“ปุ้มปุ้ย” แตกไลน์บุกสแน็ก สู้ศึกปลากระป๋องหมื่นล้าน

ตลาดปลากระป๋องชะลอตัว “ปุ้มปุ้ย” เร่งพัฒนาแบรนด์ชูคุณภาพ-ราคามาตรฐาน-เพิ่มโปรดักต์ใหม่ เสริมแกร่งธุรกิจ ลั่นปีหน้าเตรียมฉลองครบรอบ 40 ปี ระดมโปรโมชั่น “ลด แลก แจก แถม” ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง

นายไกรฤทธิ์ โตทับเที่ยง ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตปลากระป๋อง “ปุ้มปุ้ย” และ “ปลายิ้ม” เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาพรวมตลาดปลากระป๋องประเภทซอสมีมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท มีแนวโน้มชะลอตัว โดยมีอัตราการเติบโตเพียง 1-2% จากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบในแง่กำลังซื้อ และทำให้ผู้บริโภคออกมาจับจ่ายน้อยลง และช่วงปี 2561 ถือเป็นปีที่กำลังซื้อตกต่ำอย่างมาก หากผู้ประกอบการต้องการอยู่รอด ต้องควบคุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อย่างรัดกุม ทั้งนี้ ทั้งนั้น ในช่วงหลังเลือกตั้งปี 2562 คาดว่าผู้บริโภคจะมีกำลังซื้อและกล้าจับจ่ายมากขึ้นรวมทั้งในตลาดปลากระป๋องมีการแข่งขันค่อนข้างสูง จะเห็นได้ว่ามีผู้ประกอบการรายใหม่กระโดดเข้ามาในตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะแบรนด์โลคอลและร้านของผู้ประกอบการรายย่อย พบว่ามีการแข่งขันตัดราคากันอย่างรุนแรง ทำให้บริษัทมองว่าการทำตลาดในรูปแบบดังกล่าวไม่น่าจะอยู่ได้ในระยะยาว คาดว่าหากผู้ประกอบการยังแข่งขันเรื่องราคา ในระยะเวลาอีก 1-2 ปีข้างหน้าอาจจะต้องปิดตัวลงและหายไปจากตลาด

จากแนวทางดังกล่าวบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการปรับกลยุทธ์เน้นแข่งขันด้วยคุณภาพ ในราคาที่ได้มาตรฐาน และเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ซึ่งนอกจากปลากระป๋องยังมีผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานสำเร็จรูปตราปุ้มปุ้ย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Smilimg Meal” ให้ทุกมื้ออาหารเต็มไปด้วยรอยยิ้มมีทั้งหมด 8 เมนู อาทิ คั่วกลิ้งไก่ ผัดกะเพราไก่ แกงมัสมั่นไก่ เป็นต้น ราคาซองละ 30 บาท วางจำหน่ายผ่านซูเปอร์มาร์เก็ต เจาะกลุ่มแม่บ้านยุคใหม่ที่ใช้เวลาเร่งรีบ นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์น้ำแกงพร้อมปรุง เพื่อรองรับความต้องการของตลาดในแถบยุโรปที่มีความชื่นชอบอาหารไทย ซึ่งจะนำผลิตภัณฑ์ไปประชาสัมพันธ์ในงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในงาน Anuga 2019 ที่ประเทศเยอรมนี

ขณะที่ภาพรวมของบริษัทในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มียอดขายเติบโตขึ้น เนื่องจากปลากระป๋องปุ้มปุ้ยมีราคา 15 บาท ซึ่งเป็นราคามาตรฐาน ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งแตกต่างจากยอดขายในปี 2561 ที่มีการเติบโตค่อนข้างชะลอตัว จากปัจจัยเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว และผู้บริโภคระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอย อีกทั้งยังได้รับผลกระทบจากช่วงต้นปีปริมาณปลาหายากขึ้น ทำให้วัตถุดิบขาดตลาดส่งผลกระทบต่อการผลิตที่ไม่เพียงพอ บริษัทจึงมีการวางแผนสั่งจองปลาล่วงหน้าจากซัพพลายเออร์ที่อยู่ในละแวกเอเชีย ได้แก่ จีน และญี่ปุ่น เพื่อให้วัตถุดิบเพียงพอต่อการผลิตในทุก ๆ ปี

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2562 ในแง่ของโปรดักต์ขณะนี้เตรียมลอนช์ผลิตภัณฑ์ใหม่สแน็กแบรนด์ “Smiling fish” 4 รสชาติ อาทิ หอยลายอบกรอบ ออริจินอลรสกระเทียมอบกรอบ รสสาหร่าย รสต้มยำอบกรอบ ขนาด 30 กรัม วางจำหน่ายผ่านช่องทางร้านซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วประเทศ ควบคู่กับจัดกิจกรรมตามจุดขาย และจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการขายตามร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ตต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภครวมทั้งตลาดต่างประเทศมองว่า ภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อในต่างประเทศมีแนวโน้มเติบโตขึ้น ถือเป็นโอกาสส่งออกผลิตภัณฑ์ปลากระป๋องปุ้มปุ้ยไปยังต่างประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา เวียดนาม ลาว ผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ทำหน้าที่กระจายสินค้าออกสู่ตลาด โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากการทำตลาดภายในประเทศอยู่ที่ 80% และต่างประเทศอีก 20%

นอกจากนี้ ในช่วงต้นปี 2562 ถือว่าเป็นวันครบรอบ 40 ปีของการดำเนินธุรกิจ บริษัทได้จัดเตรียมกิจกรรมและโปรโมชั่น “ลด แลก แจก แถม” ให้กับผู้บริโภค ซึ่งจะจัดขึ้นที่งานไทยเฟค เมืองทองธานี ประมาณช่วงเดือนพฤษภาคม

นายไกรฤทธิ์กล่าวต่อว่า การขยายธุรกิจต่อจากนี้ไปจะยังคงศึกษาตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมุ่งเน้นการรักษาคุณภาพของทุกเมนูอาหาร เพื่อรักษาฐานผู้บริโภคให้เชื่อมั่นในแบรนด์ “ปุ้มปุ้ย” อย่างต่อเนื่อง

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!