“นมหนองโพ” ปรับตัวรับตลาดแข่งเดือด เร่งพัฒนาแบรนด์-โปรดักต์ใหม่ เลิกระบบตัวแทนจำหน่าย ลงทุนโลจิสติกส์กระจายสินค้าเอง ประกาศเดินหน้าเพิ่มช่องทางขายทั้งเทรดดิชั่นนอลเทรดและโมเดิร์นเทรด โดยขายออนไลน์รับตลาดบูม ตั้งเป้าเจาะเซเว่นฯทะลุ 1 หมื่นสาขา เปิดเกมรุก “นมซอง” หลากหลายรสชาติ หวังตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ เผยแผนเตรียมส่งนมอัดเม็ดลงตลาดต้นปีหน้า สิ้นปีกวาด 3.5 พันล้าน
นายวิชัย ตันวราโชติ ผู้จัดการสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี (ในพระบรมราชูปถัมภ์) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมภายใต้แบรนด์ “หนองโพ” เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันภาพรวมอุตสาหกรรมนมพร้อมดื่มมีมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท มีแนวโน้มชะลอตัว โดยมีอัตราการเติบโตเพียง 3-5% เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบในแง่กำลังซื้อและทำให้ผู้บริโภคเริ่มจับจ่ายน้อยลง รวมทั้งตลาดมีการแข่งขันค่อนข้างสูง จากการมีผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ กระโดดเข้ามาในตลาดเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
เดินหน้าเพิ่มช่องทางขาย
นายวิชัยกล่าวต่อไปว่า สำหรับนมหนองโพเองที่ผ่านมาได้มีการปรับยุทธศาสตร์เพื่อรองรับการแข่งขันและการเติบโตของตลาดในอนาคต ทั้งในการเร่งพัฒนาและสร้างการรับรู้ในแบรนด์หนองโพ ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ผ่านแคมเปญการตลาดในช่องทางออนไลน์ ได้แก่ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ รวมทั้งมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เข้ามาทำตลาดเป็นระยะ ๆ ขณะเดียวกันก็ได้ปรับกลยุทธ์
การดำเนินธุรกิจใหม่ ด้วยการลงทุนระบบโลจิสติกส์และจัดจำหน่ายเองทั้งหมด จากก่อนหน้านี้ที่ใช้วิธีการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในแต่ละจังหวัดให้เป็นผู้ดำเนินการจำหน่าย รวมทั้งยกเลิกสัญญากับบริษัท ล็อกซเล่ย์ เทรดดิ้ง จำกัด ที่เป็นผู้กระจายสินค้านมหนองโพมานานเกือบ 40 ปี (มิถุนายนปี 2560)
จากนี้ไป นมหนองโพตั้งเป้าจะกระจายสินค้าสู่ร้านค้าทั่วประเทศให้เต็ม 100% ของพื้นที่ จากปัจจุบันที่นมหนองโพกระจายสินค้าได้เพียงแค่ 60% ของพื้นที่เท่านั้น โดยจะให้ความสำคัญกับการจะขยายช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุมร้านค้า โมเดิร์นเทรด และห้างสรรพสินค้าท้องถิ่น ยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว โดยในปีหน้าเฉพาะของเซเว่นฯตั้งเป้าว่าจะให้ครอบคลุม 1 หมื่นสาขา จากปัจจุบันมีประมาณ 6,000 แห่ง ส่วนคอนวีเนี่ยนสโตร์ค่ายอื่น ๆ จะเพิ่มอีก 400-500 สาขา นอกจากช่องทางจำหน่ายทั้งเทรดดิชั่นนอลเทรด และโมเดิร์นเทรดแล้ว นมหนองโพยังจะให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ขณะนี้ได้ร้านค้าออนไลน์ให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าผ่าน www.nongpho.com มีบริการส่งสินค้าผ่านระบบขนส่งของเคอรี่ และไปรษณีย์ไทย และในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ยังได้จัดโปรโมชั่นส่งฟรีด้วย
“เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาได้เริ่มทดลองนำผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 รายการ คือ นมพาสเจอไรส์ชนิดซอง รสสตรอว์เบอรี่ และรสช็อกโกแลต และนมเปรี้ยวพร้อมดื่มพาสเจอไรส์บรรจุซอง เข้าวางจำหน่ายในร้านค้าปลีกสะดวกซื้อ อาทิ ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น, 108 ช็อป, ร้านซีเจ เอ็กซ์เพรส, ลอว์สัน และจิฟฟี่ ในปั๊ม ปตท. ผลิตภัณฑ์ชนิดซองเป็นตลาดที่มีคู่แข่งน้อย และมีโอกาสการเติบโตดีบวกกับพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่ชอบการบริโภคนมรสชาติใหม่ ๆ เราจึงชูจุดเด่นเรื่องรสชาติที่มีความหลากหลาย สดใหม่ และความสะดวกเพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว และได้รับการตอบรับค่อนข้างดี”
ทยอยออกโปรดักต์ใหม่บุก
นายธงชัย ดำคำ ฝ่ายการตลาด สหกรณ์โคนมหนองโพ กล่าวว่า ขณะเดียวกันในแง่ของโปรดักต์นั้น ขณะนี้ยังเตรียมจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “นมอัดเม็ด” ตราหนองโพ มาทำตลาดเพิ่ม จำหน่ายในราคา 10-12 บาท/ซอง จะเริ่มทดลองทำตลาดในเดือนมกราคม ปี 2562 เป็นต้นไป
เนื่องจากนมอัดเม็ดเป็นตลาดที่แนวโน้มการเติบโตดี ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ทยอยส่งสินค้าใหม่ออกวางตลาดเป็นระยะ ๆ อาทิ โยเกิร์ต ไอศกรีม ซึ่งหลัก ๆ ก็มุ่งไปที่ร้านสะดวกซื้อ และมีการทำการตลาดในช่องทางดังกล่าวเป็นระยะ ๆ รวมทั้งมีการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ ณ จุดขาย อย่างต่อเนื่อง
นอกจากตลาดในประเทศ ที่ผ่านมานมหนองโพได้ส่งผลิตภัณฑ์ยูเอชทีเข้าไปทดลองตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว พม่า และกัมพูชา โดยส่งสินค้าไปจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ เฉพาะตลาดกัมพูชานั้นถือเป็นตลาดใหญ่ เนื่องจากมีประชากรจำนวนมาก หากสามารถนำผลิตภัณฑ์นมหลากหลายประเภทส่งออกไปได้ จะทำให้ยอดขายในต่างประเทศเพิ่มขึ้นมาก อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดต่างประเทศก็มีค่อนข้างสูง เนื่องจากมีหลายแบรนด์ที่เข้าไปทำการตลาดเช่นเดียวกัน ก็ถือว่าเป็นโจทย์ใหญ่ที่หนองโพจะต้องทำสื่อการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์อย่างหนัก เพื่อสร้างการจดจำให้แก่ผู้บริโภค
ส่วนอีกช่องทางหนึ่งที่เพิ่งเริ่มทำก็คือ การร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นร้านกาแฟ ที่อาจจะเปิดตามปั๊มน้ำมัน หรือที่อื่น ๆ โดยจะเป็นลักษณะของเจ้าของร้านกาแฟลงทุนเอง และนมหนองโพเป็นผู้ซัพพอร์ตผลิตภัณฑ์นมสำหรับใช้ในร้านได้ และอนุญาตให้ใช้โลโก้หนองโพ ซึ่งเจ้าของร้านจะต้องควบคุมการบริการให้ได้มาตรฐานเรื่องความสดของนมโคแท้ 100% คนที่สนใจมาคุยกันได้ และตอนนี้เริ่มเปิดมากขึ้น
“สำหรับตลาดต่างประเทศ นมหนองโพเพิ่งเริ่มมาได้ 1-2 ปี ถือว่ายังช้าอยู่ เพราะคู่แข่งหลาย ๆ รายเข้าไปก่อนแล้ว เราเริ่มขยายได้ 2 ปี มีลาว กัมพูชา เมียนมา ไปขายเอง โดยเน้นที่โปรดักต์ที่เป็นยูเอชที วางขายผ่านดิสทริบิวเตอร์ประเทศนั้น ๆ โดยเฉพาะในกัมพูชา เศรษฐกิจดี ประชากรเยอะ แต่ตัวเลขยังไม่มากนัก ได้ปีละประมาณ 20 ล้านบาท และผู้บริโภคเริ่มรู้จัก เราก็เริ่มทำตลาด ทำ พี.อาร์. ทำมาร์เก็ตติ้ง มีการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ แต่ก็ต้องยอมรับว่าตลาดนี้แข่งขันสูง”
นายธงชัยกล่าวว่า จากแนวทางต่าง ๆ ดังกล่าว คาดว่าสิ้นปีนี้ นมหนองโพจะมีรายได้รวมประมาณ 3,500 ล้านบาท ในจำนวนนี้หลัก ๆ 90% มาจากผลิตภัณฑ์นม ส่วนที่เหลืออีก 10% จะมาจากร้านค้าสหกรณ์ สถานีบริการน้ำมัน โรงงานผลิตอาหารสัตว์ และปีหน้า
ตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 10%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันสหกรณ์โคนมหนองโพมีสมาชิกประมาณ 5,000 ครัวเรือน กระจายอยู่ในจังหวัดราชบุรี นครปฐม และกาญจนบุรี ในจำนวนนี้มีที่เลี้ยงโคนมประมาณ 2,000 ครอบครัว ผลิตนมได้เฉลี่ยประมาณ 200 ตัน/วัน และมีโรงงาน-เครื่องจักรสำหรับแปรรูปเอง นอกจากบทบาทในการผลิตผลิตภัณฑ์นมต่าง ๆ แล้ว สหกรณ์ยังมีบทบาทในการรับฝากเงิน และ ปล่อยเงินกู้สำหรับสมาชิก ในอัตราดอกเบี้ยถูก เพื่อให้สมาชิกนำไปลงทุน
ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat
.
หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!
