ดีน แอนด์ เดลูก้า แถลงความร่วมมือกับ Lagardère Travel Retail ให้เอ็กซ์คลูซีฟแฟรนไชส์ขยายร้านในจุด Travel Retail ทั่วโลก ตั้งเป้าเปิด 150 สาขา ในสนามบินทั่วโลกภายใน 5 ปี เผยประเดิม 2 สาขาแรกที่สนามบินนานาชาติฮ่องกง
นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทไทยที่เป็นเจ้าของแบรนด์ ดีน แอนด์ เดลูก้า ทั่วโลก กล่าวว่าดีน แอนด์ เดลูก้า ได้แถลงความร่วมมือกับ Lagardère Travel Retail บริษัทผู้เชี่ยวชาญในด้านธุรกิจรีเทลการท่องเที่ยวชั้นนำของโลก ในการให้เอ็กซ์คลูซีฟแฟรนไชส์ขยายร้านในจุด Travel Retail ทั่วโลก โดยตั้งเป้าเปิด 150 สาขา ในสนามบินทั่วโลกภายใน 5 ปี เนื่องจากในปัจจุบันธุรกิจการท่องเที่ยวทั่วโลกเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลบวกให้กับหลายๆ ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน โดยรวมไปถึงธุรกิจรีเทลอาหารและเครื่องดื่มด้วย ซึ่งสะท้อนมาจากความสำเร็จของ ดีน แอนด์ เดลูก้า ที่ได้เปิดให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิทั้ง 2 สาขาที่สามารถทำยอดขายและรายได้มากกว่าสาขาอื่นๆที่อยู่ในใจกลางกรุงเทพฯ
“ตั้งแต่การเข้าซื้อแบรนด์ ดีน แอนด์ เดลูก้าเมื่อปี 2557 ทางบริษัทฯ ได้คิดค้นพัฒนารูปแบบธุรกิจและต่อยอดความแข็งแกร่งและชื่อเสียงของแบรนด์ที่มีนานให้เติบโตไปทั่วโลก ทั้งธุรกิจรีเทลอาหารและเครื่องดื่มกูร์เม่ต์ ร้านในรูปแบบมาร์เก็ตและคาเฟ่ ซึ่งทุกวันนี้แบรนด์ดีน แอนด์ เดลูก้า ได้รับการยอมรับและชื่นชอบจากนักชิมและคอกาแฟทั่วโลกเป็นอย่างมาก” นายสรพจน์กล่าว
โดยความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้ ดีน แอนด์ เดลูก้า สามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ไปทั่วโลกโดยอาศัยเครือข่ายของ Lagardère Travel Retail โดยที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุน ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจและการเงินในระยะยาว นอกจากนี้ ทาง Lagardère Travel Retail ยังได้แสดงความสนใจที่จะนำสินค้ารีเทลแบรนด์ดีน แอนด์ เดลูก้าไปขายในโลเคชั่นต่างๆที่ทางบริษัทฯมีเน็ตเวิร์คทั่วโลกอีกด้วย
Dag Rasmussen ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Lagardère Travel Retail กล่าวว่า ความก้าวหน้าของบริษัทฯ ในด้าน Foodservices นั้นมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการได้ร่วมมือทางธุรกิจกับ ดีน แอนด์ เดลูก้านั้น ซึ่งถือเป็นการบรรลุเป้าหมายของบริษัทฯในการตอบโจทย์ความต้องการของนักเดินทาง ของสนามบิน และของแบรนด์ที่เป็นคู่ค้าทางธุรกิจ
สำหรับร้านทั้ง 2 สาขาที่เปิดให้บริการที่สนามบินฮ่องกงเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมานั้น เป็นร้านแฟรนไชส์ที่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น ดีน แอนด์ เดลูก้า โดยจะให้บริการอาหารและสินค้าสำหรับผู้โดยสารสายการบินโดยเฉพาะ ซึ่งในส่วนของอาหารจะบรรจุในรูปแบบ Grab and Go ในกล่องสไตล์เบนโตะ ทั้งนี้ยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นที่จำหน่ายที่สนามบินนานาชาติฮ่องกงได้รับการคัดสรรอย่างดี
“ความร่วมมือกับ Lagardère ซึ่งเป็นบริษัทระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญและประสบความสำเร็จในการดำเนินงานร้านอาหารในสนามบินและขนส่งสาธารณะทั่วโลก รวมถึงการบริหารจัดการที่มีมาตรฐานระดับสูง ทำให้บริษัทฯมั่นใจว่า Lagardère ในฐานะพันธมิตรด้านเอ็กซ์คลูซีฟแฟรนไชส์ จะไม่เพียงแค่สร้างแบรนด์ให้ขยายไปในระดับโลกเท่านั้น แต่จะยังช่วยรักษาคุณภาพและมาตรฐานของ ดีน แอนด์ เดลูก้า ไว้ได้อีกด้วย” นายสรพจน์กล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็ว ๆ นี้ เพซได้เซ็นสัญญากรอบข้อตกลงในการให้สิทธิแฟรนไชส์หลักแต่เพียงผู้เดียวของ ‘ดีน แอนด์ เดลูก้า’ แก่ Kinghill Overseas Holding Limited (Kinghill) บริษัทย่อยในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในการเปิดร้าน ดีน แอนด์ เดลูก้า ในสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยตั้งเป้าขยาย 150 สาขา ภายในระยะเวลา 5 ปี