ค้าปลีก เปลี่ยนขาช็อป งัดสารพัดกลยุทธ์เพิ่มยอด

ด้วยเทคโนโลยีพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้พฤติกรรมการซื้อสินค้าผู้บริโภคไม่มีเส้นแบ่งระหว่างช็อปออนไลน์และออฟไลน์ ดังนั้น ผู้ประกอบการค้าปลีกและนักการตลาดจึงพยายามสร้างทางเลือกใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการขาย พร้อมกับการเจาะเข้าถึงผู้บริโภค

“สรินพร จิวานันท์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นไวโร ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า จากแนวโน้มร้านค้าปลีกออฟไลน์ (หน้าร้าน) ในอเมริกาที่ปิดตัวลงในปีก่อนถึง 8,828 ร้าน ซึ่งรวมถึงค้าปลีกแบรนด์ดัง เช่น Macy, GAP, Toy R Us แต่ในทางกลับกัน มีร้านค้าขนาดเล็กเปิดเพิ่มถึง 12,663 ร้าน โดยเฉพาะกลุ่มออนไลน์ เช่น เจดีดอทคอม อเมซอน อาลีบาบา เป็นต้น ที่หันมา

เปิดหน้าร้านค้ามากขึ้น เช่น อเมซอน โก เหอหม่า เฟรช เป็นต้น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่นักช็อปรุ่นใหม่ แนวโน้มนี้ สะท้อนถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคกำลังถูกเปลี่ยน ดังนั้น เอ็นไวโรจึงได้สรุป 5 เทรนด์ค้าปลีกที่กำลังจะเกิดขึ้นปีนี้์ เพื่อให้นักการตลาดและค้าปลีกนำไปปรับใช้

เริ่มตั้งแต่เทรนด์แรก shadow shopping-เปลี่ยนการดูมาเป็นการซื้อ โดยนำบิ๊กดาต้าที่มีมาวิเคราะห์และจัดโปรโมชั่น หรือข้อเสนอพิเศษที่ตรงใจผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ตัดสินใจซื้อทันที เช่น เครื่องสำอาง Smashbox ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาจับสายตาผู้บริโภคว่ากำลังดูสินค้าอะไร และนำเสนอสินค้าที่สนใจ เป็นต้น

เช่นเดียวกับ sellrounding-เปลี่ยนทุกพื้นที่รอบตัวให้เป็นหน้าร้าน เพื่อเพิ่มโอกาสทางการขาย ไม่ว่าจะเป็นไอเดียการเปลี่ยนป้ายรถเมล์ ตู้เสื้อผ้าในโรงแรม สวนสาธารณะให้เป็นพื้นที่ขาย เช่น เอชแอนด์เอ็มผุดตู้คอนเทนเนอร์เพื่อขายเสื้อผ้ากลางชายหาด หรืออาดิดาสที่มีพ็อปอัพสโตร์ตามสวนสาธารณะ

ส่วนเทรนด์ที่ 3 syntail การรวมตัวทางธุรกิจ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม หวังตอบทุกเส้นทางการซื้อสินค้าของผู้บริโภคในทุกขั้นตอน ซึ่งการรวมตัวที่เกิดขึ้นเป็นการรวมตัวระหว่างบริษัทที่มีข้อมูล (database) กับโลจิสติกส์ ถือเป็นจิ๊กซอว์สำคัญของค้าปลีกยุคนี้ เช่น อาลีบาบา ร่วมกับสตาร์บัคส์ เพื่อเปิดโอกาสให้คนสั่งสตาร์บัคส์ผ่านออนไลน์ โดยสตาร์บัคส์ก็ใช้ศักยภาพจากระบบขนส่งของอาลีบาบามาสร้างยอดขายอีกทาง เป็นต้น

ตามด้วย shopperscape-ให้ผู้บริโภคควบคุมกระบวนการซื้อด้วยตัวเอง เพิ่มทางเลือกให้ซื้อสินค้าอย่างอิสระทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ยกตัวอย่าง เช่น วอลมาร์ต เปลี่ยนจากลานจอดรถเป็นพื้นที่รับสินค้า เพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่สั่งออนไลน์ และมารับได้ที่ลานจอดภายใน 5 นาที สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือซื้อสินค้าน้อยชิ้น เป็นต้น และเทรนด์สุดท้าย selfluencer-เชื่อตัวเอง

ตอนนี้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในข้อมูลมากกว่าอินฟลูเอนเซอร์ จึงตัดสินใจซื้อสินค้าจากข้อมูลมากกว่าอารมณ์ โดยไม่ลังเล หรือเลือกเยอะอีกแล้ว

หากย้อนกลับมาที่ค้าปลีกไทย “สรินพร” กล่าวว่า shadow shopping และ shopperscape ถือเป็น 2 เทรนด์หลักที่กำลังเกิดขึ้น โดย shadow shopping นี้ค่อนข้างชัดเจน สะท้อนจากความนิยมซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ทั้งไอจี เฟซบุ๊กมากขึ้น

อีกทั้งร้านค้าออนไลน์เหล่านี้ก็นำดาต้าที่มีมาวิเคราะห์ เพื่อสร้างข้อเสนอให้โดนใจผู้บริโภค เพื่อกระตุ้นการขาย เช่นเดียวกับ shopperscape ที่ศูนย์การค้าในไทยอย่างเซ็นทรัล เริ่มมีเครื่อง self check out ให้ผู้บริโภคทำอะไรด้วยตัวเอง

“สรินพร” ย้ำว่า เทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้น ถือเป็นโอกาสของแบรนด์ขนาดเล็กในการสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจ เพราะสามารถทำการตลาดและขายสินค้าได้หลากหลายช่องทางมากขึ้น เพิ่มโอกาสในการขายและการเติบโต