“นีโอสุกี้” ทุ่ม 100 ล้านรับตลาดแข่งเดือด

“นีโอกรุ๊ป” บุกหนักรับเทรนด์ตลาดสุกี้แข่งเดือด ชูจุดแข็งเปลี่ยนภาพลักษณ์ผู้เชี่ยวชาญแบรนด์สุกี้ต้นตำรับอาหารต้ม ด้วยกลยุทธ์หลัก เพิ่มเมนู-เน้นคุณภาพ-ราคาคุ้มค่า เร่งทุ่มงบฯ 100 ล้าน รองรับธุรกิจอาหารโต พร้อมระดมแคมเปญช่วงเทศกาลใหญ่มัดใจผู้บริโภค

นายณัฐพล กัปปิยจรรยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นีโอ สุกี้ไทยเรสเทอรองส์ จำกัด เจ้าของแบรนด์นีโอ สุกี้ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันภาพรวมตลาดสุกี้ในเมืองไทยมีมูลค่าประมาณ 15,000 ล้านบาท มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องปีละ 10% เนื่องจากเทรนด์ของอาหารสุขภาพกำลังมาแรง จึงทำให้ร้านอาหารประเภทสุกี้ ซึ่งถือเป็นร้านอาหารเพื่อสุขภาพได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภค ในขณะที่ภาพรวมของนีโอ สุกี้ในปี 2561 มีแนวโน้มเติบโตกว่า 12-15% หรือมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 370 ล้านบาท โดยมีปัจจัยมาจากการขยายสาขาเพิ่มต่อเนื่อง บวกกับเทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง ส่วนปัจจัยลบที่ต้องให้ความสำคัญคือ ภาวะเศรษฐกิจในธุรกิจบริการอาหารในไทย ช่วงปี 2561 ถือเป็นปีที่กำลังซื้อตกต่ำอย่างมาก หากผู้ประกอบการต้องการอยู่รอด ต้องควบคุมต้นทุนค่าแรง รวมถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อย่างรัดกุม ทั้งนี้ทั้งนั้นในช่วงหลังเลือกตั้งปี 2562 คาดว่าผู้บริโภคจะมีกำลังซื้อ และกล้าจับจ่ายมากขึ้น

รวมทั้งในตลาดสุกี้มีการแข่งขันสูง จะเห็นได้ว่ามีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะสุกี้และชาบูประเภทบุฟเฟต์ พบว่ามีการแข่งขันตัดราคากันอย่างรุนแรง ทำให้บริษัทมองว่าการทำตลาดในรูปแบบดังกล่าวในระยะยาวไม่น่าจะอยู่ได้ โดยเฉพาะแบรนด์โลคอลและร้านของผู้ประกอบการรายย่อย คาดว่าหากผู้ประกอบการยังแข่งขันเรื่องราคา ในระยะเวลาอีก 3-5 ปีข้างหน้าอาจจะต้องปิดตัวลงและหายไปจากตลาดมากขึ้น

จากแนวทางดังกล่าว หลังจากปีที่ผ่านมาทางร้านได้มีการรีแบรนดิ้งครั้งใหญ่ และวางแผนกลยุทธ์การตลาดในการปรับภาพลักษณ์ของร้าน “นีโอ สุกี้” ให้เป็นต้นตำรับอาหารต้ม ที่ไม่ใช่แค่ภาพของสุกี้ ซึ่งนีโอ สุกี้ต้องการเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของอาหารประเภทสุกี้ พร้อมให้ความสำคัญกับการปรับภาพลักษณ์ของร้านนีโอ สุกี้ และเน้นแข่งขันด้วยคุณภาพ และเพิ่มความหลากหลายของเมนูอาหารในราคาที่ได้มาตรฐาน

สำหรับแผนงานในครึ่งปีหลังนี้บริษัทเตรียมใช้งบฯลงทุน 100 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในโรงงานแห่งใหม่ 50 ล้านบาท บนพื้นที่ 4 ไร่ ย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อใช้รองรับการขยายสาขาใหม่ในอนาคต รวมทั้งการขยายไลน์ธุรกิจอาหารอื่น ๆ ทั้งแบรนด์ใหม่และแฟรนไชส์ และมีแผนจะเปิดตัวเทศกาลอาหารใหญ่อีกครั้งเพื่อเป็นการฉลองช่วงปลายปี หลังจากต้นปีที่ผ่านมาได้จัดเทศกาลอาหารฮ่องกงก็ถือว่าได้รับเสียงตอบรับของผู้บริโภคเป็นอย่างดี

พร้อมกันนี้ยังเตรียมกิจกรรมและแคมเปญต่าง ๆ เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจัดเทศกาลอาหารหลากหลายสไตล์ และเทศกาลที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ เฝอ เป็นเทศกาลที่สามารถคุมรสชาติและสร้างสรรค์เมนูใหม่ให้ถูกปากผู้บริโภคได้เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ในช่วงปลายปี 2561 จะมีแคมเปญในช่วงเทศกาลใหญ่ ได้แก่ เทศกาลบักกุ๊ดเต๋ สิงคโปร์ ซึ่งมีเมนูใหม่ให้เลือกอย่างหลากหลาย โดยเทศกาลนี้จะเริ่มในเดือนพฤศจิกายนปี 2561 จนถึงปลายไตรมาส 1 ของปี 2562

“นายณัฐพลกล่าวต่อว่า การขยายธุรกิจต่อจากนี้ จะยังคงขยายสาขาอย่างต่อเนื่องและมุ่งเน้นการรักษาคุณภาพของทุกเมนูอาหารและการบริการ เพื่อรักษาฐานผู้บริโภคให้เชื่อมั่นในแบรนด์นีโอ สุกี้”

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทมีแบรนด์ร้านอาหารอยู่ทั้งหมด 3 แบรนด์ ได้แก่ นีโอ สุกี้ ประเภทร้านสุกี้โฮมเมด จำนวน 21 สาขา กังฟู ประเภทร้านอาหารหมูตุ๋นหม้อไฟ จำนวน 1 สาขา และซุนวู ประเภทบาร์บีคิว ปิ้งย่าง จำนวน 1 สาขา