบบโรงพยาบาลในโปรเจ็กต์ใหม่ด้วย และทีมแพทย์รุ่นใหม่ที่เข้ามาดูแลเรื่องคุณภาพของการรักษา และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ด้วย ซึ่งเชื่อว่าคนรุ่นใหม่เหล่านี้จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทในอนาคต