เครื่องสำอางทะลักเต็มเชลฟ์ สาวๆปันใจราคาคุ้มตอบโจทย์สวยไม่แพง

เครื่องสำอาง “หน้าใหม่” พรึ่บเต็มเชลฟ์ โตสวนทางภาพรวมตลาดชะลอตัว หลังเคาน์เตอร์แบรนด์ 2 หมื่นล้านกำลังซื้อซึมยาว แบรนด์ใหม่ไทย-เทศ ชูกลยุทธ์ราคาคุ้ม หวังเป็นทางเลือกเข้าถึงได้ง่าย ดึงสาว ๆ เปลี่ยนใจมาทดลองใช้ ตอบโจทย์เทรนด์ยุคสวยได้ต้องไม่แพง สบช่องร้านมัลติแบรนด์ค้าปลีกความงามเปิดเวทีให้แบรนด์แจ้งเกิดิแม้ความสวยจะเป็นเรื่องที่รอไม่ได้ และสาว ๆ หนุ่ม ๆ คนยุคใหม่จะใช้จ่ายกับการดูแลตัวเองมากขึ้น ทั้งในด้านสุขภาพและความงาม แต่สภาพตลาดและเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังทรงตัว ก็ทำให้สินค้าอย่างเครื่องสำอางต้องเผชิญศึกหนักไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม แม้ภาพรวมทั้งตลาดจะชะลอตัวลง โดยเฉพาะเครื่องสำอางกลุ่มพรีเมี่ยมเคาน์เตอร์แบรนด์ที่เผชิญกับมู้ดจับจ่ายที่หดหายไปอย่างเห็นได้ชัด หรือกลุ่มแมสที่ตลาดระดับล่างก็ชะงักไป แต่กลับเห็นความเคลื่อนไหวของแบรนด์ใหม่ ๆ ทั้งไทยและต่างประเทศที่เข้ามาเป็นทางเลือกและสร้างสีสันให้กับตลาดมากขึ้น ด้วยระดับราคาที่คุ้มค่า เข้าถึงง่าย และสวยได้แบบไม่ต้องจ่ายแพง ขณะเดียวกันร้านค้าปลีกความงามและมัลติแบรนด์ความงามต่างก็พร้อมให้พื้นที่และเป็นเวทีเปิดตัวให้กับแบรนด์หน้าใหม่เหล่านี้

แบรนด์ใหม่ส้มหล่น

นายรัชกร วงษ์ยอด ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท เอเชีย มาร์เก็ตติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประเทศไทย ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องสำอางทีบีซี, ออลิวอนท์ โตเกียว ฯลฯ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในทุกภาวะเศรษฐกิจ ผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้หญิงยังคงต้องการดูแลตัวเองอยู่ตลอด เพียงแต่อาจปรับการใช้จ่ายให้เหมาะสมมากขึ้นกับกำลังซื้อที่มี เช่น การลดความถี่ในการซื้อ การหันไปหาแบรนด์ทางเลือกที่มีคุณภาพใกล้เคียงแต่ราคาถูกกว่า เป็นโอกาสให้แบรนด์เครื่องสำอางที่มีราคาเข้าถึงง่าย หรือกลุ่มพรีเมี่ยมแมสมีโอกาสเติบโตสูง และมีแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาทำตลาดในเซ็กเมนต์นี้มากขึ้น

และในปีนี้บริษัทนำเข้าแบรนด์เครื่องสำอางจากญี่ปุ่น ในกลุ่มเคาน์เตอร์แบรนด์ที่มีระดับราคาเข้าถึงง่าย มาเปิดตัวในไทยจำนวน 4 แบรนด์ อาทิ ทีซีบี, น้ำหอม ฟิทส์ โตเกียว, ออลิวอนท์ เครื่องสำอางผู้ชาย และแอลบี แบรนด์เมกอัพที่จะนำเข้ามาภายในเดือนหน้า ซึ่งนอกจากจะวางขายในห้างสรรพสินค้าแล้ว ยังเข้าไปวางขายในร้านสะดวกซื้อความงาม และร้านมัลติแบรนด์ความงามด้วย เช่น อีฟแอนด์บอย บิวเทรียม และอยู่ระหว่างการเข้าไปวางในร้านวัตสันเร็ว ๆ นี้

ราคาคุ้ม” ดีมานด์ทะลัก

นายอาคิโยชิ นากาซาโตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเมจิ ฟาร์มาซิวติคัล จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแบรนด์เมโชกุ กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า จากการที่บริษัทได้ทำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมและยาในประเทศไทยเป็นเวลากว่า 38 ปี ได้เห็นโอกาสของตลาดความงามที่โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้พัฒนาแบรนด์สกินแคร์เมโชกุขึ้นมาเพื่อรับกับโอกาสดังกล่าว ระดับราคาตั้งแต่ 1,000-1,670 บาท เจาะช่องว่างของตลาดที่ใช้วัตถุดิบจากน้ำมันม้า ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ได้รับความนิยมสูงในญี่ปุ่นและจีน เน้นวางจำหน่ายในช่องทางร้านขายยาและร้านสะดวกซื้อความงาม เช่น มัตสึโมโตะคิโยชิ และซูรูฮะ

สอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของแบรนด์ไทยรายใหม่ ๆ ที่เข้ามาเป็นทางเลือกมากขึ้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการลงพื้นที่ร้านสะดวกซื้อความงามหรือร้านมัลติแบรนด์ความงาม จะเห็นเครื่องสำอางของแบรนด์หน้าใหม่ ๆ ทั้งผู้ประกอบการในประเทศและต่างประเทศจำนวนมากที่เข้ามาเป็นทางเลือกให้กับตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเมกอัพความงาม สกินแคร์ และแฮร์แคร์ ซึ่งส่วนใหญ่จะตั้งราคาอยู่ในระดับหลัก 100 เป็นต้นไป ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่ายและกล้าที่จะทดลองใช้

มัลติแบรนด์” เวทีแจ้งเกิด

นายหิรัญ ตันมิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีฟแอนด์บอย จำกัด ผู้บริหารร้านความงามมัลติแบรนด์ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เทรนด์ของผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการเข้ามาจับจ่ายในพื้นที่ที่อำนวยความสะดวกในการเลือกซื้อ มีแบรนด์หลากหลาย เอาไว้ในที่เดียวมากขึ้น ทำให้โมเดลของร้านอีฟแอนด์บอยได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งลูกค้าที่มาใช้บริการ และแบรนด์ต่าง ๆ ที่สนใจเข้ามาวางจำหน่ายสินค้าในร้านมากขึ้น

โดยภายในสิ้นปีจะมีแบรนด์ใหม่ที่จะเข้ามาเปิดตัวในร้านเป็นที่แรกมากกว่า 3 แบรนด์ จากไต้หวัน เกาหลี รวมถึงแบรนด์ไทย ที่ปัจจุบันสามารถพัฒนาโปรดักต์ให้น่าสนใจ มีคุณภาพ และมีราคาไม่แพง จึงได้ความสนใจจากกลุ่มวัยรุ่น คนรุ่นใหม่จำนวนมาก ซึ่งบริษัทเตรียมที่จะขยายร้านเพิ่มอีก 3 สาขา ภายในสิ้นปี อาทิ บางแค แฟชั่นไอส์แลนด์ และเทอร์มินอล 21 อโศก จากปัจจุบันมีทั้งสิ้น 10 สาขา อาทิ สยามสแควร์วัน บางกะปิ เมกาบางนา ฯลฯ

สอดคล้องกับแหล่งข่าวระดับสูงจากวงการเครื่องสำอางชี้ว่า การที่ตลาดมีโมเดลร้านใหม่ ๆ เช่น ร้านสะดวกซื้อความงาม ร้านมัลติแบรนด์ความงาม และอีคอมเมิร์ซ เป็นโอกาสให้เครื่องสำอางแบรนด์ใหม่ ๆ มีช่องทางในการเข้ามาทำตลาดกันมากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งในช่องทางของห้างสรรพสินค้าเพียงอย่างเดียว อีกทั้งต้นทุนของการเข้าไปในช่องทางใหม่มีต้นทุนที่น้อยกว่าการเข้าห้าง และมีทราฟฟิกที่ดี จึงจะเห็นภาพของแบรนด์ใหม่ ๆ ที่วางขายในร้านประเภทดังกล่าวจำนวนมาก

ภาพรวมตลาดยังชะลอตัว

ผู้บริหารระดับสูงรายนี้ขยายความต่อว่า ภาพรวมเครื่องสำอางความงามชะลอตัวลงหรือมียอดใช้จ่ายลดลงประมาณ 15% ทั้งกลุ่มเพอร์ซันนอลแคร์และเมกอัพ เนื่องจากหลายปัจจัยลบทำให้สินค้าความงามที่ถือเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายในหลาย ๆ ทาง

แม้จะกระตุ้นด้วยโปรโมชั่น เช่น ซื้อ 2 ชิ้นราคาถูกกว่าก็จะมองว่ายังไม่มีความจำเป็น ซื้อแค่ชิ้นเดียวพอ ไม่ซื้อตุน หรืออาจชะลอซื้อในเดือนถัด ๆ ไป

อย่างไรก็ตาม สินค้าความงามที่ขายผ่านช่องทางออนไลน์กลับมีการเติบโตและคึกคัก เนื่องจากทำโปรโมชั่นแรง อาทิ ซื้อครีมแจกรถ และการจัดส่งสินค้าสะดวก จึงมีผู้เล่นรายใหม่ ๆ หันมาทำแบรนด์ของตัวเองจำหน่ายผ่านออนไลน์มากขึ้น และเข้ามาแชร์ส่วนแบ่งตลาดจากช่องทางขายปกติ ทั้งนี้ แม้ว่ากำลังซื้อในประเทศจะชะลอตัว แต่มองว่ายังมีโอกาสจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาซื้อเครื่องสำอางแบรนด์ไทยหลายแบรนด์ได้รับความนิยมจากทัวริสต์ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวคนจีน