คอลัมน์ จับกระแสตลาด
ไม่ต้องไปไกลถึงฝรั่งเศสก็สามารถหาร้านนั่งจิบกาแฟ หรือเครื่องดื่มเติมความสดชื่นระหว่างวัน พร้อมเบเกอรี่กรุบกริบ ในบรรยากาศร้านคาเฟ่สไตล์ปารีเซียงได้แล้วที่แฟลกชิปสโตร์ของ “ลองฌอมป์” เอ็มควอเทียร์
“พีพี กรุ๊ป” ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ลองฌอมป์, ทอรี่ เบิร์ช, เซลีน, โลเอเว ฯลฯ ได้นำ “คาเฟ่ เดอ ลองฌอมป์” (Cafe” de Longchamp) ในคอนเซ็ปต์เดียวกันกับร้านที่ฝรั่งเศสเข้ามาเปิดในไทย พร้อมกับเมนูเครื่องดื่มสารพัดเอาใจสาวนักช็อป นักชิมทั้งหลาย แม้จะไม่ได้เป็นลูกค้าของแบรนด์ แต่ก็สามารถเข้าถึงเครื่องดื่มจากคาเฟ่นี้ได้ง่าย ๆ
รายงานจากบริษัท พีพี กรุ๊ป จำกัด ระบุว่า แบรนด์ลองฌอมป์ได้เปิดร้าน “คาเฟ่ เดอ ลองฌอมป์” ในประเทศไทย หลังจากที่ร้านคอนเซ็ปต์ดังกล่าวได้ทยอยเปิดไปแล้วในต่างประเทศ เช่น ฝรั่งเศส นิวยอร์ก เซี่ยงไฮ้ ฯลฯ ในโอกาสที่แบรนด์ลองฌอมป์ครบรอบ 70 ปี โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 16-31 ตุลาคม 2561ซึ่งนอกจากการตกแต่ง วัสดุ เฟอร์นิเจอร์ และบรรยากาศสไตล์ปารีเซียงแล้ว ยังมีเมนูซิกเนเจอร์ของเครื่องดื่มที่ครีเอตมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ได้แก่ Mademoiselle Longchamp และ Black Pearl Amazone ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากกระเป๋ารุ่นอเมซอน (Amazone) ที่เปิดตัวไปในช่วงก่อนหน้านี้ด้วย
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ร้านดังกล่าวมีที่นั่งประมาณ 16 ที่นั่ง ตั้งอยู่บริเวณหน้าร้านลองฌอมป์ ส่วนที่เป็นเอาต์ดอร์ ให้บริการเครื่องดื่ม อาทิ กาแฟลาเต้, คาปูชิโน่, อเมริกาโน่,เอสเปรสโซ่, สปาร์คเคิล เลมอน มินท์, มายซันไชน์ ฯลฯ ราคาตั้งแต่ 120-160 บาทต่อแก้ว และเบเกอรี่ อาทิ คาเนเล่, มาคารอง และมาเดอลีน ราคา 45-55 บาทต่อชิ้น โดยร้านกาแฟพรีเมี่ยมอย่าง “คาซ่า ลาแปง” เป็นผู้ให้บริการในส่วนนี้
แบรนด์ลองฌอมป์ ถือเป็นแบรนด์แฟชั่นที่อยู่ในเซ็กเมนต์ของกลุ่มลักเซอรี่ที่มีราคาเข้าถึงได้ (affordable luxury) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงเมื่อเทียบกับตลาดในภาพรวม เนื่องจากมีฐานลูกค้าที่ไม่นิชจนเกินไปเหมือนลักเซอรี่แบรนด์ ขณะเดียวกันก็มีระดับราคาที่กลุ่มชนชั้นกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ของประชากรสามารถเข้าถึงได้ง่าย
การใช้โมเดลคาเฟ่ ยิ่งตอบโจทย์ในด้านแบรนด์อะแวร์เนส และคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ที่ย้ำไปกับกระแสการกิน ดื่ม ชิม คาเฟ่เก๋ ๆ ใหม่ ๆ ของคนในปัจจุบัน โดยที่ราคาของเครื่องดื่มก็ไม่ได้แพงจนเกินไป เมื่อเทียบกับราคาของกาแฟและเบเกอรี่ของแบรนด์กาแฟพรีเมี่ยมเจ้าตลาดอย่างสตาร์บัคส์แล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ร้านถูกออกแบบมาอย่างสวยงาม เหมาะแก่การช็อป ชิม แชร์ โพสต์ลงโซเชียล ก็เชื่อได้ว่าผู้ที่เข้ามาใช้บริการไม่มากก็น้อย จะต้องถ่ายรูปเมนูที่สั่งมา พร้อมกับพร็อปบนโต๊ะอย่างแจกันดอกไม้แน่นอน ซึ่งแบรนด์ก็จะได้กระแสบอกต่อในโลกโซเชียลไปโดยปริยาย
สอดคล้องกับทิศทางของแบรนด์เองที่ต้องการมีบทบาทในโลกออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับกลยุทธ์การสื่อสารมาทางดิจิทัลอย่างเต็มที่ พร้อมกับการเปิดบริการอีคอมเมิร์ซเมื่อต้นปีที่ผ่านมา รองรับการสั่งซื้อทั่วประเทศ หลังจากทดลองให้บริการสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์เพื่อศึกษาฟีดแบ็กในช่วงก่อนหน้า
“สุวดี พึ่งบุญพระ” ประธานกรรมการ บริษัท พีพี กรุ๊ป จำกัด ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า ภาพรวมของแบรนด์ลองฌอมป์มีการเติบโต 15% ต่อเนื่องทุกปี ซึ่งการรุกในออนไลน์มากขึ้นก็คาดว่าจะช่วยให้แบรนด์มียอดขายที่เติบโตได้ถึง 20-30% และสามารถขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เสริมจากสาขาที่เปิดให้บริการ 5 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่เฉพาะในกรุงเทพฯ อาทิ เอ็มควอเทียร์, สยามพารากอน, เซ็นทรัลชิดลม, เซ็นทรัลลาดพร้าว และเซ็นทรัลบางนา
ปัจจุบันพีพี กรุ๊ป บริหาร 10 แบรนด์ในเมืองไทย อาทิ Ce”line, Emilio Pucci, Givenchy, Loewe, Longchamp, MCM, Roger Viiver, Tod”s, Tory Burch และ Off-Whiteกิมมิกใหม่ ๆ ส่งเข้ามาไม่หยุดเพื่อย้ำแบรนดิ้งและเข้าถึงไลฟ์สไตล์ลูกค้า