“นิคอน” ทวงแชมป์กล้องดิจิทัล ส่งเรือธง “มิเรอร์เลส” ลงสนามทุ่มทุกตลาด

“นิคอน” หวนรุกกล้องมิเรอร์เลส สบช่อง 7 เดือนตลาดโตพุ่ง 30% เปิดตัวมิเรอร์เลสฟูลเฟรมรุ่นเรือธง เจาะตลาดไฮเอนด์ พร้อมระดมกลยุทธ์ทั้งโรดโชว์ เวิร์กช็อป โซเชียล ก่อนจับมือร้านกล้องผุดสาขาแฟลกชิปกลางกรุง ก่อนปูพรมช็อปอินช็อป หวังขยายฐานจับคนรุ่นใหม่-ตากล้องหญิง ช่วยปั้นยอดขายหนีเบอร์ 4 ตลาดกล้อง

นายโทรุ มัทสึบาระ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท นิคอนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ฉายภาพตลาดกล้องดิจิทัลโค้งท้ายและทิศทางปีหน้าว่า ช่วง ก.ย.-ธ.ค.ถือเป็นไฮซีซั่น ทั้งด้วยบรรยากาศจับจ่าย การท่องเที่ยว งานแฟร์กล้องดิจิทัลปลาย พ.ย. ขณะเดียวกัน หลายแบรนด์ต่างทยอยเปิดตัวสินค้าใหม่และวางตลาดในช่วงนี้ ช่วยกระตุ้นการรับรู้-ตัดสินใจ ทำให้เม็ดเงินจำนวนมากไหลเข้ามาสร้างการเติบโตให้ตลาดมูลค่า 7,000 ล้านบาท ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงก่อนสงกรานต์

โดยเทรนด์หลักสำหรับท้ายปีนี้และต้นปีหน้า จะเป็นการแข่งขันและเติบโตของเซ็กเมนต์กล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรม สะท้อนจากการเติบโต 30% ด้านมูลค่าในช่วง 7 เดือน เมื่อเทียบกับปี 2560 เพราะราคาลดลงจาก 1.3 แสนบาท เป็นประมาณ 3.4 หมื่นบาท รวมถึงมีผู้เล่นเพิ่มขึ้นอีก 3 ราย คือ นิคอน, แคนนอน และพานาโซนิค จากเดิมที่มีเพียงโซนี่ ทำให้ตลาดคึกคัก กระตุ้นให้กลุ่มช่างภาพอาชีพและมือสมัครเล่นระดับบนหันมาสนใจกันมากขึ้น

เช่นเดียวกับการเล็งจับกลุ่มมือสมัครเล่นระดับบน เนื่องจากมีกำลังซื้อสูงและสนใจเทคโนโลยีกล้อง พร้อมใช้จ่ายเต็มที่กับทั้งกล้อง-เลนส์ไปจนถึงอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ รวมถึงตัดสินใจเปลี่ยนยี่ห้อได้ง่ายหากตอบโจทย์ความต้องการ เห็นได้จากการซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมมากกว่ากลุ่มอื่นอย่างชัดเจน จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสร้างการเติบโต

“ในไทยกลุ่มมือสมัครเล่นนี้มีจำนวนและกำลังซื้อสูงมาก จนบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นต้องสั่งให้ติดตามอย่างใกล้ชิด และพยายามหากลยุทธ์ดึงมาเป็นลูกค้าให้ได้”

สำหรับบริษัทจะรับมือเทรนด์ตลาดและชิงฐานลูกค้ากลุ่มนี้ โดยมีกล้องมิเรอร์เลสระดับเรือธงรุ่น Z6 และ Z7 ที่เปิดตัวเมื่อปลายเดือน ส.ค. และเริ่มขายต้นเดือน ต.ค.ในราคา 7 หมื่น-1.2 แสนบาทเป็นหัวหอก เน้นชูจุดขายทั้งด้านคุณภาพและฟังก์ชั่นของกล้อง-เลนส์ ซึ่งตอบโจทย์ผู้ใช้ระดับอาชีพและมือสมัครเล่นระดับบน รวมถึงแตกต่างจากคู่แข่งรายเดิมในตลาด พร้อมระดมกิจกรรม สื่อสารเน้นสร้างการรับรู้ให้สินค้าทุกไลน์อัพ ทั้งมิเรอร์เลส, ดีเอสแอลอาร์, เลนส์ และอุปกรณ์อื่น ๆ รวมถึงปรับอิมเมจของแบรนด์ ลดอายุลงเป็นวัยรุ่นช่วง 20-25 ปี จากเดิมมีภาพลักษณ์เป็นคนวัย 40 ปี จนสร้างฐานลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นได้ยาก

โดยช่วง ต.ค.-พ.ย.นี้จะจัดโรดโชว์ในหัวเมือง ทั้งเชียงใหม่, ขอนแก่น, หาดใหญ่ และภูเก็ต พร้อมเพิ่มความถี่กิจกรรมทริปถ่ายภาพ-เวิร์กช็อปสำหรับลูกค้าและบุคคลทั่วไป รวมถึงนักศึกษาทุกสัปดาห์ เน้นจุดขายเรื่องสิทธิพิเศษ สามารถเข้าถ่ายในสถานที่สำคัญ-การแข่งกีฬาแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ตามเป้าเพิ่มโอกาสทดลองสินค้าและสร้างฐานลูกค้าในอนาคต เช่นเดียวกับขยายพื้นที่ขายในงานโฟโต้แฟร์ช่วง พ.ย.อีก 50% ให้สอดคล้องกับดีมานด์ อีกทั้งจับมือพันธมิตรนอกอุตสาหกรรมจัดกิจกรรมร่วมกันเพื่อขยายฐานลูกค้าออกไปนอกวงการกล้อง เช่น บริษัทวอร์ริค ผู้ถือสิทธิ์เสื้อฟุตบอลทีมชาติ

“สต๊อกสินค้าถือเป็นความท้าทายหลัก ซึ่งขณะนี้ได้ประกาศเลื่อนส่งสินค้ารุ่น Z7, Z6 บางส่วน และเร่งกำลังผลิตของโรงงานที่ญี่ปุ่นเต็มความสามารถ คาดว่าจะมีสินค้าพร้อม 100% ในต้นปีหน้า”

นอกจากนี้ ยังเดินหน้าอัพเกรดช่องทางขาย โดยจับมือร้านกล้องลงทุน 2-3 ล้านบาทต่อสาขา สร้างพื้นที่ช็อปอินช็อปเพื่อโชว์ไลน์อัพสินค้าและให้ลูกค้าทดลองใช้งานจริงเปรียบเทียบกับสินค้าคู่แข่ง ตั้งเป้าเปิด 6 สาขาภายในสิ้นปีนี้ หลังก่อนหน้านี้จับมือกับเชนร้านกล้อง “เวิลด์คาเมร่า” เปิด “นิคอน เอ๊กซ์พีเรียนซ์ ฮับ” แฟลกชิปสโตร์และโชว์รูม ขนาด 120 ตร.ม. ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อเป็นศูนย์แสดงและขายสินค้านิคอนทุกไลน์อัพ รวมถึงสามารถส่ง-รับสินค้าเพื่อรับบริการหลังการขาย โดยสาขานี้เป็นแห่งที่ 4 ในเอเชียและแห่งแรกในไทย

ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะสามารถเจาะเข้าสู่ตลาดมิเรอร์เลสได้อีกครั้ง หลังหยุดทำตลาดกล้องมิเรอร์เลสนิคอนวันไปเมื่อกลางปี รวมถึงดึงดูดลูกค้าให้กับไลน์อัพดีเอสแอลอาร์ และผลักดันส่วนแบ่งตลาดซึ่งปัจจุบันอยู่อันดับ 4 ให้ขยับขึ้นไปได้อย่างแน่นอน