เครื่องใช้ไฟฟ้าแข่งนวัตกรรม “สมาร์ท-ประหยัด-สุขภาพ” มัดใจลูกค้า

เครื่องใช้ไฟฟ้าประชันนวัตกรรมชิงดีมานด์ปี 2562 ฟังก์ชั่นสมาร์ทเอไอ-ไอโอทีทวีความแรงทุกกลุ่ม ตีคู่เทรนด์ประหยัดพลังงาน-สุขภาพ ไซซ์ใหญ่ ด้านแบรนด์ญี่ปุ่น เกาหลี จีนเตรียมขนทัพสินค้าไฮไลต์ลงตลาดยาวตลอดปี หวังมัดใจลูกค้าระดับบนถึงไฮเอนด์กำลังซื้อสูง

เดือน ม.ค.เป็นจังหวะที่แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าเริ่มเตรียมไลน์อัพสินค้าสำหรับแข่งขัน ซึ่งสะท้อนถึงเทรนด์ของตลาดในปีนั้น ๆ ด้วยเช่นกัน โดยปีนี้เทรนด์หลักมีทั้งเรื่องใหม่อย่างฟังก์ชั่นเอไอ-สมาร์ทโฮม และไซซ์ใหญ่ ประหยัดพลังงานและสุขภาพที่ยังอยู่ในความสนใจของผู้บริโภค โดยปีนี้ทั้งแบรนด์เกาหลี ญี่ปุ่น และจีนต่างนำมาใส่ในสินค้าเพื่อชิงความได้เปรียบจากคู่แข่ง

ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ายังโตต่อ

นายนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์แอลจี กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าปีนี้ยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง จากปัจจัยบวก เช่น การเปิดตัวสินค้าใหม่ที่เริ่มตั้งแต่ต้นปี และการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ทำให้บรรยากาศโดยรวมดีขึ้นตามด้วย

ขณะที่แนวทางการแข่งขันหลัก ๆ ปีนี้ คาดว่าโปรโมชั่นราคายังเป็นกลยุทธ์สำคัญของทุกแบรนด์ แต่สิ่งที่จะเพิ่มเข้ามาคือการแข่งขันด้านนวัตกรรม ฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น เช่น การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต การประหยัดพลังงานเพื่อดึงกำลังซื้อจากผู้บริโภคระดับบน-พรีเมี่ยม เนื่องจากคนกลุ่มนี้กล้าลงทุนกับสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ความสะดวกและไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ

ฟังก์ชั่นสมาร์ท-เอไอมาแรง

นายนิพนธ์กล่าวเสริมว่า ปีนี้เชื่อว่าทุกแบรนด์จะแข่งกันเรื่องเทคโนโลยี นวัตกรรมเป็นหลัก ด้วยการนำระบบไอโอที และเอไอ เข้ามาควบคุม ติดตามการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านสมาร์ทโฟน ระบบสั่งงานด้วยเสียง หรือให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานโดยอัตโนมัติ ซึ่งฟังก์ชั่นเหล่านี้จะถูกนำใส่ในสินค้าหลากหลายระดับราคามากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มทีวี ซึ่งหลายแบรนด์เริ่มนำ “กูเกิล แอสซิสแตนต์” มาใช้ ส่วนด้านภาพจะยังเป็นความละเอียดระดับ 4K เป็นหลัก

สำหรับบริษัทที่ผ่านมามีไลน์อัพสินค้ากลุ่มนี้ภายใต้ชื่อ “ทิงคิวเอไอ” (ThinQ AI) และ “สมาร์ททิงคิว” (Smart ThinQ) ในพอร์ตโฟลิโอรวมกว่าครึ่งนับว่าสูงสุดในตลาด และปีนี้คาดว่าจะเพิ่มรุ่นที่มีฟังก์ชั่นเหล่านี้ขึ้นอีกเล็กน้อย
ส่วนกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหญ่อย่างแอร์ ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า ระบบอินเวอร์เตอร์ยังคงเป็นจุดขายหลักด้วย จุดขายด้านการประหยัดพลังงาน ขณะเดียวกัน ความตื่นตัวด้านสุขภาพจะสร้างดีมานด์สินค้าที่เกี่ยวข้องอย่างเครื่องฟอกอากาศอีกด้วย

สอดรับกับทิศทางของ “ซัมซุง” ซึ่งนายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ รองประธานธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวถึงตลาดสินค้าสมาร์ทโฮมว่า ปีนี้อาจมีมูลค่าถึง 2,500 ล้านบาท โดยขยายตัวจาก 645 ล้านบาทในปี 2559 เพื่อชิงความได้เปรียบปีนี้จะเริ่มสร้างการรับรู้สินค้าเอไอและสมาร์ทโฮมในแบรนด์ซัมซุงสมาร์ททิงส์ (Smart Things) และเอไอ “บิกซ์บี้” (Bixby) ด้วยไลน์อัพสินค้าทีวี แอร์ และตู้เย็น รวมถึงปรับพื้นที่ขายในโมเดิร์นเทรดเน้นสาธิตการใช้งานของเทคโนโลยีนี้ เพื่อสื่อสารไปยังผู้บริโภคระดับบน-ไฮเอนด์ ขณะเดียวกัน เดินสายจับมือผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในการนำทั้ง 2 เทคโนโลยีไปใส่ในโครงการเพื่อเป็นจุดขาย

ชูแอร์เน้นประหยัด

สำหรับตลาดแอร์ นายสมพร จันกรีนภาวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแอร์รายใหญ่ “ไดกิ้น” กล่าวว่า ตลาดแอร์ปีนี้ระบบอินเวอร์เตอร์ยังเป็นเทรนด์หลัก เนื่องจากผู้บริโภคมีความเข้าใจและเชื่อมั่นในเทคโนโลยีนี้มากขึ้น รวมถึงให้น้ำหนักกับการประหยัดค่าไฟ นอกจากนี้ ฉลากประหยัดไฟรุ่นใหม่ที่จะเริ่มใช้งานทำให้เห็นความแตกต่างด้านประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานชัดเจนขึ้นอีกด้วย ส่งผลให้การประหยัดไฟเป็นหนึ่งในจุดขายสำคัญ เช่นเดียวกับฟังก์ชั่นสุขภาพอย่างการฟอกอากาศและลดความชื้น รวมถึงดีไซน์ในส่วนของบริษัทจะชูจุดขายด้านการประหยัดพลังงาน เสริมด้วยฟังก์ชั่นในรุ่นระดับบนมาใส่ในรุ่นระดับกลาง-ไฟติ้งอย่างการนำดีไซน์จากรุ่นสมาร์ทมาใช้กับรุ่นสไมล์ 2 ช่วยให้ส่งลมได้ไกลขึ้น และเสริมความทนทานของคอมเพรสเซอร์รุ่นสบายที่เป็นระดับไฟติ้ง รวมถึงอัพเกรดระบบไล่ความชื้นลดกลิ่นอัพในหลายรุ่นตามเทรนด์สุขภาพ

ซักผ้าไซซ์ใหญ่ฮิตไม่เลิก

ด้านนายจาง เจิ้งฮุ้ย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ “ไฮเออร์” กล่าวว่า เทรนด์ของตลาดเครื่องซักผ้านอกจากไอโอทีและสุขภาพแล้ว จะเป็นเรื่องไซซ์ใหญ่ทั้งถังซักและฝา ซึ่งช่วยเพิ่มปริมาณการซักต่อครั้งและความสะดวกในการใช้งาน สะท้อนจากผลตอบรับที่ดีของเครื่องซักผ้าซีรีส์ 525 ส่วนปีนี้เตรียมเปิดตัวเครื่องซักผ้าไซซ์ใหญ่เพิ่มอีก ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบอินเวอร์เตอร์ ลดแบคทีเรีย เชื่อมต่อไวไฟที่มีตั้งแต่ไลน์อัพปี 2561

ส่วนตลาดตู้เย็นเชื่อว่า ฟังก์ชั่นเสริมที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคไทยได้จะเป็นเทรนด์ที่มาแรง โดยไฮเออร์มีตู้เย็นรุ่นใหม่ “นาวิคูลลิ่งพลัส” ชูฟังก์ชั่นตอบโจทย์คนรักสุขภาพ ทั้งนี้ มั่นใจว่าด้วยจุดขายนี้จะทำให้สามารถชิงส่วนแบ่งในแต่ละเซ็กเมนต์เพิ่มขึ้น

แข่งโชว์นวัตกรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากความเคลื่อนไหวในไทยแล้ว ช่วงต้นเดือนยังมีงานโชว์เครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ประจำปี หรือ CES 2019 ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งแต่ละแบรนด์ต่างนำสินค้าไฮไลต์ทั้งตัวต้นแบบและรุ่นขายจริงออกมาโชว์ โดยแอลจีนำ “OLED TV R” โอแอลอีดี ทีวี 65 นิ้ว แบบม้วนเก็บได้ รุ่นพร้อมขายจริงมาโชว์ รวมถึงไลน์อัพทีวีปีนี้ซึ่งมีระบบอัพเกรดภาพและเสียงด้วยเอไอ ตามด้วยกับทัพเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีระบบเอไอ สามารถแจ้งเตือนผลการทำงาน รวมถึงปัญหาขัดข้อง พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้นไปยังผู้ใช้งาน ขณะที่ซัมซุงมีแอลอีดีทีวี เดอะวอลล์ (The Wall) เทคโนโลยีหน้าจอแบบใหม่ให้คุณภาพภาพทัดเทียมกับโอแอลอีดี ทีวี และตู้เย็นแฟมิลี่ฮับที่เป็นหัวหอกของเครื่องใช้ไฟฟ้าเอไอ

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!