การตลาด

แฮร์แคร์ญี่ปุ่น “โทรว์” บุกตลาด จับมือ “สหพัฒน์” เปิดเทรนด์เปลี่ยนสีผม

“เอ็ม ไอ แอล” เผยกลยุทธ์สร้างการเติบโต ชี้เทรนด์ความงามในไทยกำลังมาแรง เดินหน้ารุกหนักตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมใหม่ “โทรว์” (Throw) แบรนด์นำเข้าจากญี่ปุ่น เสริมแกร่งธุรกิจ หวังสร้างรายได้โตต่อเนื่อง

นายวรเทพ อัศวเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม ไอ แอล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทภายใต้เครือสหพัฒน์ ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมมานานกว่า 30 ปี เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมในปี 2560 เติบโต 6-7% มูลค่ารวมกว่า 3.08 หมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น จากความต้องการของผู้บริโภคที่เริ่มจับจ่ายสินค้าสุขภาพและความงามสูงขึ้น สอดคล้องกับตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ผู้ประกอบการต่างให้

ความสำคัญในการพัฒนาสินค้าด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยเชื่อมั่นว่าในปีนี้ตลาดจะมีปัจจัยบวกหลายด้านทั้งสื่อดิจิทัลเข้ามาหนุนการทำตลาด ก็ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดกลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องรวมทั้งภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้น บริษัทจึงต้องเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่ และมุ่งพัฒนาแบรนด์ให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภค ด้วยการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ อาทิ เฟซบุ๊ก เว็บไซต์ อินสตาแกรม และขยายช่องทางจัดจำหน่ายผ่านอีคอมเมิร์ซ อาทิ ลาซาด้า ช้อปปี้ เป็นต้น

ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม “โทรว์” (Throw) โดยมีจุดเด่นส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติ ที่ช่วยบำรุงเส้นผมขณะทำสี โดยนำเข้าผลิตภัณฑ์จากประเทศญี่ปุ่น เจาะกลุ่มผู้บริโภคอายุ 20-30 ปี และร้านเสริมสวยชั้นนำ ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญด้านสีผม โดยเชื่อมั่นว่าการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้จะสามารถสร้างการเติบโตให้บริษัทได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับทิศทางการเติบโตจากนี้ไป บริษัทจะให้ความสำคัญในเรื่องการสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ผลิตภัณฑ์เป็นหลัก ควบคู่กับการสร้างความสัมพันธ์ต่อผู้บริโภค และได้เปิดศูนย์บริการให้คำปรึกษาให้แก่ลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ พร้อมจัดตั้งทีมงานผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำและจัดอบรมให้แก่ช่างผมในการทำสีผม และการดูแลเส้นผมอย่างใกล้ชิด

ปัจจุบันธุรกิจหลักของบริษัท คือ ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมภายใต้แบรนด์ PAON 7-8, MonChic และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการดูแลเส้นผมแบรนด์ KSA จากทีมนักวิจัยที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพเหมาะกับสภาพเส้นผมของคนเอเชีย ด้วยนวัตกรรมที่ให้ความปลอดภัยต่อสุขภาพของเส้นผม โดยผ่านมาตรฐานการผลิตที่ได้การรับรองระดับสากล และจากคณะกรรรมการอาหารและยา

อย่างไรก็ตาม ในปี 2561 บริษัทยังคงเดินหน้าทำการตลาดเน้นกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม และการสร้างประสบการณ์กับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่ดำเนินการมาตลอดทั้งปี รวมทั้งการนำผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่แข็งแรงเข้ามาเสริมพอร์ตสร้างการเติบโต ทำให้เชื่อมั่นว่าในปีนี้จะสามารถสร้างรายได้เติบโตขึ้นอย่างแน่นอน