
“ดุสิตธานี” นับถอยหลังปิดปรับปรุง 5 มกราคมปีหน้า จับมือ ม.ศิลปากรบันทึกประวัติศาสตร์ 49 ปีแลนด์มาร์กของกรุงเทพฯ เผยโฉมมิกซ์ยูสใหม่ 4 ส่วนหลัก “โรงแรม-อาคารสำนักงาน-ที่พักอาศัย-รีเทล” เผยเตรียมขยายพอร์ตรายได้ทั้งในประเทศ-ต่างประเทศทดแทนช่วงลงทุนโครงการใหม่ไว้เรียบร้อยแล้ว
นายชนินทธ์ โทณวณิก รองประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การแข่งขันธุรกิจโรงแรมในปัจจุบันทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ตลาดและความต้องการของกลุ่มลูกค้าก็เปลี่ยนไป ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มดุสิตธานีได้พัฒนาทั้งด้านโปรดักต์และบริการให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง
ดุสิตธานีปิดปรับปรุงครั้งใหญ่ 5 ม.ค.62

วันนี้ ดุสิตธานีเปิดให้บริการมา 49 ปี ด้วยโครงสร้างเก่าทำให้ศักยภาพในการแข่งขันต่ำลง บริษัทจึงตัดสินใจที่จะปิดปรับปรุงครั้งใหญ่ ในวันที่ 5 มกราคม 2562 โมเดลใหม่ของโรงแรมแห่งนี้ยังคงยืนหยัดที่จะลงทุนทำโรงแรมไทยที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทย และมีเป้าหมายเพื่อแข่งขันในระดับโลก
“เราอยากให้ดุสิตธานียังเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจคนไทยและต่างชาติ จึงได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยศิลปากรมาร่วมบันทึกประวัติศาสตร์และเก็บเรื่องราวของโรงแรมในทุกมิติ โดยเฉพาะอาคารและสถาปัตยกรรมที่เป็นสัญลักษณ์ เพื่อไว้ไห้คนรุ่นหลังได้ศึกษา”
ด้านนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดุสิตธานี กล่าวว่า โฉมใหม่ของโรงแรมแห่งนี้จะเป็นโครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วย 4 ส่วน ได้แก่ 1.โรงแรม 5 ดาว ขนาด 250 ห้อง 39 ชั้น และชั้นบนสุดจะเป็นรูฟท็อป มีฐานของยอดสีทองที่เป็นสัญลักษณ์ของโรงแรม พร้อมแกลเลอรี่บอกเล่าเรื่องราวของดุสิตธานี 2.อาคารสำนักงาน 40 ชั้น 3.เรสซิเดนต์ 60 ชั้น และ 4.ศูนย์การค้า 2 ชั้น (ชั้นใต้ดิน)
“ตัวอาคารที่โผล่อยู่บนดินจะมองเห็นเป็น 3 อาคาร คือ โรงแรมดุสิตธานี จะอยู่ฝั่งติดกับอาคารอับดุลราฮิม อาคารที่พักอาศัยจะอยู่ตรงกลาง และอาคารสำนักงานจะอยู่ติดฝั่งถนนสีสม โดยทุกอาคารจะมองเห็นวิวและพื้นที่สีเขียวและสวนลุมพินี”
หลังจากประกาศปิดในวันที่ 5 มกราคม 2562 คาดว่าจะใช้เวลาในการพัฒนาโครงการใหม่ราว 3.5-4 ปี
นางศุภจีกล่าวว่า ช่วงที่โรงแรมดุสิตธานีปิดปรับปรุงมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้รวม เพราะได้เตรียมแผนขยายพอร์ตธุรกิจและเพิ่มพอร์ตรายได้ไว้แล้ว อาทิการลงทุนในธุรกิจอาหาร ด้วยการลงทุนในบริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนซ์ โปรดิวซ์ การขยายฐานเข้าธุรกิจบริหารและให้เช่าวิลล่าหรู ด้วยการลงทุนใน “อีลิธ เฮเวนส์” เป็นต้น
รวมถึงตั้งหน่วยธุรกิจใหม่อีกหลาย ๆ ส่วนที่รับบริหารแบบเอาต์ซอร์ซ อาทิ หน่วยงาน ดุสิต ออน ดีมานด์ สำหรับให้บริการแม่บ้าน ช่าง พนักงานต้อนรับ ฯลฯ ให้กับโรงแรมอื่น ๆ หรือหน่วยงานอื่น ๆ ที่ต้องการบุคลากรที่มีคุณภาพของดุสิตธานี หน่วยธุรกิจแคเทอริ่ง สำหรับผลิตอาหารให้กับทุกหน่วยงาน หรือทีมที่ปรึกษาสำหรับผู้ที่อยากเปิดโรงแรม เป็นต้น