“อีฟโรเช” บุกไฮเปอร์มาร์เก็ต สปีดสาขาปรับราคาเจาะฐานลูกค้าแมส

“อีฟ โรเช” ย้ำศักยภาพตลาดเครื่องสำอางไทย โชว์แผนลงทุนต่อเนื่อง เตรียมขยายเพิ่มอีก 13 สาขา ปูพรมทั่วไฮเปอร์มาร์เก็ต-ห้าง-อีคอมเมิร์ซ พร้อมไลน์อัพโปรดักต์จัดเต็มทุกไตรมาส ครอบคลุมแฮร์แคร์ แอนตี้เอจจิ้ง น้ำหอม ก่อนหั่นราคาสินค้าเพิ่มอีก 2-3 รายการ ขยายฐานกลุ่มแมสเต็มที่ รับเป้า 3 ปี รายได้แตะ 1 พันล้าน

นายแม็กซ์ ซาปอลตา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและโซเชียลเซลลิ่ง อีฟ โรเช ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงามแบรนด์อีฟ โรเช กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า อีฟ โรเช ได้เข้ามาทำตลาดในไทยเป็นระยะเวลา 21 ปี และในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา บริษัทแม่ของอีฟ โรเช ได้ซื้อหุ้นคืนจากพาร์ตเนอร์คนไทยทั้งหมด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำตลาดที่มากขึ้น เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพของไทยที่สินค้าความงามมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และผู้บริโภคมีแนวโน้มดูแลตัวเองกันมากขึ้น มีการหาข้อมูลของสินค้าจากออนไลน์ และเปิดกว้างสำหรับแบรนด์ใหม่ ๆ ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ

โดยยุทธศาสตร์ของบริษัทแม่ที่ใช้กับธุรกิจทั่วโลก คือ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการตั้งราคาที่เหมาะสม การเข้าไปตอบโจทย์ในช่องทางของการขายที่ครอบคลุม ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ตลอดจนไลน์โปรดักต์ที่ครบครัน และการเพิ่มน้ำหนักการสื่อสารในช่องทางดิจิทัลเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น

“เรายังคงเชื่อมั่นว่าไทยจะเป็นศูนย์กลางการเติบโตของอีฟ โรเช ในภูมิภาคนี้ต่อไป และวันนี้ก็ต้องบอกว่า ธุรกิจในไทยมีการพัฒนาขึ้นในหลาย ๆ ด้าน ทั้งในแง่ของจำนวนสาขาที่เติบโตขึ้นจนติดอันดับท็อป 10 จากทั่วโลก”

นายเอียน ลองเด้น กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีฟ โรเช (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า หลังจากอีฟ โรเช เข้ามาบริหารเองทั้งหมด ได้ปรับนโยบายใหม่โดยการปรับราคาสินค้าลงเฉลี่ย 30% เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น พร้อมกับปรับกลยุทธ์การขยายสาขาโดยเน้นทั้งห้างสรรพสินค้า และไฮเปอร์มาร์เก็ตควบคู่กัน เพื่อขยายโอกาสไปยังฐานลูกค้าใหม่ ๆ มากขึ้น

โดยแผนการลงทุนในปีหน้า บริษัทยังคงเดินหน้าสร้างความต่อเนื่องจากกลยุทธ์ดังกล่าว ทั้งการขยายสาขาอีก 13 แห่ง เน้นโลเกชั่นในไฮเปอร์มาร์เก็ต จากปัจจุบันที่มีอยู่ทั้งสิ้น 97 สาขา ตลอดจนการเดินหน้าปรับราคาสินค้ารายการใหม่ ๆ ให้ต่ำลงอีกประมาณ 2-3 รายการและจะสร้างความคึกคักให้กับตลาด ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่เฉลี่ยไตรมาสละโปรดักต์ อาทิ แฮร์แคร์ แอนตี้เอจจิ้ง สกินแคร์สำหรับวัยรุ่น และน้ำหอม พร้อมกับการใช้สื่อในช่องทางดิจิทัลเพื่อสร้างการรับรู้ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ตลอดจนเพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินค้าในออนไลน์

“จากที่เคยอยู่แต่ในห้าง วันนี้มาช่องทางไฮเปอร์มาร์เก็ตมากขึ้น โพซิชั่นของแบรนด์ก็ต้องเปลี่ยนไปแน่นอน แต่เปลี่ยนไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราต้องการที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าแมส เพราะแก่นของอีฟ โรเช คือ affordable และ quality นั่นหมายถึง การให้ความสำคัญว่าลูกค้าจะได้จ่ายสินค้าในราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพที่พวกเขาจะได้รับ และเหตุผลที่เราทำราคาเท่านี้ได้ เพราะควบคุมการผลิตเองทั้งหมด ตั้งแต่เพาะปลูกจนถึงมือลูกค้า”

ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวสาขาใหม่ที่ไอคอนสยาม ในคอนเซ็ปต์เอ็กซ์พีเรียนทอลแล็บ มีการปรับร้านให้ดูทันสมัย มีสินค้ารวมกว่า 600 รายการ ครอบคลุมตั้งแต่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ผิวกาย ทำความสะอาดผิว เมกอัพ น้ำหอม เป็นต้น พร้อมกับห้องนวดผิวพรรณในบริเวณด้านหลัง โดยมีพื้นที่ตรงกลางร้านให้เป็นโซนสำหรับวางผลิตภัณฑ์ตัวอย่างให้ลูกค้าทดลองใช้ อาทิ รองพื้น ลิปสติก อายแชร์โดว์ ฯลฯ

นายเอียนยังระบุต่อไปอีกว่า สำหรับภาพรวมของตลาดเครื่องสำอางในปีนี้ คาดว่าจะมีการเติบโตประมาณ 7-8% และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปีหน้าซึ่งมีปัจจัยบวกอย่างการเลือกตั้ง และสภาพเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น

ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทมีการเติบโต 20% สูงกว่าตลาดในภาพรวม จากการรุกทำตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยเฉพาะในแคทิกอรี่ของแฮร์แคร์ ที่สามารถสร้างความแตกต่าง และการจดจำแบรนด์ได้อย่างดี ในกลุ่มแชมพูลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผม แชมพูปราศจากซิลิโคน ซึ่งทำให้กลุ่มนี้มีการเติบโตเป็นทริปเปิลดิจิต โดยภายใน 1-3 ปี ได้ตั้งเป้าหมายให้บริษัทมีอัตราการเติบโตในระดับดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และมีรายได้แตะ 1,000 ล้านบาท

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!