“ไบเทค”น็อกดอร์ดึงลูกค้า สบช่อง”ศูนย์ประชุมสิริกิติ์”ปิดยาว

ไบเทคแจ็กพอตหลายเด้ง กลยุทธ์ส่งทีมเคาะประตูบ้านลูกค้าดันรายได้ปี”61 พุ่ง 1,400 ล้าน ปี”62 อีเวนต์ระดับโลกจอง 5 งานสเปเชี่ยลอีเวนต์ คอนเสิร์ตแจมขอใช้พื้นที่ ได้อานิสงส์ช่วงศูนย์สิริกิติ์ปิดรีโนเวตยาว ตั้งเป้าขึ้นเบอร์หนึ่ง

นางสาวปนิษฐา บุรี กรรมการผู้จัดการศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากการวางกลยุทธ์การตลาดด้วยวิธีส่งทีมลงพื้นที่ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำเสนอความพร้อมของศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตราการเข้าใช้พื้นที่ไบเทค (occupancy rate) ในปี 2561 ปรับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 52 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2560

ทั้งนี้ คาดว่าในปีนี้จะโตถึงร้อยละ 20 มีรายได้อยู่ที่ 1,400 ล้านบาท

ส่งทีมน็อกดอร์ดึงลูกค้าเช่า พท.

จากที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าค่อนข้างดี ทำให้ไบเทคยังคงเดินหน้าส่งทีมลงพื้นที่ต่อในปี 2562 ขณะเดียวกันจะดึงดูดใจลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการโดยเน้นย้ำให้เห็นถึงจุดแข็ง โดยเฉพาะการที่ไบเทคอยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ อีสเทิร์นซีบอร์ด รวมทั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)ที่รัฐบาลกำลังเร่งผลักดัน และอยู่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งเชื่อมต่อถึงพื้นที่ไบเทค นอกจากนี้ยังมีบริการพิเศษไบเทคสามารถช่วยหาลูกค้าเข้ามาวางบูทให้กับผู้จัดงานประชุมสัมมนา หรืองานแสดงสินค้าได้ เพราะมีคอนเน็กชั่นกับซัพพลายเออร์ที่หลากหลาย

มั่นใจรายได้โต 20%

การทำการตลาดด้วยรูปแบบนี้ ทำให้ไบเทคมั่นใจว่าในปีหน้า ธุรกิจของไบเทคยังคงขยายตัวอย่างก้าวกระโดดร้อยละ 20เช่นกัน โดยได้ให้นโยบายกับพนักงานว่าไบเทคจะต้องขยับขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาดนี้ให้ได้

นางสาวปนิษฐากล่าวว่า ตามแผนการลงทุนของศูนย์ไบเทคที่วางไว้ 5 เฟส ช่วงที่ผ่านมาได้ขยายพื้นที่ในเฟสที่ 2 ทำให้มีพื้นที่ให้บริการลูกค้าเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 30,000 ตารางเมตร เป็น 70,000 ตารางเมตร ทำให้มีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง สำหรับการขยายลงทุนในเฟส 3 ซึ่งจะต้องสร้างโรงแรมและสำนักงานเพิ่มเติม จะเดินหน้าลงทุนเมื่อใดนั้นจะพิจารณาจากหลายตัวแปร เช่น สภาพเศรษฐกิจ รวมถึงดูว่าผู้ประกอบการในธุรกิจเดียวกันมีแนวโน้มจะขยายธุรกิจเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะหากมีการลงทุนเพิ่มจำนวนมาก อาจทำให้เกิดภาวะ “over supply” ได้

“ไบเทคอาจจะแตกต่างจากคนอื่นที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ตรงที่เป็นธุรกิจของครอบครัว เวลาจะลงทุนจะมองความพร้อมของเราก่อน เพราะใช้เงินลงทุนเอง ไม่เคยร่วมลงทุนกับพาร์ตเนอร์อื่น แม้จะรู้ว่ามีความเสี่ยง ฉะนั้น สิ่งที่ให้ความสำคัญคือ ก่อนตัดสินใจลงทุนก็ต้องดูหลายองค์ประกอบ ต้องรอบคอบ เพราะใช้เงินลงทุนสูง ถ้าถามตอนนี้ต้องบอกว่า ไบเทคอยู่ในโหมด wait and see”

อีเวนต์ระดับโลก 5 งานใหญ่

นางสาวปนิษฐากล่าวว่า ทิศทางธุรกิจในปี 2562 ประเมินจากการจองเข้าใช้พื้นที่ จะมีการจัดงานประชุมและนิทรรศการจำนวนมาก โดยเฉพาะงานระดับโลกบนพื้นที่ไบเทคจะมีถึง 5 งาน เช่น งานประชุมนวัตกรรมทางการแพทย์ ที่ได้สรุปช่วงวัน-เวลาไว้แน่นอนแล้ว และที่น่าจับตาคือ การใช้พื้นที่เพื่อจัดคอนเสิร์ต และงานประเภทแฟนมีตติ้งที่มีผู้จัดหลายรายเข้ามาขอใช้พื้นที่ต่อเนื่องซึ่งทีมเซลส์ของไบเทคต้องบริหารการใช้พื้นที่ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันด้วย

ทั้งนี้ หลังลงทุนพัฒนาพื้นที่ไบเทคระยะที่ 2 ที่แล้วเสร็จในปี 2559 และมีพื้นที่ให้บริการลูกค้าเพิ่มขึ้น ปี 2561 อัตราการเข้าใช้พื้นที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมขยายตัวสูงถึงร้อยละ 52 แบ่งเป็น 1) การจัดนิทรรศการขนาดใหญ่ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เมื่อเทียบจากปีก่อน จาก 46 งาน เพิ่มขึ้นเป็น 52 งาน

2) การจัดประชุม ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 53 จาก 47 งาน เป็น 72 งาน และ3) กิจกรรมพิเศษ โดยเฉพาะในรูปแบบคอนเสิร์ต ขยายตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดถึงร้อยละ 85 จากเดิม 13 งาน เพิ่มขึ้นเป็น 46 งาน

นอกเหนือจากการจัดงานระดับโลกแล้ว ยังมีลูกค้าระยะยาวที่จัดต่อเนื่องทุกปีและมีสัญญาระยะยาวไว้แล้ว เช่น บริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์, บริษัท ยูบีเอ็ม และล่าสุดคือ บริษัท ดีเอ็มจี อีเว้นท์ โกลบอลล์ เอนเนอร์ยี ผู้จัดงานฟิวเจอร์ เอนเนอร์ยี เอเชีย เป็นต้น

อานิสงส์ศูนย์สิริกิติ์ปิดต้นปี”62

นางสาวปนิษฐากล่าวถึงกรณีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีแผนจะปิดให้บริการชั่วคราวต้นปีหน้า เพื่อทำการรีโนเวตรวมทั้งพัฒนาพื้นที่บางส่วนเพิ่มเติมว่า หากจะบอกว่าไบเทคได้รับอานิสงส์เพราะลูกค้าต้องย้ายมาใช้บริการของไบเทคมากขึ้น ก็ต้องบอกว่าก็มีความเป็นไปได้ แต่ถ้าพิจารณาจากกลุ่มเป้าหมายอาจมีความแตกต่างกันบ้าง ที่สำคัญ ลูกค้าที่เพิ่มขึ้นด้วยเหตุผลนี้ก็ไม่ได้สรุปว่า เขาจะใช้บริการไบเทคต่อในอนาคต เพราะในมุมกลับกัน แม้ว่าไบเทคจะมีความครบครัน แต่อาจจะไม่ตรงตามความต้องการของลูกค้าก็ได้ ที่สำคัญราคาก็แตกต่างกันด้วย

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสถานที่จัดประชุมหรือนิทรรศการของไทยในปัจจุบัน ถือว่าการแข่งขันไม่สูงมากนัก ประกอบด้วย 3 รายใหญ่ คือ 1) ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 2) อิมแพ็ค เมืองทองธานี และ 3) ไบเทค

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!