“โกโปร” เร่งปรับโครงสร้างพลิกธุรกิจ…หลุดสถานการณ์ติดหล่ม

คอลัมน์ Market Move

แม้ “โกโปร” (Gopro) จะได้ชื่อว่าเป็นผู้จุดกระแสนิยมแอ็กชั่นคาเมร่าให้โด่งดังจนบรรดาค่ายกล้องรายใหญ่ทั้ง นิคอน, พานาโซนิค, คาสิโอ และโซนี่ ต้องโดดเข้ามาร่วมวงทำให้

ตลาดนี้มีโอกาสเติบโตได้มากถึง 5,810 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2564 แต่ “โกโปร” กลับขาดทุนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2558 รวม 7 ไตรมาสต่อเนื่อง สะท้อนถึงความท้าทายในตลาดนี้

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดดูเหมือนว่าโกโปรจะเริ่มจับทิศทางธุรกิจและตั้งหลักได้อีกครั้งแล้ว เมื่อตัวเลขผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 นี้ สามารถทำรายได้ถึง 296.5 ล้านเหรียญสหรัฐ และขาดทุนเพียง 30.5 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น ปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งมีรายได้ 220.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ซ้ำยังขาดทุนถึง 91.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เรียกว่าหักปากกาบรรดาเซียนในตลาดหุ้นสหรัฐที่เก็งว่าบริษัทจะมีรายได้ไตรมาสที่ 2 แค่ไม่เกิน 270 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น

นิค วู้ดแมน” ซีอีโอและผู้ก่อตั้งโกโปร กล่าวถึงทิศทางหลังจากนี้ว่า สินค้าไฮไลต์ของปีนี้ ทั้งกล้องรุ่นฮีโร่ 6 (Hero 6) และรุ่นฟิวชั่น (Fusion) ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือน เม.ย. ด้วยจุดขายอย่าง การถ่ายวิดีโอความละเอียด 5.2K และมุมรับภาพ 360 องศารอบตัวเพื่อรับเทรนด์เวอร์ชวลเรียลิตี้ที่กำลังมาแรง จะสามารถวางตลาดได้ทันช่วงเทศกาลช็อปปิ้งสิ้นปีที่เป็นไฮซีซั่นอย่างแน่นอน

โดยเมื่อรวมกับโปรแกรมสร้างภาพยนตร์อัตโนมัติ “ควิกสตอรี่ส์” (QuikStories) ที่ช่วยตอบโจทย์ผู้ใช้งานด้านความง่ายในการนำวิดีโอจากกล้องไปใช้และแชร์บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก เชื่อว่าจะสามารถรักษาโมเมนตั้มการเติบโตให้ต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกและช่วยให้บริษัทกลับมามีกำไรอีกครั้ง

โปรแกรมสร้างภาพยนตร์นี้ถือเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้การคิดค้นตัวกล้องโกโปรเลยทีเดียว”

สอดคล้องกับความเห็นของนักวิเคราะห์ที่มองว่า มาตรการรัดเข็มขัดแบบเข้มข้นที่เดินหน้ามาตั้งแต่ปีที่แล้วเริ่มเห็นผล โดยเฉพาะการปิดหน่วยธุรกิจสื่อบันเทิง และการปรับลดพนักงานอย่างต่อเนื่องอีกกว่า 300 อัตราในปีนี้ ต่อจากการลดจำนวนพนักงานถึง 15% เมื่อปีที่แล้ว ตามเป้าลดค่าใช้จ่ายด้านการบริหารลงให้ได้อีก 200 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปีนี้

นอกจากนี้ สินค้าที่ลอนช์ในปีที่แล้วอย่างกล้องรุ่นฮีโร่ 5 แบล็ก และเซสชั่น 5 ยังได้รับการตอบรับล้นหลามในตลาดสหรัฐ โดยบริษัทวิจัยเอ็นพีดีระบุว่า กล้องรุ่นฮีโร่ 5 ครองตำแหน่งกล้องดิจิทัลที่ขายดีที่สุดติดต่อกัน 3 ไตรมาส เช่นเดียวกับโดรนรุ่น คาร์มา (Karma) ซึ่งกลายเป็นโดรนขายดีอันดับ 2 ของสหรัฐในไตรมาสที่ผ่านมา

ด้านตลาดรวมแอ็กชั่นคาเมร่าเองเริ่มมีสัญญาณบวก โดยบริษัทวิจัยเทคนาวิโอ (Technavio) ประเมินว่า ตลาดจะเติบโตต่อเนื่องช่วงปี 2560-2564 ด้วยแรงหนุนจากฟังก์ชั่นใหม่ที่เพิ่มขึ้น เช่น ความคมชัดระดับ UHD ซึ่งกำลังเป็นมาตรฐานใหม่ของทีวีในปัจจุบัน ทำให้มีดีมานด์ฟังก์ชั่นนี้สูงขึ้นจากทั้งผู้ใช้ทั่วไป และสื่อที่ต้องการใช้ผลิตรายการเรียลิตี้โชว์ รวมถึงรายการกีฬา


โดยคาดว่าแอ็กชั่นคาเมร่าความละเอียด UHD จะมีมูลค่าประมาณ 3,260 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2564ต้องรอดูกันว่าโกโปรจะสามารถเข็น ฮีโร่ 6 และฟิวชั่น ออกมาวางตลาดได้ทันช่วงสิ้นปีตามที่ตั้เป้าไว้และจะสามารถพลิกสถานการณ์กลับมามีกำไรได้หรือไม่