เต่าเหยียบโลก…บุกจีน ยุค “นิวเจน” ปั้นธุรกิจโตรอบทิศ

ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี บนเส้นทางตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายธรรมชาติ ต้องเร่งปรับตัวทั้งในแง่การแข่งขันสูง และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้ “เต่าเหยียบโลก” ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายจากธรรมชาติ ต้องเร่งปรับกลยุทธ์และทิศทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่

“ประชาชาติธุรกิจ” สัมภาษณ์พิเศษ “นพวิทธ์ จันทิพย์วงษ์” ทายาทรุ่นที่ 2 กับบทบาทผู้จัดการฝ่ายการตลาดของบริษัท ไทย เฮิร์บ เอนเตอร์ไพรซ์ จำกัด ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “เต่าเหยียบโลก”

“นพวิทธ์” ฉายภาพว่า ผลิตภัณฑ์เต่าเหยียบโลกอยู่คู่กับคนไทยมานานกว่า 20 ปี เริ่มต้นจากความตั้งใจของคุณพ่อที่เคยทำงานเป็นพนักงานประจำร้านขายยา หลังจากนั้นได้ออกมาทำธุรกิจส่วนตัว โดยการคิดค้นแป้งทาระงับกลิ่นกายที่ติดทนนานและป้องกันคราบเหลืองซึ่งได้สูตรแป้งระงับกลิ่นกายมาจากหัวหน้าพยาบาลที่รู้จักกัน ตั้งชื่อแบรนด์ว่า “จับเต่า” แต่ลูกค้ามักจะเรียกว่า เต่าเหยียบโลก จึงปรับเปลี่ยนเป็นชื่อเต่าเหยียบโลก พร้อมโลโก้สัญลักษณ์เต่าเหยียบอยู่บนโลก เนื่องจากมองว่าเป็นสินค้าที่ใช้ดับกลิ่นเต่า และที่ให้เต่าไปเหยียบโลกนั้นหวังให้สินค้าเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคทั่วประเทศ

อีกทั้งกลยุทธ์แห่งการประสบความสำเร็จที่ผ่านมาก็คือ การสร้างแบรนด์จะต้องคำนึงถึงคุณภาพของสินค้า และมีราคาที่เหมาะสม เลือกหาผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ให้สอดรับกับผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ซึ่งผลิตภัณฑ์เราก็ตอบโจทย์ได้ดี

ขณะที่บริษัทได้ทุ่มงบฯกว่า 10 ล้านบาท ทำสื่อการตลาดผ่าน 5 ช่องทางหลัก ได้แก่ 1.มุ่งทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ อาทิ เฟซบุ๊ก เว็บไซต์ อินสตาแกรม 2.ประชาสัมพันธ์ผ่านวิทยุ 3.สื่อโฆษณาตามรถเมล์ จำนวน 30 คัน ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 4.ลงพื้นที่จัดกิจกรรมโรดโชว์ นำสินค้าไปให้กับผู้บริโภคได้ทดลองใช้ รวมทั้ง

5.ทำสื่อโฆษณาผ่านฟรีทีวีช่อง 3, ช่อง 7, ช่อง 8, ช่องเวิร์คพอยท์ โดยมีพรีเซ็นเตอร์ ชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นตัวแทนสื่อสารภาพลักษณ์ของแบรนด์ ให้เข้าถึงผู้บริโภคครอบคลุมทุกพื้นที่ พร้อมกันนี้อุปสรรคของแบรนด์ “เต่าเหยียบโลก”

ตอนนี้คือ ผู้บริโภค ต่างจังหวัด ยังไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่ เราจึงพยายามสร้างกลยุทธ์การตลาดให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ อาทิ เว็บไซต์ อีคอมเมิร์ซ จากเดิมที่ผ่านมาเน้นจำหน่ายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดและซูเปอร์มาร์เก็ตควบคู่กับการเพิ่มแคมเปญการตลาด โดยเน้นจัดกิจกรรมโรดโชว์แนะนำสินค้าในพื้นที่ต่างจังหวัดอย่างครอบคลุม เพื่อสอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภครุ่นใหม่ที่นิยมสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก

สำหรับตลาดต่างประเทศ ขณะนี้บริษัทอยู่ในช่วงศึกษาตลาดจีนมองว่า ผู้บริโภคจีนมีกำลังซื้อสูง และมีความต้องการบริโภคอย่างไม่จำกัด ซึ่งกลุ่มผู้บริโภคจีนเป็นกลุ่มซื้อสินค้าจากไทยมากที่สุดในโลก โดยเฉพาะสินค้าประเภทสมุนไพรธรรมชาติ แต่การนำสินค้าไปทำตลาดที่จีนนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทุกคนจะประสบความสำเร็จ ดังนั้น เต่าเหยียบโลก ต้องศึกษาความต้องการของผู้บริโภคอย่างหนัก เพื่อรุกตลาดต่างประเทศให้ประสบความสำเร็จได้ในอนาคต

“นพวิทธ์” กล่าวต่อว่า ตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายถือว่าเป็นตลาดใหญ่และมีการแข่งขันสูง แต่บริษัทมีจุดแข็งในเรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ใช้แล้วเห็นผลภายใน 1 วัน และการเพิ่มความหลากหลายของสินค้า โอกาสทางการตลาดก็จะมีมากขึ้นด้วยเช่นกันทิศทางการเติบโตของเต่าเหยียบโลกจากนี้ไป จะมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยสร้างจากความแตกต่างเฉพาะตัวจากตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย เน้นภาพลักษณ์ที่สนุกสนาน และเป็นสินค้าจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมี มีคุณภาพเชื่อถือได้ ใช้แล้วเห็นผลทันที

ปัจจุบัน “เต่าเหยียบโลก” มีสินค้า 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ แป้งระงับกลิ่นกาย ผงระงับกลิ่นเท้า ครีมทารักแร้ขาว โรลออนและสเปรย์ระงับกลิ่นกาย

อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้าสร้างรายได้เติบโตกว่า 200% จากการปรับกลยุทธ์การตลาดและเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างหลากหลาย ในครั้งนี้เชื่อมั่นว่าในครึ่งปีหลังน่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

“การทำตลาดในยุค 4.0 ต้องสร้างความแตกต่างให้แก่ผลิตภัณฑ์ รวมถึงขยายช่องทางจำหน่ายให้ครอบคลุม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง”

นพวิทธ์ จันทิพย์วงษ์