วัยรุ่นเอเชียดัน “สกินแคร์” “เอสเต” รับอานิสงส์ยอดขายพุ่ง

คอลัมน์ MARKET MOVE

ผู้บริโภครุ่นใหม่ในประเทศหลักของเอเชีย-แปซิฟิก อาทิ จีน ฮ่องกง และญี่ปุ่น กำลังทวีความสำคัญในฐานะเป้าหมายสำคัญของตลาดความงาม ด้วยเทรนด์ที่ผู้ซื้อสินค้าความงามครั้งแรกมีอายุน้อยลงเรื่อย ๆ โดยเฉพาะด้านบำรุงผิว ทั้งสกินโทนและรักษาสิว ได้ช่วยกระตุ้นยอดขายให้บรรดาผู้เล่นในตลาดตลอดช่วงปีนี้ สะท้อนจากผลประกอบการของเอสเต ลอเดอร์ เติบโต 8% ในไตรมาสล่าสุด รวมถึงดึงดูดการลงทุนจากแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่างยูนิลีเวอร์ และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ที่พยายามซื้อกิจการแบรนด์ท้องถิ่นเพื่อขยายฐาน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เอสเต ลอเดอร์ เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสล่าสุดยอดขายเติบโต 8% เป็น 3.52 พันล้านเหรียญสหรัฐ เช่นเดียวกับรายได้สุทธิเติบโต 17% แตะ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยแบรนด์หลักอย่างเอสเต ลอเดอร์ และแมค เติบโตในระดับเลข 2 หลัก หลังปรับกลยุทธ์หันมาเน้นจับกลุ่มวัยรุ่นด้วยสินค้าด้านสกินโทนและรักษาสิว แทนเซ็กเมนต์ชะลอวัย สะท้อนถึงดีมานด์สินค้าความงามของคนรุ่นใหม่ในเอเชีย-แปซิฟิกเติบโตต่อเนื่อง

“ฟราบิซิโอ ฟรีดา” ซีอีโอของเอสเต ลอเดอร์ อธิบายว่า ปัจจุบันสินค้าสกินโทนและรักษาสิวได้ขึ้นมาเป็นกลุ่มหลักของตลาดสกินแคร์แทนสินค้าชะลอวัยแล้ว เห็นได้ชัดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งฐานอายุลูกค้าลดลงเรื่อย ๆ พร้อมกับยอดรายได้จากภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นถึง 26%

สอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และยูนิลีเวอร์ ที่พยายามขยายฐานในเอเชีย เพื่อชิงโอกาสจากกระแสนี้เช่นกัน โดยจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เสนอเม็ดเงิน 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซื้อกิจการ “ซิ : ซี โฮลดิ้ง” (Ci : Z Holdings) ผู้ผลิตสกินแคร์แบรนด์ลาโบลาโบ (Labo Labo) และเมื่อปีที่แล้ว ยูนิลีเวอร์ได้ซื้อกิจการ “คาเวอร์ โคเรีย” (Carver Korea) ผู้ผลิตสกินแคร์เกาหลี ไปด้วยเงิน 2.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ