แบรนด์นอกบุก “สนีกเกอร์” เปิดศึกชิงสาวกกระเป๋าหนัก

ตลาดสนีกเกอร์คึกหนักข้ามปี เชนร้านดังเปิดศึกประชัน “สินค้า-บริการ” ดึงสารพัดคอลเล็กชั่นหายากยั่วใจสนีกเกอร์เฮดกระเป๋าหนัก พร้อมสปีดสาขา-อีคอมเมิร์ซรับดีมานด์โตสะพรั่ง “คาร์นิวัล” เดินสายคอลลาบอเรชั่นแบรนด์ดัง ก่อนโกอินเตอร์นำทัพบุกต่างประเทศ ด้าน “เจดี สปอร์ต” จับมืออินฟลูเอนเซอร์รุกสร้างแบรนด์ออนไลน์ ก่อนผุดสาขาแนวรถไฟฟ้าเสริมทัพ ฝั่ง “แอทมอส” ไม่พลาด ดึงรุ่นเอ็กซ์คลูซีฟเสริมทัพต่อเนื่อง

การเติบโตของตลาดสนีกเกอร์ในปีที่ผ่านมาและต่อเนื่องในปีนี้ กระตุ้นการแข่งขันระหว่างเชนร้านสินค้ากีฬารายใหญ่จากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น แอทมอส (atmos) จากญี่ปุ่น และเจดี สปอร์ต (JD Sport) จากอังกฤษ ซึ่งเตรียมเดินหน้าขยายสาขา หลังใช้ข้อได้เปรียบด้านขนาดธุรกิจและความเชี่ยวชาญในวงการเป็นจุดขาย จนได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากเหล่าสนีกเกอร์เฮด ในขณะที่แบรนด์ไทยเจ้าตลาดอย่าง “คาร์นิวัล” ไม่อยู่เฉย เดินหน้าเสริมแกร่งทั้งเทคนิคการขายและคอลลาบอเรชั่นกับสตรีตแฟชั่นต่าง ๆ เพื่อป้องกันแชมป์ รวมถึงขยายฐานออกสู่ต่างประเทศ

เทียบชั้นอินเตอร์แบรนด์

นายอนุพงศ์ คุตติกุล ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารคาร์นิวัล ฉายภาพตลาดสนีกเกอร์ปี 2562 กับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตลาดมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง หลังกระแสสนีกเกอร์แพร่หลายจากกลุ่มนิชหรือสนีกเกอร์เฮด ไปสู่ผู้บริโภคระดับแมส ทำให้ฐานลูกค้าใหญ่ขึ้น ขณะเดียวกันแบรนด์รองเท้ามองเห็นศักยภาพของตลาดและเพิ่มจำนวนสินค้าที่จะนำเข้ามาเปิดตัวในไทยจนใกล้เคียงต่างประเทศ ส่วนราคาสินค้ามีแนวโน้มขยับขึ้นตามวัสดุและเทคโนโลยีการผลิต ถือเป็นโอกาสของทั้งเชนร้านค้าและแบรนด์รองเท้าส่งผลให้การแข่งขันดุเดือดเช่นเดิม

สำหรับบริษัทปีนี้เน้นอัพเกรดโพซิชั่นเป็นอินเตอร์แบรนด์ ด้วยการส่งสินค้าเฮาส์แบรนด์ทั้งแฟชั่นและอุปกรณ์เสริม อาทิ คาร์นิวัล, ทาวเวอร์บอกซ์และอื่น ๆ ซึ่งคอลลาบอเรชั่นกับแบรนด์รองเท้าและสตรีตแฟชั่นไปขายในอาเซียนและญี่ปุ่น มีไฮไลต์เป็นสนีกเกอร์รุ่นพิเศษ ซึ่งบริษัทเป็นผู้ออกแบบและผลิตโดยแบรนด์รองเท้าดังรายหนึ่ง คาดว่าจะวางขายทั้งไทยและทั่วโลกช่วงต้นปี รวมถึงมองหาทำเลที่ตั้งสาขาในต่างประเทศภายใน 1-2 ปี ส่วนในประเทศมีแผนขยายเพิ่มอีก 2-3 สาขา ใน 1-2 ปีนี้เช่นกัน

ในส่วนของประเทศไทย เน้นด้านบริการและเทคนิคการขาย ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดแข็งของบริษัทและปัจจัยแข่งขันสำคัญไม่แพ้ไลน์อัพสินค้า โดยเน้นสร้างประสบการณ์ในการซื้อสินค้าและความสะดวก เช่น ติดตั้งระบบอินเตอร์แอ็กทีฟ เพื่อนำเสนอเรื่องราวความเป็นมาของรองเท้าแต่ละรุ่นด้วยภาพและวิดีโอ ขณะเดียวกันพัฒนาแอปพลิเคชั่นอำนวยความสะดวกในการต่อคิวซื้อสินค้า เชื่อว่ากลยุทธ์เหล่านี้และจุดแข็งด้านไลน์อัพสินค้าที่ครบครัน จะทำให้สามารถรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดเอาไว้ได้

ลุยยึดทำเลรถไฟฟ้า

นางสาววราทร รัตน์ดิลกพานิชย์ ผู้จัดการสื่อสารองค์กร เจดี สปอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหาร “เจดี สปอร์ต” เชนร้านสปอร์ตแฟชั่นมัลติแบรนด์จากอังกฤษ กล่าวว่า ตลาดสนีกเกอร์ยังมีช่องว่างเรื่องช่องทางขาย เนื่องจากเชนร้านสัญชาติไทยแต่ละรายมีสาขาน้อย จึงเป็นโอกาสที่บริษัทจะขยายสาขาเพื่อเข้าถึงลูกค้าในวงกว้าง โดยเตรียมขยายต่อในทำเลห้างตามแนวรถไฟฟ้าใต้ดินและบนดิน รวมถึงต่างจังหวัด ตามเป้า 20 สาขาใน 3 ปี ขณะเดียวกันก็มีแผนที่จะเร่งพัฒนาเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซภายในช่วงต้นปีนี้เพื่อรับกับดีมานด์ของคนในต่างจังหวัด และตอบโจทย์ความสะดวกสบายของคนรุ่นใหม่

โดยกลยุทธ์หลักของเจดี สปอร์ต คือการมีไลน์อัพสินค้าที่ครอบคลุมตั้งแต่สินค้าเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ทั้งหญิงและชาย ตลอดจนสินค้ารุ่นเอ็กซ์คลูซีฟ “only at JD” ที่แบรนด์รองเท้าจะผลิตให้กับร้านโดยเฉพาะ และมีการนำรุ่นใหม่ ๆ เข้ามาหมุนเวียนภายในร้านทุกวัน ซึ่งในช่วงแรกของการเปิดสาขาจะเน้นสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านการจัดกิจกรรมกับกลุ่มสนีกเกอร์เฮด หรือออนไลน์อินฟลูเอนเซอร์ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการแชร์-บอกต่อ เพื่อรับรองเท้ารุ่นหายาก พร้อมตั้งทีมงานคอยมอนิเตอร์ดีมานด์และสต๊อกแบบรายวัน

เติมรุ่นพิเศษไม่หยุด

นายกรมิษฐ์ ตวิษาวิวิศน์ กรรมการบริหาร บริษัท แอทมอส แบงคอก จำกัด ผู้ได้รับสิทธิ์ในการบริหารร้านแอทมอส จากญี่ปุ่น กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า เทรนด์ของสปอร์ตแฟชั่นได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน แต่ในช่วงที่ผ่านมาการเข้าถึงสินค้ารุ่นพิเศษ ลิมิเต็ด เอดิชั่น ยังคงจำกัดเพียงแค่ตัวแทนจำหน่ายบางร้าน หรือต้องบินไปซื้อด้วยตัวเอง เป็นโอกาสให้แอทมอสเข้ามาขยายสาขาในไทย โดยเน้นจุดแข็งของร้านคือการมีรุ่นเอ็กซ์คลูซีฟหายากจากหลายแบรนด์มาจำหน่าย และสินค้าอื่น ๆ ครอบคลุมตั้งแต่รองเท้า เสื้อผ้า แอ็กเซสซอรี่ ฯลฯ เพื่อตอบสนองความต้องการของทั้งกลุ่มนักสะสม สนีกเกอร์เฮด และกลุ่มที่ชื่นชอบรองเท้าทั้งคนไทยและต่างประเทศ

โดยแต่ละเดือนจะมีรุ่นใหม่เข้ามา 2-3 รุ่น ระดับราคา 5,000 บาทขึ้นไป เช่น เร็ว ๆ นี้จะมีรองเท้าไนกี้ รุ่น Air Fear Of God Skylon II เป็นต้น ก่อนที่จะมีแผนขยายสาขาเพิ่ม เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างทั่วถึง คาดว่าภายใน 3 ปีจะมีทั้งหมด 5 สาขา

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!